รีวิว Realme 2 Pro กับ 10 จุดเด่นที่น่าสนใจ พร้อมตัวอย่างภาพถ่าย

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2561 เวลา 19.30 น. ถึงเวลาที่หลายคนรอคอย กับ Realme 2 Pro เปิดขายครั้งแรกอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ด้วยราคาสุดพิเศษที่ไม่ควรพลาด เพียง 5,990 บาท จากปกติ 6,590 บาท ยกให้เป็นสมาร์ทโฟนที่มาแรงและคุ้มที่สุดในช่วงปลายปี 2561 จริง ๆ เพราะหากเทียบกับคู่แข่งที่มีสเปคใกล้เคียงกันนั้น ขายอยู่ในระดับราคาเกือบหมื่นจนถึงหมื่นกว่าบาท

ยลโฉมดีไซน์ตัวเครื่องทั้งสองสี

สเปกดี แรงเกินราคา

Realme 2 Pro ที่ได้รับมารีวิวก่อนวางจำหน่ายจริงในครั้งนี้ เป็นรุ่นที่มี RAM 4GB + ROM 64GB (eMMC) ที่ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 660 AIE, แบตเตอรี่ความจุ 3500mAh, กระจกหน้าจอ Gorilla Glass 3, หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD ที่มี Notch แบบหยดน้ำ (Dewdrop) ไม่เกะกะสายตา, กล้องหน้า 16MP กับกล้องหลังคู่ 16MP+2MP พร้อม AI Beauty ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 ครอบทับ UI ด้วย ColorOS version 5.2

ทั้งหมดนี้ เทียบเท่าสมาร์ทโฟนระดับราคาประมาณหมื่นบาท และ Realme เอาใจผู้ใช้ประเทศไทย เปิดตัวครั้งแรกกับราคาสุดว้าวเพียง 6,590 บาท เปิดขายแล้วบน Lazada

พิเศษยิ่งขึ้นลดเหลือ 5,990 บาทเฉพาะช่วงเวลาที่กำหนด ในวันที่ 7 กับ 11 พฤศจิกายน ตามลิงก์นี้ https://bit.ly/2OuLLkd

สรุป 10 จุดเด่นและความประทับใจจากการทดลองใช้งานจริง

1. หน้าจอขนาดใหญ่กำลังดี อยู่ที่ 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รอยแหว่งหรือติ่งแบบหยดน้ำ ซึ่งเล็กกว่า iPhone อย่างมาก ทำให้ไม่มองดูเกะกะสายตา อีกทั้งยังเป็นหน้าจอ LCD คุณภาพสูง ที่ให้สีสันสดใสอย่างมาก คมชัด ตัวอักษรเนียนตา อ่านง่าย ไม่เห็นขอบรอยหยักของตัวอักษร ใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ไม่ต้องกังวลเรื่องจอภาพเบิร์นอย่างที่มักเกิดขึ้นในสมาร์ทโฟนที่ใช้หน้าจอ AMOLED หากได้ลองใช้ มั่นใจว่าส่วนใหญ่จะต้องประทับใจในคุณภาพของหน้าจอ ซึ่งเทียบกับคู่แข่งในระดับราคาใกล้เคียงกันหลายรุ่นยังให้หน้าจอหยาบเพียงแค่ HD+ เท่านั้น

2. ดีไซน์สวย ทันสมัย จอภาพแบบเต็มพื้นที่ด้านหน้าเครื่อง 90.8% ดูขอบบางตามเทรนด์ปีนี้ จับถือได้กระชับมือค่อนข้างดี มีฟิล์มกันรอยหน้าจอติดมาให้จากโรงงานแล้ว พร้อมเคสใสแบบนิ่มคุณภาพดี หนาเพียงพอที่จะป้องกันความเสียหายของตัวเครื่องได้ทุกส่วน ฝาหลังเคลือบลามิเนต 15 ชั้น เกิดเป็น Layer ซ้อนที่ให้ความเงางามกับแสงไฟ แต่ไม่เงาเกินไปอย่างกระจกเงาที่ทำให้เห็นรอยนิ้วมือได้ง่าย

3. แบตเตอรี่ขนาด 3500mAh ใช้งานได้ตั้งแต่เช้าถึงดึก โดยไม่จำเป็นต้องชาร์จระหว่างวัน มาพร้อม Charger 5V 2A จาก OPPO ที่สามารถชาร์จเต็มได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง

4. สเปกดี ในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งอยู่หลายพันบาท และอุ่นใจได้ในระยะยาวด้วยบริการหลังการจากศูนย์บริการ OPPO ทั่วประเทศ ต่างจากสมาร์ทโฟนราคาถูกแบรนด์อื่นที่นิยมขายผ่าน Lazada เหมือนกัน แต่ไม่มีศูนย์บริการซ่อมอย่างเป็นทางการ 

