สำหรับผลิตภัณฑ์ล่าสุดนี้ได้แก่ Mi Air Purifier 2S, Mi Laptop Air ขนาด 13.3 นิ้ว และ Mi Robot Vacuum ซึ่งทั้งหมดนั้นมาพร้อมกับนวัตกรรมสุดล้ำในราคาที่จับต้องได้
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhlBQ4Mh8ecEhRXh374r5OU-oaJ-styPA7OAmo_it_5sejYl5VzO4NKHAQsqdH1u4LwpCUQI4SaHkj89lk6jgubHDRxWEJsjoBGPberrz9HJhG2be_zts5l5voAzYnkbcbEyRRUv7_ObaE/s1600/Mi+Air+Purifier+2S_02.jpg)
Mi Air Purifier 2S
สุดยอดโซลูชั่นแห่งเครื่องฟอกอากาศในขนาดกะทัดรัด มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับอนุภาคด้วยเลเซอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทราบถึงคุณภาพอากาศ อุณหภูมิห้องและความชื้นของสภาพแวดล้อมโดยรอบในแบบเรียลไทม์บนหน้าจอ OLED ในส่วนฐานของตัวเครื่องมีช่องเพื่อรองรับการกรองอากาศจำนวนกว่า 943 ช่อง ในขณะที่ด้านบนจะมีใบพัดที่มีประสิทธิภาพต่อการช่วยระบายอากาศที่สะอาดขึ้นสู่ด้านบน เพื่อให้สามารถตรวจจับคุณภาพอากาศในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ Mi Air Purifier 2S จึงมีเซ็นเซอร์ตรวจจับอนุภาคด้วยเลเซอร์ที่สามารถวัดอนุภาคอากาศขนาดเล็กถึง PM2.5 และขนาด 0.3 ไมครอน นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถควบคุมการทำงานได้จากระยะไกลโดยใช้แอปพลิเคชั่น Mi Home ไม่ว่าจะเป็นการเปิดหรือปิดเครื่อง ดูข้อมูลคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ เปลี่ยนโหมดการทำงาน (Auto, Sleep และ High Speed) ติดตามการใช้งานของตัวกรอง ตลอดจนตั้งค่าตัวเลือกอัตโนมัติผ่านทางแอปพลิเคชั่นอีกด้วย
Mi Air Purifier 2S พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วที่ Mi store, ร้านค้า IT และเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ ในราคา 5,990 บาท
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgz5psJoZ6Y9nNZTlf9le3NMWbDdKrHnVEoGrR-o1BgYCHnl0ChbLqX3s62Ul-kAMlvFq1Ki0thh_u8AVH0uFQau3528wR0CoDC9-iZmiDXQzTIPQpuKvcuoaNkWVNr8LdivQjqTsWevUY/s1600/Mi+Laptop+Air+13.3_02.jpg)
Mi Laptop Air 13.3”
Mi Laptop Air ขนาด 13.3 นิ้ว นับเป็นแล็ปท็อปอีกรุ่นหนึ่งที่มอบความบางและเบาเป็นพิเศษ ที่มาพร้อมการ์ดจอแยกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และรองรับการขยายฮาร์ดไดรฟ์ แบบ SSD ในตัวเครื่องสีเทาเข้มและเป็นโลหะทั้งชิ้นด้วยดีไซน์สไตล์ Minimalist ด้วยความหนาเพียง 14.8 มม. และหนักเพียง 1.3 กก. ทั้งยังโดดเด่นด้วยหน่วยประมวลผล Intel 8th Generation Kaby Lake-Refresh Core i5-8250U แบบ quad-core ที่มีอัตราความเร็วสูงสุดที่ 3.4GHz พร้อม 8GB DRR4 RAM จึงช่วยให้การทำงานมีความราบรื่นแม้ในระหว่างการใช้งานหนัก เช่น การแต่งภาพ และเล่นไฟล์วิดีโอ นอกจากนี้ Mi Laptop Air ขนาด 13.3 นิ้ว ยังมาพร้อมกับ การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX150 ที่มี 2GB GDDR5 VRAM ซึ่งแทบจะไม่พบในแล็ปท็อปขนาดที่บางเบาเช่นนี้ และด้วยความจุของ SSD PCle ที่มากถึง 256GB จึงยิ่งช่วยให้การทำงานมีความรวดเร็วมากกว่ากว่าไดร์ฟ SATA ที่นิยมใช้ในแล็ปท็อปทั่วไปถึง 3 เท่า
Mi Laptop Air ขนาด 13.3 นิ้ว พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วที่ Mi store, IT City, Advice และร้านค้า IT ชั้นนำ ในราคา 35,990 บาท
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi815O4mOc2osSdSTHJQn1eMvo2yHoYfo4xUBYvzqtLY0QssuGttvLYiLK_3Cv0ObOhl8WiTkHVh9o3wuy4f1glBm4vFErL8LWlrvk7KyX-Pgwdjtw9yozVoHA5_geKbTeWF4EAsb-JYEo/s1600/Mi+Robot+Vacuum_01.jpg)
