รีวิว Vivo V11i กับ 20 จุดเด่นที่น่าสนใจ พร้อมตัวอย่างภาพถ่ายทุกสภาพแสง

Vivo V11i สี Nebula ไล่เฉดสีน้ำเงินม่วง วางจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน 2561 ที่ผ่านมา เป็นเฉดสีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2018 ซึ่ง V11i สี Nebula ถือว่ากระแสตอบรับดีมากจากลูกค้าชาวไทย สะท้อนความทันสมัยให้กับผู้ครอบครอง และเป็นรุ่นที่ขายดีในงาน Thailand Mobile Expo ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ปัจจุบัน ลดราคาเหลือ 8,999 บาท ตอบโจทย์ครบทุกด้านสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ในราคาไม่เกินหมื่น

จากที่ได้ทดลองใช้งานมาครบหนึ่งเดือนเต็ม ขอสรุปเป็น 20 จุดเด่นของ Vivo V11i ที่น่าสนใจ เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้กับผู้ที่กำลังจะซื้อสมาร์ทโฟนในงบประมาณไม่เกินหมื่น ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่ง Vivo V11i ก็เป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ มีความโดดเด่นหลายอย่างในกลุ่มสมาร์ทโฟนเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับราคาใกล้เคียงกัน

1. ดีไซน์สวยล้ำ ทันสมัย

Vivo V11i ในช่วงแรก มีให้เลือกทั้งสี Starry Night และสี Nebula ก็ถือว่าสวยคนละแบบ ปฏิวัติดีไซน์สมาร์ทโฟนฝาหลังสีเรียบ ๆ เฉดเดียวให้ดูเชยล้าหลังในทันที โดยสี Starry Night คล้ายกับท้องฟ้าในเวลากลางคืนที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวจรัสแสงระยิบระยับ ไล่เฉดสีดำมาหาสีน้ำเงินเข้ม ตัดด้วยขอบสีทองในบริเวณกล้องกับจุดสแกนลายนิ้วมือ ส่วนสี Nebula ที่นำมารีวิวนั้น เงางามแบบกระจกเงาที่ไล่เฉดสีน้ำเงินมาหาสีม่วง แวววาวสะดุดตากับแสงหลอดไฟอย่างโดดเด่น

2. ฝาหลังโค้ง ขอบสันเครื่องบางเฉียบ จับถือถนัดมือ ในขนาดที่ลงตัว

เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนอื่น ๆ มั่นใจว่าใคร ๆ ที่ได้จับถือ Vivo V11i จะต้องรู้สึกชื่นชอบมากกว่า ถือถ่ายภาพในแนวนอนหรือถือใช้งานทั่วไปได้ถนัดมือ ไม่ลื่นหลุดได้ง่าย ฝาหลังโค้งรับฝ่ามือ ในขนาดที่ถือว่าลงตัวที่สุดไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ให้ความรู้สึกที่กระชับพอดีมือมากกว่าสมาร์ทโฟนทรงแท่งเรียบ ๆ ทั้งด้านหน้ากับด้านหลังที่มีสันเครื่องเป็นขอบหนา ซึ่งจุดนี้ต้องลองสัมผัสและทดสอบใช้งานด้วยตนเองแล้วจะเข้าใจ

3. เร็ว แรง คุ้มค่า สเปกนี้ ใช้งานได้อีกยาว

สมาร์ทโฟนราคาไม่เกินหมื่น แต่ให้ RAM 4GB กับ ROM 128GB ถือว่าคุ้มและเหมาะสมที่สุดในยุคนี้ จากเดิมที่ต้องจ่ายระดับหมื่นกลาง ๆ จึงจะได้สเปกระดับนี้ ด้วย ROM มากเพียงพอขนาดนี้ ก็สามารถเก็บภาพถ่าย เก็บวิดีโอ และแอปพลิเคชั่นได้มากมาย ไม่ต้องกังวลเรื่องหน่วยความจำเต็ม บวกกับ RAM 4GB ก็ทำให้ใช้งานหลายแอปพลิเคชั่นพร้อมกันได้อย่างลื่นไหล เล่นเกมที่เน้นกราฟิก 3D ในระดับกลาง ๆ ได้สบาย รองรับอนาคตใช้งานได้ 18-24 เดือนก็ยังไหว ไม่ต้องเปลี่ยนกันทุกปี

