ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ประกาศความตั้งใจที่จะสนับสนุนผู้สร้างภาพยนตร์ไทยในการผลิตผลงานภาพยนตร์ไทยคุณภาพเยี่ยมเพื่อผู้ชมทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยมุ่งมั่นพัฒนาประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ไทยของผู้ชม โดยในปีนี้บริษัทได้ทุ่มทุนมากกว่า 100 ล้านบาท และคาดว่าจะกวาดรายได้มากกว่า 300 ล้านบาท
ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์
บริษัท ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (CJ MAJOR Entertainment) เป็นบริษัทที่ก่อตั้งภายใต้ความร่วมมือระหว่าง เมเจอร์ กรุ๊ป (Major Group) ผู้ให้บริการโรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และบริษัท ซีเจ อีแอนด์เอ็ม จำกัด (CJ ENM) ผู้ผลิตคอนเทนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัทซีเจ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ระดับสากล ที่มีผลงานการร่วมมือผลิตภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่การตลาดและการสร้างชื่อเสียงมามากมาย ตั้งแต่ภาพยนตร์ระดับฮอลลีวูด ไปจนถึงภาพยนตร์ในประเทศไทย จีน ตุรกี เวียดนาม และอินโดนีเซีย
นางสาว โยนู ชเว กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูงและยังมีผู้สร้างมากฝีมืออยู่มากมาย โดยในปีที่ผ่านมาประเทศในภูมิภาคอาเซียนมีรายได้จากการจัดฉายภาพยนตร์ (Box Office) มากกว่า 38 ล้านบาท ขณะที่รายได้ในบ็อกซ์ออฟฟิศของประเทศเกาหลีใต้นั้นมีมูลค่ามากกว่า 49 ล้านบาท ซึ่งนี่คือตัวบ่งชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยที่สามารถผลักดันให้ก้าวหน้าต่อไปได้ด้วยการนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพ อันจะนำไปสู่ความต้องการรับชมของผู้ชมที่เพิ่มขึ้นได้ในที่สุด
นางสาว โยนู ชเว กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ผู้ชมชาวไทยต่างมองหาคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงและยิ่งไปกว่านั้นคนไทยพร้อมสนับสนุนภาพยนตร์ไทยที่ผลิตโดยคนไทย นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีผู้ผลิต ผู้สร้าง และผู้กำกับที่มากความสามารถจำนวนมาก ที่มองหาโอกาสในการสร้างภาพยนตร์ไทยที่สดใหม่และมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
“เป้าหมายของเราคือการนำความสนุกและความสุขที่ไม่มีวันสิ้นสุด มาให้กับคนไทยที่รักและชื่นชอบการชมภาพยนตร์ และเราสามารถทำให้เป้าหมายเป็นจริงได้ด้วยการพัฒนาประสบการณ์ความบันเทิงของผู้ชมไทย ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพภาพยนตร์ไทยให้สูงขึ้นเพื่ออรรถรสการรับชมที่เต็มอิ่มสำหรับผู้ชม นอกจากนี้ เรายังต้องการนำเสนอภาพยนตร์ไทยที่มีความหลากหลายมากขึ้นสู่ตลาด ด้วยการสนับสนุนผู้สร้างภาพยนตร์ชาวไทยที่ต้องการสร้างภาพยนตร์ที่แตกต่าง สร้างสรรค์ และมีสีสันมากกว่าเดิม” นางสาว โยนู กล่าว
นางสาว โยนู ยังเน้นย้ำอีกว่า กลยุทธ์ของซีเจ เมเจอร์ไม่ได้หยุดแค่เพียงการนำเสนอภาพยนตร์ไทยที่มีคุณภาพสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเผยแพร่ผลงานจากประเทศไทยไปสู่ตลาดภาพยนตร์ในระดับสากล พวกเราต้องการที่จะก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยและแสดงให้นานาชาติเห็นว่า ภาพยนตร์และผู้สร้างภาพยนตร์จากประเทศไทยสามารถเฉิดฉายในตลาดที่สำคัญต่างๆ ทั่วโลก ได้เช่นกัน
