อีริคสัน เผย ครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคไทยจะเปลี่ยนผู้ให้บริการภายใน 6 เดือน หากผู้ให้บริการเดิมที่ใช้อยู่ไม่เปิดบริการ 5G และยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่ม 30 เปอร์เซ็นต์เพื่อใช้บริการ 5G ที่ตอบโจทย์ความต้องการ ทั้งนี้ปริมาณการใช้ข้อมูลเฉลี่ยในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้น 10 เท่า เป็น 70 กิกกะไบท์ต่อเดือนบนอุปกรณ์ที่รองรับ 5G
อีริคสัน เผยรายงานวิจัยผู้บริโภคฉบับล่าสุดเรื่อง ศักยภาพของผู้บริโภค 5G พร้อมข้อมูลเชิงลึกสำหรับประเทศไทย เพื่อสร้างความเข้าใจและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ 5G ที่อุตสาหกรรมยังตั้งคำถามถึงสิ่งที่ผู้บริโภคจะได้รับคุณค่า และชี้ให้เห็นโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ให้บริการเครือข่าย สำหรับประเทศไทย รายงานชิ้นนี้อ้างอิงข้อมูลมาจากการสัมภาษณ์ผู้ใช้สมาร์ทโฟนจำนวน 1,500 คนที่มีอายุระหว่าง 15 ถึง 69 ปี ซึ่งในเชิงสถิติผู้ให้ข้อมูลสัมภาษณ์กลุ่มนี้คือตัวแทนของคนจำนวน 19 ล้านคนในประเทศไทย
จากรายงานพบว่า ครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคคนไทยจะเปลี่ยนผู้ให้บริการภายใน 6 เดือน หากผู้ให้บริการปัจจุบันที่พวกเขาใช้งานอยู่ไม่เปิดให้บริการ 5G นอกจากนี้ผู้บริโภคในประเทศไทยยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่ม 30 เปอร์เซ็นต์สำหรับบริการ 5G ที่ตอบโจทย์ความต้องการอันดับแรก ๆ และจากการคาดการณ์รูปแบบการใช้งานในอนาคตของผู้บริโภคในประเทศไทย พบว่า ปริมาณการใช้งานข้อมูลบนมือถือที่รองรับ 5G โดยเฉลี่ยจะเพิ่มมากขึ้นถึง 10 เท่า ไปเป็น 70 กิกกะไบท์ต่อเดือน โดยผู้ที่ใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างจริงจังจะมีการใช้งานข้อมูลบนเครือข่าย 5G มากถึง 130 กิกกะไบท์ต่อเดือนภายในปี 2568
นางนาดีน อัลเลน ประธาน บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การตระหนักและการรับรู้ต่อประโยชน์ของเทคโนโลยี 5G ของผู้บริโภคทั่วโลกกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับในประเทศไทย ผู้บริโภคต่างก็กำลังเฝ้ารออยู่เช่นกัน ซึ่งผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือที่เริ่มให้บริการ 5G ได้ก่อนจะมีความได้เปรียบอย่างมากในช่วงเริ่มต้น อีริคสันเป็นผู้นำรายแรกที่ช่วยผู้ให้บริการเครือข่าย 5G เปิดให้บริการใน 4 ทวีป ด้วยความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจ ในหลายประเทศทั่วโลก อีริคสันจึงเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ด้านดิจิทัลของประเทศไทย และส่งเสริมให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีบนเครือข่าย 5G ได้”
5G กำลังจะเข้ามายกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภค โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่สร้างความกลมกลืมระหว่างโลกความจริงกับโลกดิจิทัลอย่าง AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) จากผลวิจัยประมาณ 76 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในประเทศไทยที่ให้สัมภาษณ์เชื่อว่า แว่น AR จะกลายเป็นอุปกรณ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายภายในปี 2568 และคาดการณ์ว่าผู้บริโภคจะใช้เวลาเพิ่มมากขึ้นประมาณ 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อดูวิดีโอบนมือถือและอุปกรณ์พกพา ซึ่ง 1 ใน 3 ชั่วโมงนี้ จะเป็นการใช้งานผ่านอุปกรณ์แว่น AR และ VR นั่นเอง
