รับศักราชใหม่ กับ ‘ความท้าทายผู้นำปี 2019’ ปีหมู...ที่ไม่หมู ท่ามกลางกระแสวิกฤตเศรษฐกิจโลก ทั้งการแข่งขันด้านเทคโนโลยีที่รุนแรง แล้วผู้นำยุคใหม่จะรับมือปรับตัวกันอย่างไรและพร้อมที่ก้าวข้ามขับเคลื่อนองค์กรสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ไปในทิศทางใด
สถาบันวิทยาการเพื่อการแข่งขัน มหาวิทยาลัยสยาม โดยหลักสูตรวิทยาการผู้นำนวัตกรรม เพื่อการแข่งขันในระดับโลก (Innovation Leadership for Global Compettitiveness) หรือ ILG ร่วมมือกับสถาบันกลยุทธ์และศักยภาพเชิงการแข่งขัน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จึงรวมพลังมุ่งมั่นพัฒนา ผู้นำนวัตกรรมฯ ให้เกิดมุมมอง ใน 4 มิติ ได้แก่ Change – ผู้นำที่พร้อมปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในการเปลี่ยนแปลงของโลก / Vision – ผู้นำทางความคิดที่มีวิสัยทัศน์ มีมุมมองใหม่ มุ่งมั่นสร้างสรรค์องค์กรสู่ความสำเร็จ / Freedom – ผู้นำที่เปิดโอกาสในการให้อิสระกับตัวเองและความคิด ร่วมสร้างศักยภาพเชิงการแข่งขันให้องค์กร / Idealism – ผู้นำนวัตกรรมที่สร้างสรรค์และร่วมขับเคลื่อนองค์กรให้เกิดสิ่งใหม่ โดยมุ่งเน้นการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จากวิทยากร และผู้รับการอบรม เพื่อนำนวัตกรรมสู่การสร้างความเข้มแข็งขับเคลื่อนองค์กร และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ประเทศไทย ก้าวไปอย่างมั่นคง สู่ศักยภาพในการแข่งขันระดับสากล
รศ.ดร.จอมพงศ์ มงคลวนิช รองอธิการบดี และ ผู้อำนวยการ หลักสูตร ILG สถาบันวิทยาการเพื่อการแข่งขัน มหาวิทยาลัยสยาม กล่าวว่า นับเป็นความท้าทายศักยภาพผู้นำวันนี้ที่จะต้องตื่นรู้และเท่าทันสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพราะตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา บริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกาล้มละลายมากกว่า 3,000 บริษัท ด้วยผู้นำไม่สามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ให้เกิดขึ้น และไม่สามารถใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีไปขับเคลื่อนองค์กรสู่จุดหมายได้ ทั้งไม่สามารถพัฒนาทีมรุ่นใหม่ขึ้นมาได้
“ดังนั้นผู้นำยุคใหม่จะต้องเป็นโค้ชให้กับผู้ตามหรือทีมทุกคน ทั้งเป็นกำลังใจ และเตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงกับกระแสโลกที่ปั่นป่วน ฉะนั้นผู้นำจะต้องมีมุมมอง 4 มิติก็คือ Change, Vision, Freedom และ Idealism และด้วยกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ILG รุ่น 3 จึงเน้นการทำเวิร์คช็อป โดยบริหารจัดการ ปรับรูปแบบการทำงาน ใช้แพลตฟอร์มใหม่ ๆ สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามา ให้จบอย่างรวดเร็ว ทำงานระยะสั้นแต่ให้ผลเลิศ
...พร้อมด้วยทริปต่างประเทศสุดพิเศษที่คัดสรรมาเติมเต็มความรู้อย่างเท่าทันโลกยุคใหม่ ด้วยผู้นำยุคใหม่ต้องมีจิตใจที่แน่วแน่ มีจิตสาธารณะ เพราะองค์กรสมัยใหม่จะเน้นการสร้างความสุขให้ตนเอง ทั้งสร้างบรรยากาศให้ทุกคนทำงานอย่างมีความสุข ทำงานคิดนอกกรอบ ทำให้เกิดผลงานที่แตกต่าง ตอบสนองไลฟ์สไตล์โลกยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี”
เริ่มต้นด้วยเวิร์คช็อปแรก ไปสัมผัสความหลากหลายประสบการณ์จากผู้นำด้านต่างๆ จังหวัดเชียงราย โดยไปเยือนถิ่น ท่าน ว.วชิรเมธี ผู้นำปรัชญา แล้วพบผู้นำด้านการจัดการภาวะวิกฤตได้อย่างดีเยี่ยม ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ปิดท้ายด้วย ผู้นำที่แตกต่าง คิดใหญ่ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ
จากนั้นทริปต่อไป บินไปสัมผัสลิตเติ้ล ทิเบต ดินแดนมหัศจรรย์แห่งจิตวิญญาณ โดยได้รับเกียรติ เข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ องค์ทะไลลามะ ที่พระราชวัง เมืองธรรมศาลา ประเทศอินเดีย เพื่อร่วมเติมเต็มกับเรื่องราว ‘ศาสตร์แห่งความสุขสำหรับผู้นำ’ และทริปนี้พลาดไม่ได้สำหรับผู้นำยุคใหม่ที่จะก้าวไกลในโลกแห่งดิจิทัล มารับมือกับความท้าทายโดยเยี่ยมชมศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าของโลก หัวเว่ย แคมปัส (Huawei Campus) ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทเลคอมสัญชาติจีน ที่ก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ในการเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เทเลคอมรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก ด้วยผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยมีการใช้งานในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก และสามารถรองรับผู้ใช้งานกว่า 3 พันรายทั่วโลก นอกจากนี้ ยังยิ่งใหญ่ด้วยศักยภาพที่สุดยอด เนื่องจากในโลกมีบริษัทที่พัฒนาอุปกรณ์โครงข่าย 5G อยู่หลายแห่ง แต่เป็นบริษัทเพียงแห่งเดียวในโลกที่สามารถนำสถานีฐาน 5G มาใช้กับเทคโนโลยีไมโครเวฟที่มีความล้ำหน้ามากที่สุด และพร้อมที่จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล
และวันนี้พร้อมแล้ว เปิดตัว หลักสูตรวิทยาการ ‘ผู้นำนวัตกรรม เพื่อการแข่งขันระดับโลก ILG รุ่น 3’ รับศักราชใหม่กับ ‘ความท้าทายผู้นำ ปี 2019’ โดยจัดเสวนาด้วยมุมมองแนวคิดจากซีอีโอที่ประสบความสำเร็จหลากหลายความแตกต่างทางธุรกิจ อาทิ ปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วย ดร.วุฒิชัย พรรณเชษฐ์ ที่ปรึกษา บริษัท อินเด็กซ์คอนสตัคชั่น จำกัด และ ดร.เฉลิมรัฐ นาควิเชียร ซีอีโอ กลุ่มบริษัท GMO3Z.Com-Net Design โดยมี วสุ แสงสิงแก้ว เป็นผู้ดำเนินรายการ ณ โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ กรุงเทพฯ
ปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริบทโลกเปลี่ยนไป บริบทผู้นำในปีนี้หรือปีหน้าจะเป็นความท้าทาย อย่างจีนกับอเมริการุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในเวทีโลก สำหรับเศรษฐกิจไทยกำลังเปลี่ยนแปลง และในปีนี้ประเทศไทยจะเป็นประธานอาเซียน ซึ่งมีความสำคัญมากดังนั้นในกลุ่มประเทศอาเซียนต้องมีความเหนี่ยวแน่นและมีความสามัคคีกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อไปต่อรองการค้าโลก จะได้มีแต้มต่อรองที่ดีขึ้น
“ผู้นำจะต้องขับเคลื่อนให้เกิดความร่วมมือร่วมใจกันทุกหน่วยงาน คิดแล้วเข้าใจแล้วทำเลย แล้วโลกวันนี้เทคโนโลยีมีความสำคัญเข้ามามีบทบาท ดังนั้นกระทรวง ICT จะรองรับกระทรวงเดียวจะเอาไม่อยู่แล้ว ต้องมีทุกกระทรวง ร่วมกันบูรณาการในหลายๆ กระทรวง เพื่อให้เกิดมิติต่างๆ เกิดการแก้ปัญหา วิธีคิด ต้องพูดคุยกัน
...ผมเชื่อว่าผู้นำที่ดีต้องมีธรรมาภิบาลที่ดี พูดอย่างไรก็ต้องทำอย่างนั้น และต้องมีบทบาทเข้าใจถึงจุดแข็งของประเทศไทยในด้านความเอื้ออาทรความยิ้มแย้มแจ่มใส แล้วนำใช้สิ่งเหล่านี้สร้างบรรยากาศที่ดีให้เกิดขึ้นรวมถึงธรรมาภิบาลการขจัดคอรัปชั่นให้เกิดความโปร่งใส หรือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของประชาชนทั้งประเทศ สามารถฟัง คล้อยตาม และเชื่อมั่นเชื่อใจในผู้นำ เพราะสังคมดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องช่วยกันสร้าง ดังนั้นผู้นำคนเดียวไม่สามารถทำให้ประเทศชาติเดินไปได้ ต้องดึงคนทั้งประเทศสามัคคีรักกัน และเดินทางไปในทิศทางเดียวกันได้ด้วย”
