รีวิว HUAWEI Mate20 กับ 20 จุดเด่นที่พิสูจน์แล้วว่าคุ้มค่าน่าซื้อ

รวม 20 จุดเด่น ที่พิสูจน์แล้วจากประสบการณ์การใช้งานจริงกว่าครึ่งเดือน เป็นเหตุผลที่เลือกซื้อ HUAWEI Mate20 ในราคาเครื่องเปล่า 24,990 บาทแล้วรู้สึกว่าไม่ผิดหวัง คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป โดยไม่ที่จำเป็นต้องจ่ายแพงขึ้นเพื่อขยับไปรุ่น Mate20 Pro หรือ Mate20 X ที่ดูเกินความจำเป็น หลายคนมองข้าม Mate20 ไปซื้อ Mate20 Pro โดยที่ไม่รู้ว่า Mate20 ธรรมดา ๆ มีจุดเด่นบางอย่างที่น่าสนใจ และประหยัดเงินได้อีกเยอะ

1. ดีไซน์ล้ำสมัย สวยอมตะ

เดิมที HUAWEI Mate10 Pro สีน้ำตาล ที่วางขายมาครบปี ดีไซน์ด้านหลังก็ดูสวยงดงามแล้ว แต่เมื่อได้เป็นเจ้าของ HUAWEI Mate20 ยิ่งภูมิใจมากกว่า เพราะด้านหน้าขอบจอภาพบางเฉียบทั้ง 4 ด้านดูล้ำยุค พลิกด้านหลัง เห็นการวางตำแหน่งกล้องและแฟลชรวมกลุ่มเป็นสี่เหลี่ยมตรงกลางตัวเครื่องแบบสมมาตร ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร สวยโดดเด่นเหนือกาลเวลา ดูไม่ขัดตาเหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไปที่นิยมวางกล้องไว้ที่มุมด้านซ้ายบนของตัวเครื่อง

2. หมดปัญหาคราบมันและรอยนิ้วมือ ต้องเลือกสี Midnight Blue เท่านั้น

Mate20 ที่ไม่ใช่ Mate20 Pro กับ Mate20 X มีให้เลือก 2 สี แต่แนะนำให้เลือกสี Midnight Blue เพราะด้านหลังซึ่งเป็นกระจกขอบโค้ง มีการทำ Texture ไว้ทั่วทั้งแผ่นกระจกที่เรียกว่า Hyper Optical Pattern ดูเหมือนเป็นลายเส้นเฉียง ๆ ซึ่งนอกจากจะสวยเงางามแล้ว ยังช่วยลดปัญหาเรื่องคราบมันและรอยนิ้วมือได้ดีมาก ทนทานต่อรอยขีดข่วนได้ดีมาก ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องเช็ดทั้งวันเหมือนสมาร์ทโฟนที่ใช้กระจกเงาเป็นฝาหลัง

3. ไม่พบปัญหาขอบสีลอก ไม่ต้องใส่เคสก็ได้

วัสดุและการทำสี สะท้อนความประณีตในขั้นตอนการผลิต จากการใช้งานมาครึ่งเดือนโดยไม่สวมเคส ขอบตัวเครื่องก็ไม่เกิดรอยขีดข่วนหรือถลอกหรือรอยใด ๆ ซึ่งภายในกล่อง หัวเว่ยได้แถมเคสใสแบบนิ่มคุณภาพดีมาให้ แต่การที่ไม่สวมใส่เคส รู้สึกว่าจับถือได้ถนัดมือดีกว่า บางเบา พกพาง่าย ไม่ลื่นหลุดมือได้ง่าย โชว์ดีไซน์หรูให้คนอื่นได้เห็น แต่เป็นคนที่สวมแหวนคม ๆ หลายนิ้ว ก็ควรสวมใส่เคสป้องกันไว้น่าจะดีกว่า