นอกจากนี้ ประมาณ 88 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนเชื่อว่าพวกเขาจะสื่อสารทางโทรศัพท์ในแบบโฮโลแกรม 3 มิติ เป็นประจำทุกสัปดาห์ ขณะที่ราว 13 เปอร์เซ็นต์คาดว่าการโทรศัพท์สนทนาแบบเห็นหน้ากัน หรือ Video call จะถูกแทนที่อย่างสิ้นเชิงด้วยการสื่อสารแบบโฮโลแกรม 3 มิติ และ 86 เปอร์เซ็นต์ชี้ให้เห็นว่าเกมคอนโซลจะล้าสมัย สมาร์ทโฟนจะมาแทนที่ในไม่ช้าและกลายมาเป็นเกมคอนโซลใหม่ในที่สุด
นายวุฒิชัย วุฒิอุดมเลิศ รองประธานและหัวหน้าฝ่ายเน็ตเวิร์คโซลูชั่นส์ บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “บริการ 5G จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน เทคโนโลยีมือถือรุ่นใหม่จะให้บริการแก่ผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ยกระดับคุณภาพการเชื่อมโยงในทุกอุปกรณ์ด้วยอินเทอร์เน็ต (หรือ Internet of Things) ไปสู่อีกระดับที่รวดเร็วกว่า อย่างไรก็ตาม คนไทยจะได้รับประโยชน์สูงสุดจาก 5G ก็ต่อเมื่อเรามีระบบนิเวศทางด้านเทคโนโลยีที่ชัดเจน ทั้งในเรื่องของกฏระเบียบ ความปลอดภัย และพันธมิตรทางอุตสาหกรรม ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ประเทศไทย”
ในขณะเดียวกัน ปริมาณการใช้ข้อมูลบนมือถือทั้งหมดทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอัตรา 82 เปอรเซ็นต์ต่อปี ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 131 เอ็กซะไบท์ต่อเดือนภายในปีพ.ศ. 2567 และประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์อยู่บนเครือข่าย 5G
ปัจจุบันผู้ให้บริการในประเทศต่าง ๆ พร้อมให้บริการ 5G แล้ว หลังจากการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่รองรับ 5G ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ให้บริการในบางประเทศได้ตั้งเป้าว่าจะสามารถให้บริการ 5G ครอบคลุมมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรในประเทศภายในปีแรก
ความมุ่งมั่นของผู้ผลิตชิปและชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ ถือเป็นกุญแจสำคัญช่วยเร่งให้เกิดการใช้งาน 5G อย่างแพร่หลาย พร้อมทั้งสมาร์ทโฟนที่รองรับทุกคลื่นความถี่หลักมีกำหนดที่จะเปิดตัวออกสู่ตลาดภายในปีนี้ อุปกรณ์ที่รองรับ 5G รวมถึงการเปิดให้บริการเครือข่าย 5G ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้คาดการณ์ได้ว่าจะมีจำนวนการสมัครใช้งาน 5G ทั่วโลกมากกว่า 10 ล้านราย ภายในปีพ.ศ. 2562
ทั้งนี้ภายในสิ้นปีพ.ศ. 2567 คาดการณ์ว่าเครือข่าย 5G จะครอบคลุมประมาณ 45 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรทั้งโลก ซึ่งตัวเลขนี้สามารถเพิ่มได้ถึง 65 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเทคโนโลยีแบ่งปันคลื่นความถี่ (spectrum sharing technology) ซึ่งจะทำให้สามารถให้บริการ 5G บนย่านความถี่แบบ LTE ได้อย่างง่ายดาย
