JOOX มิวสิคแอปพลิเคชั่น ฉลองก้าวสู่ปีที่ 4 สู่การเป็น “เอ็นเตอร์เทนเม้นท์แพลตฟอร์ม” เต็มรูปแบบ เชื่อมทุกโมเมนต์ทางดนตรีเข้ากับการดำเนินชีวิตของคนในยุคดิจิทัล ยึดกลยุทธ์ O2O2O (Online to Offline and back to Online Experience) ผสานแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ไว้ด้วยกัน สร้างมูลค่าเพิ่มแก่อุตสาหกรรมดนตรีแบบไร้ข้อจำกัด ทั้งแนวเพลง ศิลปิน และค่ายเพลง ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดมิวสิคสตรีมมิ่งด้วยการเดินหน้าสร้างชุมชนคนรักเสียงดนตรี ผ่านฟีเจอร์ VDO Karaoke, Live Concert จากเกาหลี และเพิ่มเอ็กคลูซีฟคอนเทนต์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วย Collaboration Projects เชื่อมโลกดนตรีไร้พรมแดน ไม่ว่าจะเป็นระหว่างศิลปินไทยด้วยกันเอง หรือดึงศิลปินต่างประเทศมาร่วมงาน
ข้อมูลจาก IFPI Global Music Report 2561 เผยภาพรวมรายได้ตลาดมิวสิคสตรีมมิ่งทั่วโลกปี 2560 เติบโตขึ้น 41.1% จากมูลค่ารายได้รวมทั้งหมดราว 17.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มิวสิคสตรีมมิ่งมีสัดส่วนรายได้สูงเป็นอันดับหนึ่งอยู่ที่ 38% นำหน้าการขายแผ่นเสียง ซีดี และเทปที่มีสัดส่วนอยู่ราว 30% ของรายได้ทั้งหมด สำหรับตลาดในประเทศไทยปี 2561 คนไทยฟังเพลงบน JOOX มากกว่า 3 พันล้านครั้ง คิดเป็นอัตราการเติบโต 50% เมื่อเทียบจากปี 2559 ขณะที่พฤติกรรมคนไทยนิยมฟังเพลงไทยสูงเป็นอันดับหนึ่งที่ 89.47% โดย JOOX มีคลังเพลงไทยมากที่สุดในเวลานี้ และเนื่องด้วยความเร็วของสัญญาณอินเทอร์เน็ต ปริมาณดาต้าในแพ็กเกจ และราคาอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ที่ถูกลงทำให้ผู้ใช้มีแนวโน้มการฟังเพลงที่มีคุณภาพความคมชัดสูงมากขึ้น (high-quality) และมีความหลากหลายมากขึ้น
นายกฤตธี มโนลีหกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) ผู้บริหาร JOOX ประเทศไทย กล่าวว่า “การฟังเพลงผ่านสตรีมมิ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ผู้คน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยนิยมฟังผ่านสมาร์ทโฟนถึง 75% ตลาดเพลงในประเทศไทยถือว่ามีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ด้วยยอดสตรีมกว่า 3 พันล้านครั้งบน JOOX ในปีที่ผ่านมา มิวสิคคอนเทนต์ใหม่ๆ และ MV ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดผู้ฟัง เรามีโอกาสต้อนรับศิลปินหน้าใหม่จากหลากหลายแนวเพลงที่มีบทบาทสำคัญบทแพลทฟอร์มของเรา และเราจะยังเดินหน้าพัฒนา JOOX ให้เป็นพื้นที่แห่งความบันเทิงด้านเสียงเพลง เพื่อตอบสนองทุกคนในอุตสาหกรรมเพลง”
“สำหรับทิศทางในปี 2562 JOOX ยังคงมุ่งไปที่การโปรโมทและส่งเสริมผลงานศิลปินในหลากมิติ เน้นโมเดล Collaboration Project ในการสร้าง exclusive content ให้มากยิ่งขึ้น และการจับศิลปินที่มีแนวเพลงต่างกันมาทำงานร่วมกัน เพิ่มความแปลกใหม่ของการทำเพลงระหว่างศิลปินไทยด้วยกันเอง และศิลปินจากประเทศอื่นๆ อย่างการที่ทุกคนได้เห็นศิลปินไทยชื่อดัง “เป๊ก ผลิตโชค” ร่วมงานกับดีเจระดับอินเตอร์ “Hollaphonic” รวมถึงการถ่ายทอดสด Live Concert จากเกาหลี ที่จะมีมากขึ้นในปีนี้ ในส่วนการพัฒนาแพลตฟอร์มเราเน้นสร้าง community คนรักเสียงดนตรีเนื่องจากความนิยมของฟีเจอร์ Karaoke ที่ปีก่อนมียอดการร้องสูงถึง 5 ล้านครั้ง และมีการแชร์เพลงที่ร้องแบบคาราโอเกะไปถึง 2.6 ล้านครั้ง โดยในปีนี้ เราเชิญชวน Influencer ในด้านต่างๆ เข้ามาสร้างความบันเทิงกับผู้ฟังมากขึ้น ผ่านฟีเจอร์ใหม่ JOOX VDO Karaoke เพิ่มลูกเล่นต่างๆ ด้านวิดีโอ ให้ทุกคนสนุก และมีความสุขไปกับการร้องเพลงบนแพลตฟอร์มของเรา นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าถึง JOOX ทางคอมพิวเตอร์ผ่าน joox.com ได้อีกหนึ่งช่องทางอีกด้วย” นายกฤตธี กล่าวเพิ่มเติม
ปัจจุบัน JOOX มีการจัดทำเพลย์ลิสต์ไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 3,400 เพลย์ลิสต์ แต่ที่น่าสนใจคือมีเพลย์ลิสย์ที่เกิดขึ้นจากผู้ใช้งานเองวันนี้แล้วมากถึง 11 ล้านเพลย์ลิสต์ และในปี 2561 JOOX ยังได้รับเลือกให้เป็นแอปฯ ยอดนิยมของผู้ใช้ (User’s Choice App 2018) บน Google Play Store ด้วยค่าเฉลี่ยคนใช้เวลาอยู่บน JOOX ราว 90 นาทีต่อวัน โดยมีผู้ใช้งาน JOOX ทุกช่วงวัย อันดับหนึ่งคือ ช่วงอายุ 18-25 ปี ที่สัดส่วน 41.2% สำหรับโมเดลการของการหารายได้ยังเป็นแบบเดิม คือ VIP subscription และ Media Partner
COMMENTS