5. ถ่ายภาพได้สวยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง พร้อมฟีเจอร์ฉลาดล้ำด้วย AI ไม่น่าเชื่อว่าสมาร์ทโฟนระดับราคา 6 พันบาท จะถ่ายภาพได้สวยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง มากกว่าสมาร์ทโฟนหลายรุ่นในตลาดในระดับราคาใกล้เคียงกันจนถึงเฉียดหมื่นบาท นอกจากนั้นยังมีลูกเล่นแต่งเติมแสงสีให้กับภาพถ่ายแบบจบในครั้งเดียว ไม่ต้องแต่งภาพในแอปพลิเคชั่นอื่นภายหลัง ทั้งนี้เพราะใช้ Sony IMX398 CMOS Sensor ที่มีรูรับแสงกว้าง f/1.7 ภาพจึงสว่างสวย สีสันสดใส บวกกับ AI ที่ฉลาด เมื่อเปิดกล้อง AI จะรู้ทันทีว่าเรากำลังถ่ายอะไร จะปรับโหมดกล้อง (Scene) ที่เหมาะสมที่สุดให้โดยอัตโนมัติ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าใครก็ถ่ายภาพได้สวยด้วย Realme 2 Pro

6. รองรับ 2 SIM พร้อมใส่ microSD ได้โดยไม่ใช้ช่องร่วมกับ SIM Card และรองรับ 4G LTE กับ VoLTE พร้อมกันทั้ง 2 SIM รองรับ VoWIFI และ Wi-Fi มาตรฐาน AC ความถี่ 5GHz อีกด้วย

7. แอปพลิเคชั่น Weather พยาการณ์สภาพอากาศล่วงหน้าได้ละเอียดแบบรายชั่วโมง นานถึง 25 ชั่วโมงข้างหน้า ช่วยให้วางแผนการเดินทางหรือภารกิจประจำวันได้ง่ายมากขึ้น

8. มีช่องเสียบหูฟังมาตรฐาน 3.5mm ยังคงไม่ตัดทิ้ง เพิ่มความสะดวกในการต่อหูฟังหรือลำโพงภายนอกหรือเครื่องขยายเสียง

9. Clone Phone ถ่ายโอนข้อมูลจากสมาร์ทโฟนเครื่องเก่ามาสู่ Realme ได้ง่าย ๆ

10. ปลดล็อกหน้าได้รวดเร็วแม่นยำ ไม่ว่าจะใช้วิธี Face Unlock แค่หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาส่องใบหน้าตัวเราเอง หรือจะใช้วิธีสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง ก็รวดเร็วแม่นยำ ไม่ต้องกดย้ำ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า

ด้วย AI Beauty Selfie ที่ยกหน้าที่ให้ AI ปรับระดับความสว่างใสและความเนียนของใบหน้าแบบอัตโนมัติ หรือเลือกระดับ Beauty เองก็ได้ พร้อมเปิดปิดฟีเจอร์ฉากหลังละลายได้ตามความต้องการ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง

ทั้งหมดนี้ คือบทพิสูจน์ของความคุ้มค่าที่ท้าให้คุณต้องลอง คลิกสั่งซื้อได้เลยบน Lazada ที่ https://bit.ly/2OuLLkd หากสั่งซื้อไม่ทันในช่วงแรกที่ลดเหลือ 5,990 บาท ก็ยังเปิดขายทุกวันพุธในราคาปกติ 6,590 บาท ซึ่งก็ยังถือว่าคุ้มค่าอยู่ และใช้งานลื่นไหลได้อีกยาวนาน พร้อมการรับประกันที่อุ่นใจได้ในระยะยาว

ข้อสังเกต

• ไม่มีวิทยุ FM และไม่มีหูฟังแถมมาในกล่อง
• คุณภาพเสียงเมื่อเปิดเพลงออกลำโพงส่วนล่างของเครื่อง ยังไม่น่าประทับใจนัก
• ฟิล์มกันรอยหน้าจอที่ติดมาจากโรงงาน ไม่ได้ป้องกันคราบจากรอยนิ้วมือ จึงเห็นคราบสกปรกได้ง่ายมาก และลดความใสของสีสันบนหน้าจอลง เมื่อลอกออกหรือเปลี่ยนฟิล์ม/กระจก ทำให้ภาพดูสวยขึ้นอย่างมาก
• ใช้พอร์ต microUSB แบบกลับด้าน ทำให้ไม่รองรับอุปกรณ์เสริมที่เป็น Docking
• Favourites ต้องกำหนดใหม่เอง ระบบไม่ดึง Favourites จาก Phonebook ที่บันทึกใน Gmail
• เปลี่ยน Theme ไม่ได้ แต่เปลี่ยนฟอนต์ภาษาไทยได้ด้วยแอปพลิเคชั่นพิเศษ โดยไม่ต้อง Root
• สั่ง Restart ไม่ได้ ต้องปิดแล้วเปิดเครื่องอีกครั้งเท่านั้น
• ในการรีวิวทดสอบใช้งาน มีการเปลี่ยน Launcher เพื่อให้เร็วลื่นมากขึ้นและมี App Drawer