คลิกเพื่ออ่านรายงาน Ericsson Mobility Report June 2019 ฉบับเต็ม
คลิกเพื่ออ่านรายงาน Ericsson Consumer Potential Study 2019 ฉบับเต็ม
จากรายงานพบว่า ครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคคนไทยจะเปลี่ยนผู้ให้บริการภายใน 6 เดือน หากผู้ให้บริการปัจจุบันที่พวกเขาใช้งานอยู่ไม่เปิดให้บริการ 5G นอกจากนี้ผู้บริโภคในประเทศไทยยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่ม 30 เปอร์เซ็นต์สำหรับบริการ 5G ที่ตอบโจทย์ความต้องการอันดับแรก ๆ และจากการคาดการณ์รูปแบบการใช้งานในอนาคตของผู้บริโภคในประเทศไทย พบว่า ปริมาณการใช้งานข้อมูลบนมือถือที่รองรับ 5G โดยเฉลี่ยจะเพิ่มมากขึ้นถึง 10 เท่า ไปเป็น 70 กิกกะไบท์ต่อเดือน โดยผู้ที่ใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างจริงจังจะมีการใช้งานข้อมูลบนเครือข่าย 5G มากถึง 130 กิกกะไบท์ต่อเดือนภายในปี 2568
นางนาดีน อัลเลน ประธาน บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การตระหนักและการรับรู้ต่อประโยชน์ของเทคโนโลยี 5G ของผู้บริโภคทั่วโลกกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับในประเทศไทย ผู้บริโภคต่างก็กำลังเฝ้ารออยู่เช่นกัน ซึ่งผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือที่เริ่มให้บริการ 5G ได้ก่อนจะมีความได้เปรียบอย่างมากในช่วงเริ่มต้น อีริคสันเป็นผู้นำรายแรกที่ช่วยผู้ให้บริการเครือข่าย 5G เปิดให้บริการใน 4 ทวีป ด้วยความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจ ในหลายประเทศทั่วโลก อีริคสันจึงเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ด้านดิจิทัลของประเทศไทย และส่งเสริมให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีบนเครือข่าย 5G ได้”
5G กำลังจะเข้ามายกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภค โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่สร้างความกลมกลืมระหว่างโลกความจริงกับโลกดิจิทัลอย่าง AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) จากผลวิจัยประมาณ 76 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในประเทศไทยที่ให้สัมภาษณ์เชื่อว่า แว่น AR จะกลายเป็นอุปกรณ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายภายในปี 2568 และคาดการณ์ว่าผู้บริโภคจะใช้เวลาเพิ่มมากขึ้นประมาณ 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อดูวิดีโอบนมือถือและอุปกรณ์พกพา ซึ่ง 1 ใน 3 ชั่วโมงนี้ จะเป็นการใช้งานผ่านอุปกรณ์แว่น AR และ VR นั่นเอง
นอกจากนี้ ประมาณ 88 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนเชื่อว่าพวกเขาจะสื่อสารทางโทรศัพท์ในแบบโฮโลแกรม 3 มิติ เป็นประจำทุกสัปดาห์ ขณะที่ราว 13 เปอร์เซ็นต์คาดว่าการโทรศัพท์สนทนาแบบเห็นหน้ากัน หรือ Video call จะถูกแทนที่อย่างสิ้นเชิงด้วยการสื่อสารแบบโฮโลแกรม 3 มิติ และ 86 เปอร์เซ็นต์ชี้ให้เห็นว่าเกมคอนโซลจะล้าสมัย สมาร์ทโฟนจะมาแทนที่ในไม่ช้าและกลายมาเป็นเกมคอนโซลใหม่ในที่สุด