4. จอภาพสีสดใส ไม่มีเบิร์น ไม่มีปัญหาจอขอบเขียว

ในรุ่น Mate20 ใช้จอภาพขนาด 6.53 นิ้ว ใหญ่เต็มตากำลังดี เป็นจอ LCD ที่พัฒนาขึ้นมาล่าสุด ให้สีสดใสมุมมองกว้าง แม้หรี่แสงลง ก็ยังให้สีขาวที่ขาวจริง ดีกว่าหน้าจอ OLED ในรุ่น Mate20 Pro ซึ่งหน้าจอ OLED มีความเปราะบางและค่าซ่อมแพงกว่า นอกจากนั้น หน้าจอ OLED บางเครื่องยังมีปัญหาหน้าจอขอบเขียว สีผิดเพี้ยนตั้งแต่ออกจากโรงงาน ในระยะยาวจอ OLED ก็มักจะมีปัญหาเรื่องจอภาพเบิร์นหรือเกิดแถบเส้นบนหน้าจอคาดยาวตลอดแนว เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่า HUAWEI Mate20 ใช้จอ LCD คุณภาพสูง คมชัดเนียนตา สีสดใส ทนทานในระยะยาวดีกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงหลายรุ่นในตลาดที่เลือกใช้จอ OLED หรือ AMOLED แน่นอน

5. กระจกหน้าจอแกร่งทนทาน เคลือบผิวป้องกันคราบสกปรก

กระจกหน้าจอของ HUAWEI Mate20 สีดำสนิท ไม่มีโลโก้หรือ Sensor อะไรเกะกะสายตา นอกจากจะดูเรียบสวยแล้วเมื่อปิดจอแล้ว ยังเคลือบผิวลดคราบมัน คราบสกปรก รอยนิ้วมือได้ดี ผิวลื่นเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายมาก หรือล้างน้ำก็ได้ ดูแลรักษาง่าย กันน้ำตามมาตรฐาน IP53 อยู่แล้ว

6. Notch ขนาดเล็ก พร้อมไฟ LED แจ้งสถานะ

Mate20 มีติ่งหน้าจอหรือ Notch ขนาดเล็ก ไม่บดบังหรือเกะกะสายตาในขณะใช้งาน ต่างจาก Mate20 Pro หรือ iPhone X series ที่มี Notch แถบสีดำขนาดใหญ่ ซึ่ง Notch ของ Mate20 สามารถปิดได้ ก็ได้เป็นจอภาพที่เป็นสี่เหลี่ยมขอบมนทั้งสี่ด้าน ดูสวยงามอีกแบบ โดยบริเวณ Notch เล็ก ๆ นี้ก็ยังมีไฟ LED แสดงสถานะการแจ้งเตือนของบางแอปพลิเคชั่นและแสดงสถานะการชาร์จได้ด้วย ถือเป็นการออกแบบที่ใช้พื้นที่ด้านหน้าตัวเครื่องได้ดีมาก

7. Kirin 980 ชิปเซ็ต AI แบบคู่ แรงเร็วลื่นยาวนานกว่า

ก่อนหน้านี้ ใช้ Mate9 ที่หัวเว่ยการันตีว่าเครื่องยังคงเร็วลื่นแม้ผ่านไป 18 เดือน ตอนนี้ใกล้ครบสองปีแล้ว พิสูจน์แล้วว่าชิปเซ็ต Kirin ดีจริงในระยะยาว ยังคงเร็วลื่นใกล้เคียงกับวันแรกที่ซื้อมา แต่ Mate20 ใช้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่กว่า ที่มี AI ฉลาดล้ำกว่าเดิม ก็มั่นใจได้ว่า ซื้อ Mate20 ครั้งนี้ ใช้ยาว ๆ 2-3 ปีก็ยังคงเร็วลื่น ด้วยชิปเซ็ต AI Kirin 980 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตรุ่นแรกของโลกที่ผลิตโดยใช้สถาปัตยกรรมการผลิตแบบ 7 นาโนเมตร เสริมพลังด้วยสถาปัตยกรรม CPU Cortex-A76 และหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G76

8. ตัวเครื่องแทบไม่ร้อน แม้ใช้งานหนักหรือกำลังชาร์จ

จากการทดสอบใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทั้งถ่ายภาพในสถานที่กลางแจ้งในเวลากลางวัน หรือกำลังชาร์จไฟในช่วงต้นที่อัดกระแสเยอะกว่าในช่วงปลาย ตัวเครื่องก็ไม่ค่อยรู้สึกร้อน ต่างจากรุ่นอื่นที่บริเวณกล้องหรือแบตเตอรี่จะมีความร้อนสูงมาก