4. หน้าจอติ่งแบบหยดน้ำ ไม่เกะกะสายตา เกือบเต็มขอบทุกด้าน

แน่นอนว่าเทรนด์หน้าจอสมาร์ทโฟนปีนี้ ต้องเป็นจอพื้นที่ใหญ่เต็มขอบตัวเครื่อง มีติ่ง (Notch) ด้านบน แต่ติ่งขนาดเล็กแบบหยดน้ำอย่าง Vivo V11i นี่แหละที่ล้ำสมัยและดูดียิ่งกว่า ไม่ดูเป็นแถบสีดำที่บดบังภาพหรือเกะกะสายตาอย่างจอภาพของ iPhone X, XS, XS Max และ XR ซึ่งมั่นใจว่าในปีหน้า สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ก็จะต้องมีติ่ง (Notch) ด้านบนที่เล็กลงเช่นเดียวกับ V11i ที่ขอล้ำนำเทรนด์ไปก่อนใคร

5. กล้องหน้า 25MP Selfie สวยเป็นธรรมชาติด้วย AI Face Beauty

สำหรับคนไทยยุคนี้ ปัจจัยแรก ๆ ในการตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ทโฟน คือ กล้องหน้าต้องถ่ายเซลฟี่ได้สวยสว่าง ผิวเนียนใส ดูขาวแบบธรรมชาติ ไม่ใช่เหมือนใบหน้าพลาสติกแบบหุ่นในร้านขายเสื้อผ้า หรือถูกตกแต่งเกินจริงเหมือนโบ๊ะหน้าขาวทาปากชมพูจนดูตลก แต่ต้องดูเป็นธรรมชาติแบบมีออร่าเปล่งประกาย ซึ่ง V11i ก็ทำได้ดีจนน่าประทับใจ เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน บอกเลยว่าไม่ผิดหวังสำหรับ Vivo ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องกล้องหน้าดีเยี่ยมมาหลายปีแล้ว

6. กล้องหลัง AI HDR ให้ภาพสวย สีสดใส ในทุกสภาพแสง

กลายเป็นคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้ กล้องหลังต้องมีโหมด HDR ให้สีสันที่สดใส สว่าง ไล่เฉดสีและ Contrast ได้ดีกว่าเดิม ถ่ายย้อนแสงได้ หรือแม้ในสภาวะแสงที่ถ่ายภาพได้ยาก มีจุดสว่างจ้ามาก ๆ กับจุดมืดในภาพ ก็ต้องถ่ายได้สวย ซึ่ง V11i ไม่ได้มีดีแค่กล้องหน้า แต่กล้องหลังคู่ 16MP+5MP ก็สามารถถ่ายภาพได้สวย

7. ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดี

V11i สามารถถ่ายภาพวิวกลางคืนหรือ Event ในเวลากลางคืนได้ดี แสงไม่ฟุ้งเหมือนมีควันธูปตลอดเวลา ขอเพียงแค่มือต้องนิ่ง ก็ได้ภาพถ่ายสวย ๆ แล้ว

8. ชาร์จเร็วทันใจ

เดิม Vivo V9 ไม่มีฟีเจอร์ชาร์จเร็ว แต่ Vivo V11i ใส่ฟีเจอร์ชาร์จเร็วมาให้แล้ว เหมาะสำหรับการชาร์จเร่งด่วนในระหว่างวันที่ต้องกลับบ้านดึก ช่วยเติมพลังยืดอายุการใช้งานให้เพียงพอก่อนกลับถึงบ้าน โดยเป็นระบบชาร์จเร็วที่ปลอดภัยไว้ใจได้ และตัวเครื่องแทบจะไม่ร้อนในขณะชาร์จอีกด้วย

9. กล้องถ่ายภาพ ผสาน Google Lens ฉลาดยิ่งขึ้น

ค้นหาข้อมูลและทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับภาพถ่ายได้ทันทีอย่างชาญฉลาด ใกล้ ๆ ปุ่ม Shutter ถ่ายภาพ มีปุ่ม Google Lens ให้เรียกใช้งานได้ทันทีไม่ต้องสลับแอปพลิเคชั่น