นายวุฒิชัย วุฒิอุดมเลิศ รองประธานและหัวหน้าฝ่ายเน็ตเวิร์คโซลูชั่นส์ บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “บริการ 5G จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน เทคโนโลยีมือถือรุ่นใหม่จะให้บริการแก่ผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ยกระดับคุณภาพการเชื่อมโยงในทุกอุปกรณ์ด้วยอินเทอร์เน็ต (หรือ Internet of Things) ไปสู่อีกระดับที่รวดเร็วกว่า อย่างไรก็ตาม คนไทยจะได้รับประโยชน์สูงสุดจาก 5G ก็ต่อเมื่อเรามีระบบนิเวศทางด้านเทคโนโลยีที่ชัดเจน ทั้งในเรื่องของกฏระเบียบ ความปลอดภัย และพันธมิตรทางอุตสาหกรรม ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ประเทศไทย”
5G ทั่วโลกจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดคิด
จากข้อมูล รายงาน Ericson Mobility ฉบับเดือนมิถุนายน ปี 2562 ระบุว่า 5G ทั่วโลกจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิด ซึ่งคาดการณ์ว่า ปริมาณข้อมูลมือถือรวมทั้งหมดต่อเดือนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และหมู่เกาะต่าง ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกจะเติบโต 7 เท่าจาก 2.3 เอ็กซะไบท์ในปีพ.ศ. 2561 เป็น 16 เอ็กซะไบท์ในปีพ.ศ. 2567 และการสมัครใช้บริการ 5G ในภูมิภาคนี้จะเติบโตเกือบ 12 เปอร์เซ็นต์ ภายในปีพ.ศ. 2567ในขณะเดียวกัน ปริมาณการใช้ข้อมูลบนมือถือทั้งหมดทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอัตรา 82 เปอรเซ็นต์ต่อปี ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 131 เอ็กซะไบท์ต่อเดือนภายในปีพ.ศ. 2567 และประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์อยู่บนเครือข่าย 5G
ปัจจุบันผู้ให้บริการในประเทศต่าง ๆ พร้อมให้บริการ 5G แล้ว หลังจากการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่รองรับ 5G ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ให้บริการในบางประเทศได้ตั้งเป้าว่าจะสามารถให้บริการ 5G ครอบคลุมมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรในประเทศภายในปีแรก
ความมุ่งมั่นของผู้ผลิตชิปและชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ ถือเป็นกุญแจสำคัญช่วยเร่งให้เกิดการใช้งาน 5G อย่างแพร่หลาย พร้อมทั้งสมาร์ทโฟนที่รองรับทุกคลื่นความถี่หลักมีกำหนดที่จะเปิดตัวออกสู่ตลาดภายในปีนี้ อุปกรณ์ที่รองรับ 5G รวมถึงการเปิดให้บริการเครือข่าย 5G ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้คาดการณ์ได้ว่าจะมีจำนวนการสมัครใช้งาน 5G ทั่วโลกมากกว่า 10 ล้านราย ภายในปีพ.ศ. 2562
ทั้งนี้ภายในสิ้นปีพ.ศ. 2567 คาดการณ์ว่าเครือข่าย 5G จะครอบคลุมประมาณ 45 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรทั้งโลก ซึ่งตัวเลขนี้สามารถเพิ่มได้ถึง 65 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเทคโนโลยีแบ่งปันคลื่นความถี่ (spectrum sharing technology) ซึ่งจะทำให้สามารถให้บริการ 5G บนย่านความถี่แบบ LTE ได้อย่างง่ายดาย
คลิกเพื่ออ่านรายงาน Ericsson Mobility Report June 2019 ฉบับเต็ม
คลิกเพื่ออ่านรายงาน Ericsson Consumer Potential Study 2019 ฉบับเต็ม
อัพเดตรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ 5G ทั่วโลก และศักยภาพของผู้บริโภคในประเทศไทย