Mi Robot Vacuum
Mi Robot Vacuum เป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดสุดชาญฉลาดที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถประหยัดเวลาและพลังงานในการทำความสะอาดบ้านได้ในทุกวัน โดยใช้กลไกการทำงานของ LDS (Laser Distance Sensor) และ SLAM (Simultaneous Lacalization and Mapping) ซึ่งช่วยให้ Mi Robot Vacuum สามารถสร้างแผนที่ของสิ่งแวดล้อมโดยรอบเพื่อคำนวณหาเส้นทางเพื่อการทำความสะอาดได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด ทั้งยังสามารถสแกนสภาพแวดล้อมได้แบบ 360 องศา สูงสุดถึง 1,800 ครั้งต่อวินาที และทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์อื่นๆ เพื่อการสร้างแผนที่ห้องนั้นๆ ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง SLAM (Simultaneous Localization and Mapping) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการจัดตำแหน่งที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในยานพาหนะที่ไม่มีคนขับและยานพาหนะสำรวจ โดยข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นนี้จะถูกส่งไปยังหน่วยประมวลผลทั้งสามตัวเพื่อคำนวณเส้นทางการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อช่วยลดเวลาในการทำความสะอาดและให้ผลการทำความสะอาดที่ดีที่สุด
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgz5psJoZ6Y9nNZTlf9le3NMWbDdKrHnVEoGrR-o1BgYCHnl0ChbLqX3s62Ul-kAMlvFq1Ki0thh_u8AVH0uFQau3528wR0CoDC9-iZmiDXQzTIPQpuKvcuoaNkWVNr8LdivQjqTsWevUY/s1600/Mi+Laptop+Air+13.3_02.jpg)
Mi Laptop Air 13.3”
Mi Laptop Air ขนาด 13.3 นิ้ว นับเป็นแล็ปท็อปอีกรุ่นหนึ่งที่มอบความบางและเบาเป็นพิเศษ ที่มาพร้อมการ์ดจอแยกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และรองรับการขยายฮาร์ดไดรฟ์ แบบ SSD ในตัวเครื่องสีเทาเข้มและเป็นโลหะทั้งชิ้นด้วยดีไซน์สไตล์ Minimalist ด้วยความหนาเพียง 14.8 มม. และหนักเพียง 1.3 กก. ทั้งยังโดดเด่นด้วยหน่วยประมวลผล Intel 8th Generation Kaby Lake-Refresh Core i5-8250U แบบ quad-core ที่มีอัตราความเร็วสูงสุดที่ 3.4GHz พร้อม 8GB DRR4 RAM จึงช่วยให้การทำงานมีความราบรื่นแม้ในระหว่างการใช้งานหนัก เช่น การแต่งภาพ และเล่นไฟล์วิดีโอ นอกจากนี้ Mi Laptop Air ขนาด 13.3 นิ้ว ยังมาพร้อมกับ การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX150 ที่มี 2GB GDDR5 VRAM ซึ่งแทบจะไม่พบในแล็ปท็อปขนาดที่บางเบาเช่นนี้ และด้วยความจุของ SSD PCle ที่มากถึง 256GB จึงยิ่งช่วยให้การทำงานมีความรวดเร็วมากกว่ากว่าไดร์ฟ SATA ที่นิยมใช้ในแล็ปท็อปทั่วไปถึง 3 เท่า
Mi Laptop Air ขนาด 13.3 นิ้ว พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วที่ Mi store, IT City, Advice และร้านค้า IT ชั้นนำ ในราคา 35,990 บาท
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi815O4mOc2osSdSTHJQn1eMvo2yHoYfo4xUBYvzqtLY0QssuGttvLYiLK_3Cv0ObOhl8WiTkHVh9o3wuy4f1glBm4vFErL8LWlrvk7KyX-Pgwdjtw9yozVoHA5_geKbTeWF4EAsb-JYEo/s1600/Mi+Robot+Vacuum_01.jpg)
Mi Robot Vacuum