คุณา วิทยฐานกรณ์ รองประธานบริหาร บริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด กล่าวว่า ผู้นำยุคใหม่ต้องเท่าทันเรื่องของข้อมูลข่าวสาร เพื่อปรับตัวทางธุรกิจให้เท่าทันสถานการณ์ และมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ทั้งองค์ความรู้ ประสบการณ์ และการบริหารที่ต้องปรับแก้ไขปัญหาต่างๆ ตลอดเวลา ทั้งต้องนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดความสะดวกสบายและรวดเร็ว
“ล่าสุดจึงทำธุรกิจ ‘แท็กซี่ วีไอพี (Taxi VIP)’ โดยร่วมกับกรมขนส่งทางบก โดยนำเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือบริหารสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนด้วยบริการด้วยรถสาธารณะที่ดีมีคุณภาพ ซึ่งเป็นรูปแบบการให้บริการเดินทางที่เป็นทางเลือกสำหรับรองรับความต้องการกลุ่มผู้โดยสาร เช่น ลูกค้าองค์กรธุรกิจ, ธุรกิจโรงแรม, นักธุรกิจและนักท่องเที่ยว ที่ต้องการความหรูหราสะดวกสบายและการให้บริการในการเดินทางระดับพรีเมี่ยม
...เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและการให้บริการสำหรับลูกค้า ทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของคนขับแท็กซี่เป็นพนักงานของบริษัทที่มีการดูแลและจ่ายงานให้ พร้อมทั้งดูแลสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน เพราะเป็นพลังงานคลีน โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษ อีกทั้งยังลดการใช้น้ำมันด้วย เนื่องจากเป็นรถที่ใช้พลังงานจากไฟฟ้า 100% ในการขับเคลื่อน”
สำหรับ ปวีณา บำรุงรส ประธานบริหาร ERM Thailand กล่าวด้วยความภูมิใจในฐานะความท้าทายเป็นผู้นำชาวไทยที่ได้ถือลิขสิทธิ์เวทีประกวดนางงามกว่า 18 เวทีระดับโลก ด้วยความปรารถนาที่จะนำพาตัวเองไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต จากผู้เข้าประกวดในตำแหน่ง มิสออร่า ประเทศญี่ปุ่น ทำให้เกิดแนวคิดใหม่ๆ นำองค์ความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ในการประกวดธุรกิจนางงาม เป็นเจ้าของธุรกิจรายแรกของไทยที่ถือครองสิทธิ์การจัดประกวดทั้งในไทยและระดับนานาชาติ
“โลกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราต้องก้าวทันโลก ซึ่งในขณะนี้ยุโรปไม่ใช่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจอีกต่อไป เอเชียกำลังขึ้นเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ฉะนั้นต้องพร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดโลก ต้องมองให้กว้างและมองให้ไกลกว่าเฉพาะในไทย และไปให้ไกลกว่าเอเชีย
...สิ่งที่เราได้เรียนรู้ จะนำมาบูรณาการวิธีคิดและการบริหารจัดการใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ทั้งคิดใหม่ ทำใหม่ ในสิ่งที่คนอื่นยังไม่ทำ แล้วก็นำมาเป็นต้นแบบในการทำธุรกิจอื่นๆ ให้ประสบความสำเร็จต่อไป อย่างเรามาเรียนหลักสูตรนี้ เป็นสิ่งที่เราไม่เคยรู้ เรานำมาคิดมาปรับใช้ในเรื่องของนวัตกรรมทางธุรกิจของเรา โดยนำมาจัดการกับองค์กรของเราทำให้เป็นระบบ แล้วให้คนในองค์ของเราช่วยกันขับเคลื่อน เพราะเป็นอุตสาหกรรมจัดการประกวดอย่างครบวงจร
...และมีความตั้งใจอยากจะนำเวทีการประกวดจากต่างประเทศเข้ามาจัดที่เมืองไทย เพราะจะเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยจะมีคนจากทั่วโลกเดินทางมาร่วมงาน ร่วมเชียร์ และมาท่องเที่ยวในเมืองไทยด้วย”
พลาดไม่ได้แล้ว! มาร่วมเติมเต็มประสบการณ์ความรอบรู้ไปกับ หลักสูตรวิทยาการ ‘ผู้นำนวัตกรรม เพื่อการแข่งขันระดับโลก ILG 3’ สนใจสมัครได้ที่ ilg@siam.edu โดยจะเริ่มสตาร์ทตั้งแต่ 4 มีนาคม – 17 มิถุนายน 2562 (ทุกวันจันทร์) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.siamuilg.com หรือ ดร.จุไรรัตน์ วรรณยิ่ง 097 137 6000 / ดร.ประกายทิพย์ พิชัย 081 353 4588
COMMENTS