9. ROM 128GB เยอะเพียงพอ ไม่ต้องใส่ microSD

ถ่ายภาพและวิดีโอได้สนุก กดชัตเตอร์ไม่มียั้ง ไม่ต้องกลัวหน่วยความจำเต็ม มีให้ถึง 128GB ไม่ต้องใส่ microSD ที่มักจะลดประสิทธิภาพและความเร็วโดยรวมลง เพราะทำงานช้ากว่าหน่วยความจำในตัวเครื่อง บวกกับ RAM 6GB ที่เยอะ ทำให้บันทึกภาพต่อเนื่องได้รวดเร็ว

10. Battery 4000mAh ใช้ทั้งวันก็ไม่หมด

ไม่ต้องพกสายชาร์จกับ Power Bank ไม่ต้องชาร์จระหว่างวันอีกต่อไป Mate20 บริหารจัดการการใช้พลังงานได้ดีมาก โดยไม่ต้องเปิดโหมดประหยัด ไม่ต้องลดประสิทธิภาพเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ให้ใช้ได้ยาวครบวัน เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งที่น่าประทับใจ ระดับแบตเตอรี่ลดลงช้ากว่าคู่แข่งค่อนข้างมาก (ที่เป็น Android OS เหมือนกัน) ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวเครื่องไม่ร้อนนั่นเอง

11. Charger 22.5W (5V/4.5A) ชาร์จเร็วพอตัว

แม้ว่าแบตเตอรี่ความจุสูง แต่ใช้เวลาชาร์จไม่นาน ด้วยการอัดกระแสสูง 4.5A ที่แรงดันคงที่ 5V ตลอดเวลา ก็สามารถชาร์จได้เร็วน่าพอใจ ชาร์จเต็มภายในเวลาประมาณชั่วโมงนิด ๆ แต่หากต้องการชาร์จเร็วกว่านี้ ต้องขยับเป็นรุ่น Mate20 Pro ที่แพงขึ้นอีก 7,000 บาท

12. กล้องหน้า 24MP สว่างสวยดูดีน่าพอใจ

สมาร์ทโฟนเซลฟี่ปี 2018-2019 ต้องมีกล้องหน้าคมชัดระดับ 24-25 ล้านพิกเซลกันแล้ว เพื่อให้ภาพถ่าย Selfie เก็บรายละเอียดคมชัดยันเส้นผม พร้อมฟีเจอร์มุมกว้างและ Beauty ที่ช่วยปรับแต่งผิวหน้าทุกคนในภาพถ่ายให้ดูผิวสว่างสวยคมชัดแบบธรรมชาติที่ควรจะเป็น

13. กล้องหลัง 3 ตัว ผสานเทคโนโลยีจาก LEICA และกล้องมุมกว้างเหมือนใช้กล้องตัวใหญ่ใส่เลนส์ไวด์

ใคร ๆ ก็ยกให้ HUAWEI P Series กับ Mate Series เป็นอันดับหนึ่งในเรื่องภาพถ่าย ที่ไม่ว่าใครก็ถ่ายออกมาได้สวย แสงเงา สีสดใส รายละเอียดภาพ มาครบ แต่ที่ประทับใจมากที่สุดก็คือ ถ่ายภาพมุมกว้างได้แล้ว ใกล้เคียงกับการใช้กล้อง Mirrorless หรือ DSLR ที่ใส่เลนส์ Wide ทำให้ได้ภาพถ่ายวิวที่สวยงาม เก็บบรรยากาศในแนวกว้างได้ครบ เก็บกล้องไว้ที่บ้าน พก Mate20 ตัวเดียวจบ

14. Dual SIM 4G และ Dual VoLTE

ยุคนี้สมาร์ทโฟนสองซิม ต้องรองรับ 4G LTE ได้ทั้งสองซิมพร้อมกัน ใช้งาน VoLTE ได้ทันที โทรผ่านโครงข่าย 4G LTE ต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นเก่าที่ใช้ 4G ได้เฉพาะใช้งานอินเทอร์เน็ตเท่านั้น หากโทรออกหรือรับสายจะสลับไปใช้ 2G/3G ทุกครั้ง แน่นอนว่า 4G / 4.5G คุณภาพเสียงชัดใสกว่ามาก