10. ปลดล็อกหน้าจอได้รวดเร็วมาก

ไม่ว่าจะปลดล็อกหน้าจอด้วยการสแกนลายนิ้วมือหรือใช้ Face Unlock ก็ตอบสนองได้เร็วและแม่นยำอย่างมาก โดยเฉพาะการปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ ใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ก็พร้อมใช้งาน ส่วน Face Unlock ก็ใช้เวลาประมาณวินาทีเดียว แม้ในสภาพแสงน้อยมาก ๆ เกือบมืดสนิท ก็ยังสามารถปลดล็อกด้วยวิธี Face Unlock ได้แม่นยำ จุดนี้ถือว่าประทับใจสุด ๆ ปลดล็อกได้ดีทั้งสองวิธีอย่างรวดเร็ว

11. แบตเตอรี่อึดเกินคาด พิสูจน์แล้ว ใช้งานได้สูงสุด 2 วันเต็ม

แบตเตอรี่ความจุ 3315mAh ของ Vivo V11i ทดสอบใช้งานจริงเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องหลัก ทั้งเล่น Social ถ่ายรูป แชทตลอดวันผ่าน LINE กับ Facebook Messenger ดูคลิปวิดีโอบ้าง ฟังเพลงออนไลน์บ้าง โทรชาร์จเต็ม 100% ออกจากบ้านตอนเช้าไปทำงาน กลับถึงบ้านตอนดึก แบตเตอรี่ยังคงเหลืออีกประมาณ 50-55% ทุกวัน มั่นใจว่าถ้าไม่ได้ชาร์จไฟก่อนนอน ก็น่าจะใช้งานต่อได้ครบอีกหนึ่งวันพอดี อย่างไรก็ตาม หากเล่นเกมที่เน้นการประมวลผลภาพ 3D ต่อเนื่องหลายชั่วโมง ก็น่าจะยังใช้งานได้ครบวันพอดี

12. รองรับ 2 SIM ใส่พร้อมกับ microSD ได้เลย

ทำไมต้องเสียสละ ทำไมต้องเลือกว่าจะใส่ SIM เบอร์ที่สองหรือจะใส่ microSD เพราะ V11i มีถาดยาวพิเศษ ใส่ได้ครบทั้งนาโนซิมการ์ด 2 เบอร์พร้อมกับ microSD ไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งอีกต่อไป

13. ติดฟิล์มกันรอยหน้าจออย่างหนามาให้จากโรงงาน พร้อมเคสนิ่มคุณภาพดี

ซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ ไม่ต้องปวดหัวกับการติดฟิล์มเอง หรือไปหาซื้อฟิล์มตรงรุ่น ไม่ต้องซื้อเคสเพิ่ม เพราะ Vivo V11i ติดฟิล์มคุณภาพดีมาให้จากโรงงานแล้ว เป็นแผ่นฟิล์มหนา ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีในระดับหนึ่งแล้ว แกะกล่องเครื่องใหม่ พร้อมใช้งานทันที สวมเคสใสแบบนิ่มที่แถมมาในกล่อง ป้องกันตัวเครื่องเป็นรอย แล้วพกพาออกไปใช้งานได้อย่างไม่ต้องกังวล

14. ยังมีช่องเสียบหูฟังแบบมาตรฐาน 3.5mm

ฟังเพลงได้สะดวกสบาย ใช้กับหูฟังทั่วไปได้ทันที ไม่ต้องใช้ Adapter แปลง ในขณะที่สมาร์ทโฟนระดับเรือธงเกือบทุกแบรนด์ ตัดช่องเสียบหูฟังออกไปแล้ว แต่ Vivo ยังไม่ตัดทิ้ง เพราะรู้ว่าคนส่วนใหญ่ยังจำเป็นต้องใช้ ดีกว่าการใช้หูฟังไร้สาย ซึ่งมักจะพบปัญหาเสียง Delay และการพกพาสายแปลงขั้วหูฟังออกไปใช้งานนนอกสถานที่ ก็อาจจะตกหล่นสูญหายได้