กลยุทธ์สู่ความสำเร็จ
กลยุทธ์ที่ ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ใช้ในการทำให้บรรลุจุดมุ่งหมาย ประกอบไปด้วย 2 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ กลยุทธ์ด้านเนื้อหาที่มีความเป็นสากล (universal stories) และ กลยุทธ์การเติบโตร่วมกับพันธมิตรในประเทศ (local partners)
บริษัทมุ่งเน้นผลิตภาพยนตร์ที่สามารถเข้าถึงผู้คนได้เป็นอย่างดี และสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ ทางด้านวัฒนธรรมได้ โดยกลยุทธ์ดังกล่าวนี้เน้นไปที่ความเชี่ยวชาญของซีเจ เมเจอร์ ในการผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ต้นฉบับของแต่ละประเทศ หรือภาพยนตร์จากประเทศอื่นๆ ที่สร้างจากแนวคิดจากคอนเทนต์ที่มีอยู่แล้วจากเกาหลี ตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์ที่มีต้นฉบับมาจากเกาหลี สามารถนำมาสร้างขึ้นใหม่ได้อีกครั้งในรูปแบบของภาพยนตร์ไทยด้วยวิธีการและความสามารถของผู้สร้าง ผู้กำกับ และนักแสดงชาวไทย
“ภาพยนตร์ที่ดีย่อมสามารถนำไปฉายได้ทุกที่” นางสาว โยนู กล่าว “ผู้ชมต่างต้องการภาพยนตร์ที่สร้างแรงบันดาลใจและมอบความสนุกสนานน่าตื่นเต้นให้พวกเขาได้ และสิ่งที่ ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์สามารถทำได้ คือ การพัฒนาเนื้อเรื่องให้ดี และการพยายามอย่างหนักในการทำให้เนื้อหามีความเฉพาะกับท้องถิ่นนั้น ๆ เพื่อให้เข้าถึงผู้ชมชาวไทยและในภูมิภาคอาเซียน
นางสาว โยนู กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์ด้านพันธมิตรกับผู้สร้างภาพยนตร์ในประเทศ ถือได้ว่าเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์ของเราสามารถเข้าถึงผู้ชมชาวไทยได้สำเร็จ “การทำความเข้าใจในความเป็นไทย และการส่งสารที่อยู่ภายใต้บริบทของวัฒนธรรมไทยนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศ ทำให้เราเข้าใจผู้ชมและตลาดได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราโชคดีมากที่ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับผู้กำกับและพันธมิตรมากมายในประเทศไทย โดยเฉพาะกับพันธมิตรที่สำคัญของเราอย่าง เมเจอร์ กรุ๊ปที่คอยให้การสนับสนุนธุรกิจของเราเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันประสบการณ์ที่เมเจอร์ กรุ๊ปได้สั่งสมมานาน และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในตลาดภาพยนตร์ไทย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราต่างก็มีเป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกัน นั่นคือการผลิตภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาคุณภาพให้กับผู้คนมากขึ้น” นางสาว โยนู กล่าว
นายพรชัย ว่องศรีอุดมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ ของบริษัท เมเจอร์ ซีเนเพล็ก กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมเจอร์ กรุ๊ปได้ตกลงเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่นำความหลากหลายและคุณภาพของเนื้อหาภาพยนตร์มาสู่ตลาดไทยให้มากขึ้นร่วมไปกับ ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์
พันธกิจสำคัญที่ เมเจอร์ กรุ๊ป ต้องการจะทำให้สำเร็จ คือการเพิ่มความแข็งแกร่งของตลาดและการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย เพื่อยกระดับคุณภาพของภาพยนตร์ไทยในหมู่ผู้ชมและเปลี่ยนการรับรู้ของพวกเขาที่มีต่อภาพยนตร์ไทย นอกจากนี้พวกเรายังมีเป้าหมายที่จะขยายส่วนแบ่งทางการตลาดของภาพยนตร์ไทยให้ไปถึง 50% อย่างที่เกิดขึ้นกับหลายๆ ประเทศ เช่น ประเทศเกาหลีใต้ ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดของภาพยนตร์ในประเทศมากกว่าภาพยนตร์จากต่างประเทศ