15. ยังคงมีวิทยุ FM

หลายคนยังต้องการให้มี FM Radio ในสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ไว้ฟังเพลงหรือข่าวสารในขณะเดินทาง ยิ่งช่วงที่รถติด อยู่บนถนนนานเป็นชั่วโมง ถ้าได้ฟังวิทยุก็คงจะเพลินดี ซึ่งจากการทดสอบใช้งานในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ก็พบว่า Mate20 สามารถรับสัญญาณวิทยุได้ดี

16. ช่องต่อหูฟัง 3.5mm ก็ยังไม่ตัดทิ้ง

สะดวกสบายเหมือนเดิม เพราะใช้กับหูฟังทั่วไปได้ทันที ไม่ต้องพกพาสายแปลง ต่อสายสัญญาณออกไปยังเครื่องขยายเสียงหรือลำโพงพกพาได้ การฟังเพลงโดยต่อสายสัญญาณแบบเดิม ๆ ยังคงดีกว่า Bluetooth ตรงที่เสียงไม่ดีเลย์ ซึ่งหลายคนเคยเจอปัญหาเมื่อชมภาพยนตร์ออนไลน์หรือ Youtube แล้วต่อเสียงออกไปยังหูฟังหรือลำโพงบลูทูธ พบว่าเสียงช้ากว่าภาพที่เห็นบนจอสมาร์ทโฟน

17. เป็นรีโมตคอนโทรลเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ด้วย IR

Mate20 มี IR (Infrared) Remote Control ควบคุมสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้หลากหลายแบรนด์ที่มีบนโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ, ทีวี, เครื่องเล่น DVD, Projector, Camera และ Set-Top Box หรือให้เรียนรู้ด้วยการอ่านสัญญาณจากรีโมทเดิมก็ทำได้

18. เปลี่ยน Home Launcher และ Font ได้อิสระมากขึ้น

เพื่อการใช้งานที่เร็วลื่นมากขึ้น ปรับแต่งได้ดั่งใจ แนะนำให้เปลี่ยน Launcher ใหม่ อย่างเช่น Pixel Launcher หรือ Nova Launcher Prime จะรู้สึกได้ถึงประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น เร็วลื่นใกล้เคียงกับ Pure Android สะดวก ใช้พื้นที่บนหน้าจอได้เต็มประสิทธิภาพ รวมทั้งปรับเปลี่ยน Font ให้เป็นภาษาไทยแบบที่อ่านง่ายมากขึ้นได้ โดยไม่ต้อง Root เครื่อง (ค้นหาวิธีเปลี่ยนได้จาก Youtube หรือ Google) ซึ่งรุ่นก่อนหน้านี้ หัวเว่ยมีการป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ปรับเปลี่ยนเองได้ บังคับใช้ EMUI Launcher ที่มากับตัวเครื่องอย่างเดียว

19. ปลดล็อกหน้าจอได้รวดเร็วมากทั้งสองวิธี

ไม่ว่าจะใช้ Face Unlock แค่ส่องใบหน้าตัวเราเอง หรือสแกนลายนิ้วมือ ก็ปลดล็อกหน้าจอได้รวดเร็วแม่นยำดีมาก สำหรับคนที่คิดว่า In-screen Fingerprint น่าสนใจ เพราะสแกนนิ้วโป้งบนจอภาพได้ โดยส่วนตัวคิดว่า ยังไม่จำเป็นขนาดนั้น ไม่คุ้มค่าที่จะต้องจ่ายเพิ่มเพื่อใช้ฟีเจอร์นี้บนจอภาพ OLED ที่ไม่ทนทานในระยะยาวเมื่อเทียบกับจอ LCD (จอ LCD ยังไม่รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนจอภาพ)

20. ถ่ายภาพมาโครระยะใกล้สุด 2.5cm

ไม่พูดถึงคงไม่ได้ กับอีกจุดเด่นสำคัญของ Mate20 ก็คือ สามารถถ่ายภาพในระยะใกล้สุด ๆ ถือหน้ากล้องเข้าใกล้วัตถุได้มากที่สุดถึง 2.5 เซนติเมตร ช่วยให้การถ่ายภาพวัตถุขนาดเล็ก ยังโฟกัสเห็นรายละเอียดได้คมชัด อาทิ แมลง เหรียญสะสม พระเครื่อง แหวน สร้อย เพชร เป็นต้น