Mi Robot Vacuum เป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดสุดชาญฉลาดที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถประหยัดเวลาและพลังงานในการทำความสะอาดบ้านได้ในทุกวัน โดยใช้กลไกการทำงานของ LDS (Laser Distance Sensor) และ SLAM (Simultaneous Lacalization and Mapping) ซึ่งช่วยให้ Mi Robot Vacuum สามารถสร้างแผนที่ของสิ่งแวดล้อมโดยรอบเพื่อคำนวณหาเส้นทางเพื่อการทำความสะอาดได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด ทั้งยังสามารถสแกนสภาพแวดล้อมได้แบบ 360 องศา สูงสุดถึง 1,800 ครั้งต่อวินาที และทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์อื่นๆ เพื่อการสร้างแผนที่ห้องนั้นๆ ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง SLAM (Simultaneous Localization and Mapping) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการจัดตำแหน่งที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในยานพาหนะที่ไม่มีคนขับและยานพาหนะสำรวจ โดยข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นนี้จะถูกส่งไปยังหน่วยประมวลผลทั้งสามตัวเพื่อคำนวณเส้นทางการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อช่วยลดเวลาในการทำความสะอาดและให้ผลการทำความสะอาดที่ดีที่สุด
Mi Robot Vacuum พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วที่ Mi Store และร้านค้า IT ชั้นนำ ในราคา 12,990 บาท
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjbQrAeonpnt9r06oOM2qBYpou5AG7xzd-CINQMIgaqBcXN09RdnUMI9bnIEGEKbpmj_iUFrB80sGYBzUYtrRyTqA25QFuBGjYh4O0P8s_PdokkbMHMmSw64fXgaBiNSb2ZF_tzx818mkk/s1600/Mi+Ecosystem.jpg)
เสี่ยวหมี่ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ในลำดับที่ 4 ของโลก และได้นำการเปลี่ยนแปลงสู่อุตสาหกรรมต่างๆ จำนวนมากกว่า 100 บริษัท ผ่านระบบนิเวศของลูกค้ากลุ่ม IoT และสินค้าเชิงไลฟ์สไตล์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีอุปกรณ์ต่างๆ จำนวนมากกว่า 100 ล้านชิ้นและยังคงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มโทรศัพท์มือถือจำนวนมากกว่า 10 กลุ่มสินค้าที่ได้กลายเป็นผู้นำในหมวดหมู่ของตนอีกด้วย ทั้งนี้เสี่ยวหมี่ยังคงมุ่งให้ความสำคัญกับการตรวจสอบอย่างรัดกุมในทุกๆ โมเดลสินค้า ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งานที่ใช้งาน MIUI ระบบปฏิบัติการของเสี่ยวหมี่อย่างเป็นประจำทุกเดือนจำนวนถึง 190 ล้านคน สำหรับการใช้งานในนวัตกรรมทั่วไปและบริการอินเทอร์เน็ต
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjbQrAeonpnt9r06oOM2qBYpou5AG7xzd-CINQMIgaqBcXN09RdnUMI9bnIEGEKbpmj_iUFrB80sGYBzUYtrRyTqA25QFuBGjYh4O0P8s_PdokkbMHMmSw64fXgaBiNSb2ZF_tzx818mkk/s1600/Mi+Ecosystem.jpg)
เสี่ยวหมี่ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ในลำดับที่ 4 ของโลก และได้นำการเปลี่ยนแปลงสู่อุตสาหกรรมต่างๆ จำนวนมากกว่า 100 บริษัท ผ่านระบบนิเวศของลูกค้ากลุ่ม IoT และสินค้าเชิงไลฟ์สไตล์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีอุปกรณ์ต่างๆ จำนวนมากกว่า 100 ล้านชิ้นและยังคงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มโทรศัพท์มือถือจำนวนมากกว่า 10 กลุ่มสินค้าที่ได้กลายเป็นผู้นำในหมวดหมู่ของตนอีกด้วย ทั้งนี้เสี่ยวหมี่ยังคงมุ่งให้ความสำคัญกับการตรวจสอบอย่างรัดกุมในทุกๆ โมเดลสินค้า ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งานที่ใช้งาน MIUI ระบบปฏิบัติการของเสี่ยวหมี่อย่างเป็นประจำทุกเดือนจำนวนถึง 190 ล้านคน สำหรับการใช้งานในนวัตกรรมทั่วไปและบริการอินเทอร์เน็ต
COMMENTS