เมเจอร์ กรุ๊ป และ ซีเจ เมเจอร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ มีเป้าหมายร่วมกันที่จะนำเสนอภาพยนตร์ไทยที่มีคุณภาพสูงไปสู่ผู้ชมชาวไทย ผ่านรูปแบบการเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยมและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและพวกเรายังเชื่อว่าไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้ดูภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมในโรงภาพยนตร์คุณภาพสูง ด้วยเหตุนี้เมเจอร์ กรุ๊ปจึงได้ทุ่มเทลงทุนเพื่อความครบครันของโรงภาพยนตร์ ไปพร้อมกับระบบเสียงและจอภาพคุณภาพสูง เพื่อมอบความสะดวกและบรรยากาศสนุกสนานมากที่สุดแก่ผู้ชม และด้วยภาพยนตร์คุณภาพที่ผลิตโดย ซีเจ เมเจอร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ เราสามารถรับรองได้เลยว่าผู้ชมคนไทยจะได้รับประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่ดีที่สุด โดย ซีเจ เมเจอร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ นั้นพร้อมที่จะมอบความเชี่ยวชาญในการผลิตภาพยนตร์ ลิขสิทธิ์ทางทรัพย์สินทางปัญญา เงินลงทุน และโอกาสสำคัญสำหรับผู้ผลิตภาพยนตร์ไทยให้ได้ก้าวไปสู่เวทีในระดับโลกแก่ประเทศไทย” นายพรชัย กล่าว
ความสุขที่ไม่มีวันสิ้นสุดจาก 3 ภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าฉาย
ในปีนี้ ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เตรียมเปิดตัวภาพยนตร์ที่มากด้วยสีสันและความแปลกใหม่ทั้งหมด 3 เรื่องด้วยกัน ได้แก่
· Love Battle รัก 2 ปียินดีคืนเงิน: ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ในสไตล์มนุษย์เงินเดือน ที่ดัดแปลงมาจากต้นฉบับของประเทศเกาหลี โดยมี วิรัตน์ เฮงคงดี (โจ้) เป็นผู้กำกับ ผู้เขียนบท และ ผู้อำนวยการสร้างจากบริษัทโต๊ะกลม โทรทัศน์ ในครั้งนี้เป็นการร่วมงานกันครั้งแรกระหว่าง ปรมะ อิ่มอโณทัย (ปั้นจั่น) และ เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา (เอสเธอร์) ภาพยนตร์เข้าฉายพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 20 มิถุนายนนี้
· That March: กำกับโดย ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล (มะเดี่ยว) ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง รักแห่งสยาม ความทรงจำรักในช่วงวัยรุ่นที่ไม่อาจลืมเลือนของเด็กชายคนหนึ่งที่ชีวิตเขาได้เปลี่ยนไป ที่ถูกตีแผ่โดยฝีมือกำกับของ มะเดี่ยว ผู้กำกับยอดฝีมือ ภาพยนตร์เรื่อง That March นำแสดงโดย ศุกลวัฒน์ คณารศ (เวียร์) และ ญารินดา บุนนาค (นินา) ซึ่งจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ในวันที่ 19 กันยายนนี้
· Classic Again: ภาพยนตร์ที่ถูกดัดแปลงมาจากภาพยนตร์เกาหลีอันโด่งดัง เรื่อง The Classic ภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าที่ยังคงตราตรึงในความทรงจำของเหล่าผู้ชมชาวไทย โดยได้ ธัชพงศ์ ศุภศรี (อาร์ม) มากำกับเรื่องนี้ พร้อมด้วยทัพนักแสดงนำมากความสามารถอย่าง รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร (มิ้นท์) และ ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ (นิว) ซึ่งจะเข้าฉายปลายปีนี้
COMMENTS