15. เพิ่มพื้นที่เต็มจอภาพ ด้วยการเอา Navigation Bar ออกจากพื้นที่ล่างสุดของจอภาพได้

เอาปุ่ม Back, Home, Recent App ออกจากขอบล่างของหน้าจอได้ กลายเป็นขีดหรือจุดเล็ก ๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานให้กว้างขึ้น ดู YouTube หรือ Gallery ในแนวนอนแบบไม่มีแถบสีขาวเกะกะอีกต่อไป

16. เปลี่ยน Home Launcher ได้อิสระ เพิ่มแบบมี App Drawer ได้

Vivo V11i ไม่ได้บังคับหรือล็อกให้ใช้ Home Launcher ที่มากับ ROM เท่านั้น แต่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถติดตั้ง Home Launcher ตัวอื่น ๆ ได้อิสระ หากเลือกแบบที่มี App Drawer ก็จะทำให้หน้าจอดูเป็นระเบียบมากขึ้น ไม่มีไอคอนของแอปพลิเคชั่นมากมายเกะกะบนหน้า Home Screen อย่างในภาพ เป็นการใช้งาน Pixel Launcher ที่มากับ Google Pixel 2 แทน Launcher ตัวเดิมของ Vivo ทำให้เครื่องเร็วลื่นมากขึ้น และปรับไอคอนให้เป็นวงกลมตามมาตรฐานของ Google ได้อีกด้วย ได้ความรู้สึกเหมือนใช้งาน Pure Android

17. เปลี่ยนรูปแบบตัวอักษร (Font) ภาษาไทยได้ตามใจชอบ

ไม่ต้องรูทหรือดัดแปลงแก้ไขจนทำให้เครื่องสิ้นสุดการรับประกัน ก็สามารถเปลี่ยนฟอนต์ภาษาไทยให้เป็นแบบที่ชื่นชอบหรือรู้สึกว่าอ่านง่ายมากขึ้นเองได้ ลองค้นหาวิธีหรือดาวน์โหลดฟอนต์ได้เลยจาก Google และ YouTube ก็จะพบว่ามีสมาชิกแฟน ๆ Vivo บอกวิธีหรือแจกแอปพลิเคชั่นเพิ่มฟอนต์ภาษาไทยใหม่ ๆ ลงใน iTheme แล้ว โดยเลือกเปลี่ยนที่แอปพลิเคชั่น iTheme เหมือนกับการเปลี่ยน Theme และ Wallpaper นั่นเอง

18. ยังมี FM Radio ไว้ฟังวิทยุในขณะนั่งรถเดินทางไกลได้

Vivo V11i ยังไม่ตัดทิ้งวิทยุ FM ซึ่งก็จำเป็นสำหรับชีวิตคนยุคนี้ ที่เดินทางไกล นั่งรถนาน ๆ ก็สามารถฟังเพลงอย่างเพลิดเพลินหรือฟังข่าวสารจากวิทยุได้

19. หน้าจอ LCD ความคมชัดสูงระดับ Full HD+ สีสันสดใส ไม่กลัวเบิร์น

หลายคนเคยใช้สมาร์ทโฟนแบรนด์ดังยอดขายอันดับ 1 ของโลก แล้วพบปัญหาจอภาพเบิร์น หรือขึ้นแถบสีเป็นเส้นสว่างคาดหน้าจอ แต่ Vivo V11i ใช้หน้าจอ LCD ยุคใหม่ที่ให้สีสันสดใส มุมมองกว้าง สีไม่ค่อยผิดเพี้ยน โดยที่ไม่ต้องใช้หน้าจอแบบ AMOLED จึงไม่ต้องกังวลเรื่องจอเบิร์นเมื่อใช้งานครบปีแรก นอกจากนี้ จอภาพขนาด 6.3 นิ้วของ V11i ก็ยังให้ภาพที่คมชัดเนียนตา ขนาดใหญ่กำลังดี เหมาะกับผู้ใช้ทุกวัย ภายใต้ดีไซน์ตัวเครื่องขนาดเล็ก