VIA บริการชำระเงินด้วยมือถือข้ามประเทศ ที่ให้ลูกค้าใช้จ่ายผ่าน e-Wallet ของค่ายมือถือตัวเองได้ ระหว่างอยู่ต่างประเทศ
สิงเทล จับมือ เอไอเอส ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของไทย และธนาคารกสิกรไทย ผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งรายใหญ่ที่สุดของไทย เปิดตัวเครือข่ายชำระเงินผ่านมือถือข้ามประเทศ ในชื่อ VIA เริ่มต้น สิงคโปร์-ไทย ด้วย Singtel Dash และ Rabbit LINE Pay (ผ่านแอปฯ AIS GLOBAL Pay)
ลูกค้าชาวสิงคโปร์ที่ใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ Singtel Dash และลูกค้าชาวไทยที่ใช้ Rabbit LINE Pay (ผ่านแอปฯ AIS GLOBAL Pay) สามารถชำระเงินผ่าน QR Code ที่มีสัญลักษณ์ VIA หรือ Thai QR Code ด้วยสกุลเงินของประเทศตัวเอง โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ช่วยให้ไม่ต้องกังวลกับอัตราแลกเปลี่ยน หรือถือเงินสดในระหว่างเดินทาง ผนึกกำลังพาร์ทเนอร์ ร่วมผลักดันแนวคิดสังคมไร้เงินสดแบบไร้พรมแดน เสริมความแข็งแกร่งให้กับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กลุ่มสิงเทล เปิดตัว VIA บริการชำระเงินผ่านมือถือข้ามประเทศ ภายใต้การร่วมมือกับพันธมิตรในกลุ่ม เพื่อเชื่อมต่อบริการระหว่างกัน ด้วยการเริ่มต้นจับมือกับ เอไอเอส ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของไทย และธนาคารกสิกรไทย ผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งรายใหญ่ที่สุดของไทย พร้อมให้บริการชำระเงิน ด้วยคิวอาร์โค้ดผ่านทางกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์บนมือถือ ทั้ง Singtel Dash และ Rabbit LINE Pay (ผ่านแอปฯ AIS GLOBAL Pay) ในร้านค้าของทั้งสองประเทศที่แสดงสัญลักษณ์ VIA รวมถึงร้านค้าในประเทศไทยที่มีสัญลักษณ์ Thai QR Code รวมจำนวนมากกว่า 1.6 ล้านร้านค้าทั่วประเทศ
ในขั้นแรก พันธมิตรของ VIA ทั้งผู้ที่เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมและธุรกิจอื่นที่ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคม จะเชื่อมต่อกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน เพื่อสร้างเครือข่ายการชำระเงินให้ทั่วภูมิภาค ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีความปลอดภัยและสะดวกสบายในการชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เมื่อเดินทางในภูมิภาคเอเชีย โดยหลังจากนี้ จะมีการขยายไปยังพันธมิตรอื่นๆ ในภูมิภาค เช่น Airtel ในอินเดีย, Globe ในฟิลิปปินส์, Telkomsel ในอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม จะมีการคำนึงถึงกฎระเบียบของแต่ละประเทศ
นายอาเธอร์ แลง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสิงเทล อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “นี่คือวันที่มีความสำคัญมากสำหรับกลุ่มสิงเทล โดยความพยายามของพันธมิตร VIA ซึ่งมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงการชำระเงินที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ ด้วยการนำเอากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์รูปแบบต่างๆ มาอยู่รวมกัน เพราะเมื่อเวลาที่ผู้คนเดินทางในภูมิภาคเอเชีย เราต้องการให้พวกเขาสามารถใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์จากประเทศของตนเองได้อย่างง่ายดายในต่างประเทศ โดย VIA จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการชำระเงินให้กับผู้บริโภคนับล้านคน โดยรวมถึงฐานผู้ใช้งานของเราทั้งหมดว่า 700 ล้านคน เรามองเห็นโอกาสอันสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้เกิดการใช้งานกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพราะสิ่งนี้จะเป็นแรงผลักดันใหญ่ที่ช่วยให้ภูมิภาคอาเซียนเข้าสู่สังคมไร้เงินสด และสานต่อวิสัยทัศน์ในการทำให้เกิดตลาดดิจิทัลที่ใช้งานร่วมกัน”
ในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังตลาดของกลุ่มสิงเทลในภูมิภาคเอเชียกว่า 80 ล้านคน โดยในจำนวนนี้มากกว่า 1.5 ล้านคนต่อปีที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในสิงคโปร์และไทย และตัวเลขนี้ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จุดเด่นของ VIA คือบริการที่โปร่งใส สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าแบบไร้รอยต่อ ทั้งนี้ เอไอเอสและสิงเทล ต่างให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อมาตรการด้านความปลอดภัย cyber security โดยนักท่องเที่ยวสามารถใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อชำระเงินด้วยสกุลเงินของประเทศตนเอง เมื่อมาท่องเที่ยวในสิงคโปร์และไทย ซึ่งถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีการแข่งขันสูงในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา บริการนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องกังวลกับการพกพาเงินตราต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญไม่ต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมทางการเงินข้ามประเทศอีกด้วย ส่วนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กที่ไม่สามารถรับบัตรเครดิต ก็จะสามารถขยายการรับชำระเงินจากนักท่องเที่ยวผ่านการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์นี้ได้อย่างสะดวกอีกด้วย ส่วนแอปพลิเคชันชำระเงินผ่านมือถือรายอื่นๆ สามารถเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรกับ VIA เพื่อที่จะได้เข้าถึงกลุ่มผู้ขายและฐานลูกค้าของกลุ่มสิงเทลทั่วทั้งภูมิภาค
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า “สำหรับประเทศไทย ทุกภาคส่วนร่วมกันผลักดันแนวคิดสังคมไร้เงินสดให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เอไอเอสเองในฐานะผู้นำด้านเครือข่ายและบริการดิจิทัลของประเทศ เรามุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาบริการที่จะออกมาตอบโจทย์เรื่อง Mobile Payment อย่างต่อเนื่อง ในครั้งนี้ ถือเป็นมิติใหม่ที่จะยกระดับสังคมไร้เงินสดของไทยไปอีกขั้น ภายใต้การผนึกกำลังกับกลุ่มสิงเทล และได้รับความร่วมมือจากองค์กรพันธมิตรชั้นนำในประเทศไทย ที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน เพื่อร่วมมอบประสบการณ์ใหม่ในการชำระเงินดิจิทัลแบบไร้พรมแดน ให้กับลูกค้าและคนไทย ที่เดินทางไปสิงคโปร์ให้สามารถใช้จ่ายผ่านอี-วอลเลท กับร้านค้าที่ร่วมบริการ VIA ได้อย่างสะดวก ซึ่งล้วนเป็นสินค้าและบริการจากแบรนด์ที่คนไทยให้ความนิยม รวมกว่า 20,000 ร้านทั่วสิงคโปร์ ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าคนไทยที่ใช้ Rabbit LINE Pay สามารถดาวน์โหลดแอป AIS GLOBAL Pay เพื่อไปใช้งานที่ประเทศสิงคโปร์ได้เช่นกัน
ในขณะเดียวกัน เอไอเอสต้องขอขอบคุณบริษัทพันธมิตรและผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ในประเทศที่เล็งเห็นความสำคัญ และมาร่วมกันสร้างบริการนี้ให้เกิดขึ้นจริงด้วย นำโดย KBANK ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งชั้นนำของประเทศที่มี Thai QR Code มากที่สุดในไทย, Central ศูนย์การค้าชั้นนำ รวมทั้งร้านค้าแบรนด์ดัง อาทิ After You, นารายา ฯลฯ รวมถึงร้านค้าขนาดกลางและขนาดเล็ก ตามแหล่งชุมชนต่างๆ และร้าน Street Food ที่รับชำระด้วย Thai QR Code มาเข้าร่วมโครงการ VIA ด้วยกัน รวมจำนวนมากกว่า 1.6 ล้านร้านค้าทั่วประเทศ ก็พร้อมที่จะให้บริการกับชาวสิงคโปร์ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย อันเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวยุคดิจิทัลให้กับประเทศไทย สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล สานต่อไทยแลนด์ 4.0”
นายควน มูน ยูเอ็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายลูกค้าของสิงค์เทล กล่าวว่า “เราภูมิใจมากที่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกรายแรกๆ ของบริการ VIA และรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้นำเอาบริการชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศเข้ามาให้บริการกับลูกค้าของ Singtel Dash นี่คือความมุ่งมั่นของเราที่ต้องการขยายการเข้าถึงและทำให้ทุกคนในสิงคโปร์สามารถเพลิดเพลินกับการชำระเงินในชีวิตประจำวันอย่างสะดวกและปลอดภัย และไม่ว่าพวกเขาจะเดินทางไปที่ไหน เราจะสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับเหล่าพันธมิตรและพัฒนาแอปพลิเคชัน Dash ให้กลายเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่แพร่หลายและใช้กันในชีวิตประจำวันของลูกค้า”
ชาวสิงคโปร์จ่ายด้วย Singtel Dash เมื่อมาเมืองไทย ส่วนชาวไทยจ่ายด้วย Rabbit LINE Pay ผ่าน แอปฯ AIS GLOBAL Pay เมื่อไปสิงคโปร์
ด้วยจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 500,000 ราย Singtel Dash ถือเป็นบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ครบและจบในที่เดียว เพราะช่วยให้ลูกค้าสามารถแปลงค่าเงิน ซื้อของ และส่งเงินไปทั้งในและนอกประเทศ บริการนี้พร้อมให้ทุกคนสามารถใช้งานได้แล้วในสิงคโปร์ โดยสามารถใช้งานผ่านผู้ให้บริการโทรคมนาคม ธนาคาร หรือโทรศัพท์รุ่นใดก็ได้ ส่วนในไทย Singtel Dash สำหรับผู้บริโภค จะสามารถใช้งานกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ VIA และ Thai QR Code โดยสามารถสแกนคิวอาร์โค้ด หรือจะให้ร้านค้าสแกนคิวอาร์โค้ดของลูกค้าผ่านแอปพลิเคชันก็ได้
โดยลูกค้าชาวสิงคโปร์ สามารถใช้งาน Singtel Dash เพื่อซื้ออาหาร-เครื่องดื่ม และช็อปสินค้าต่างๆ ได้ที่ร้านค้าในไทยกว่า 1.6 ล้านจุดทั่วประเทศ ตั้งแต่ศูนย์การค้าชั้นนำ, ร้านแบรนด์เนม, แหล่งช็อปปิ้งที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ, ร้านค้าขนาดกลางและขนาดเล็ก ตามแหล่งชุมชนต่างๆ ตลอดจนร้าน Street Food ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ความอร่อยของไทยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
ส่วนประเทศไทยนั้น ลูกค้าที่ใช้แอปแชท LINE จำนวนกว่า 42 ล้านราย พร้อมที่จะใช้บริการ VIA ได้ โดยในจำนวนนี้ มีผู้ใช้ Rabbit LINE Pay จำนวนกว่า 5 ล้านราย ที่หลังจากมีการแสดงตัวตนผู้ใช้งานตามแนวทางปฏิบัติของภาครัฐแล้ว ก็สามารถดาวน์โหลดแอปฯ AIS Global PAY เพื่อใช้บริการ VIA ได้ทันที เมื่อเดินทางไปที่ประเทศสิงคโปร์ โดยสามารถชำระค่าแท็กซี่ ซื้อสินค้าและบริการ หรือค่าอาหารในสิงคโปร์กว่า 20,000 จุดทั่วประเทศ โดยปัจจุบัน Rabbit LINE Pay ถือเป็นกระเป๋าเงินบนมือถือที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ ทั้งในกลุ่มคนรุ่นใหม่และคนทุกเพศทุกวัย เพราะถูกฝังอยู่ใน LINE แอปฯ แชทยอดนิยมอันดับหนึ่งของไทย
เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวบริการระหว่างสิงคโปร์และไทยในครั้งนี้ Singtel Dash พร้อมมอบสิทธิพิเศษด้วยส่วนลด 10% สำหรับทุกการชำระเงินผ่านทาง Singtel Dash ในประเทศไทย และมอบอินเทอร์เน็ตโรมมิ่งจำนวน 1 GB มูลค่า 5 ดอลลาร์สิงคโปร์ในไทยสำหรับลูกค้าของสิงเทลโดยเฉพาะ
ส่วนโปรโมชั่นพิเศษสำหรับ AIS GLOBAL Pay เมื่อชำระค่าสินค้าและบริการที่สิงคโปร์ โดยจ่ายด้วย Rabbit LINE Pay (ขั้นต่ำ 100 บาท) จะได้รับเงินคืนทันทีจำนวน 100 บาท ระยะเวลาโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2561 โดยลูกค้าของ Rabbit LINE Pay จะได้รับสิทธิ์ 1 คน / 1 สิทธิ์ตลอดโครงการ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ viaconnects.com
COMMENTS