จำนวนผู้สมัครใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่– ในไตรมาสที่ 1 ปีพ.ศ. 2562 มีจำนวนผู้สมัครใช้บริการรายใหม่เท่ากับ 44 ล้านรายจากทั่วโลก
– ในไตรมาสที่ 1 ปีพ.ศ. 2562 มีจำนวนผู้สมัครใช้บริการรายใหม่เท่ากับ 12 ล้านรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค (ไม่นับรวมจีนและอินเดีย)
– ในปัจจุบัน มีจำนวนผู้สมัครใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประมาณ 7.9 พันล้านรายทั่วโลก
ความคืบหน้าของ 5G ในตลาด
– จากผลการวิจัยคาดการณ์ว่า 5G จะมาเร็วกว่าเมื่อเทียบกับตอนเปิดให้บริการ 4G
– ภายในปีพ.ศ. 2567 จะมีการสมัครใช้บริการ 5G มากถึง 1.9 พันล้านราย เพื่อเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อแบบไร้สาย
– เทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่าการแบ่งปันคลื่นความถี่ (Spectrum Sharing) จะสามารถทำให้เครือข่าย 5G ครอบคลุมได้ถึงประมาณ 65 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรทั้งโลก ภายในปีพ.ศ. 2567
ปริมาณการใช้ข้อมูลบนมือถือ
– ปริมาณการใช้ข้อมูลบนมือถือทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 131 เอ็กซะไบท์ ต่อเดือนภายในปีพ.ศ. 2567
– ปริมาณการใช้ข้อมูลบนมือถือประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์จะอยู่บนเครือข่าย 5G ภายในปีพ.ศ. 2567
– ปริมาณการใช้ข้อมูลบนมือถือต่อเดือนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และหมู่เกาะต่าง ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก จะเติบโตขึ้นถึง 7 เท่า จาก 2.3 เอ็กซะไบท์ในปีพ.ศ. 2561 ไปเป็น 16 เอ็กซะไบท์ในปีพ.ศ. 2567 และคาดว่าภายในปีพ.ศ. 2567 จะมีการสมัครใช้บริการ 5G ถึง 12 เปอร์เซ็นต์
ศักยภาพผู้บริโภค 5G ในประเทศไทย
– อีริคสันนำเสนอผลการรายงานการวิจัยผู้บริโภค พร้อมข้อมูลเชิงลึกสำหรับประเทศไทย โดยงานวิจัยฉบับนี้อ้างอิงข้อมูลมาจากการสัมภาษณ์ผู้ใช้สมาร์ทโฟนในประเทศไทยจำนวน 1,500 คนที่มีอายุระหว่าง 15 ปี ถึง 69 ปี ซึ่งในเชิงสถิติผู้ให้ข้อมูลสัมภาษณ์กลุ่มนี้จะเป็นตัวแทนของคนจำนวน 19 ล้านคนในประเทศไทย
– โดยในรายงานฉบับนี้ จะเก็บข้อมูลบนพื้นฐานความเชื่อของผู้บริโภคในแบบเดิม ๆ 4 ข้อ คือ
1. ผู้บริโภคจะไม่ได้รับผลประโยชน์จาก 5G ในอนาคตอันใกล้
2. กรณีศึกษาเกี่ยวกับ 5G สำหรับผู้บริโภค ไม่ได้มีอยู่จริง
3. สมาร์ทโฟนจะเป็นทางออกสำหรับ 5G
4. พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน จะทำนายความต้องการการใช้งานในอนาคตได้อย่างแม่นยำ
ความเชื่อที่ 1 - ผู้บริโภคจะไม่ได้รับผลประโยชน์จาก 5G ในอนาคตอันใกล้
– 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคในประเทศไทยคาดหวังว่าบริการ 5G จะสามารถออกสู่ตลาดได้จริงภายใน 2 ปีอีกข้างหน้า
– ครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคในประเทศไทยจะเปลี่ยนผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใน 6 เดือน หากผู้ให้บริการเดิมที่ใช้อยู่ ไม่เปิดให้บริการ 5G
– 60 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคในประเทศไทย ต้องการให้เกิดการให้บริการ 5G ในพื้นที่ใจกลางเมือง และเมืองที่มีผู้คน อยู่หนาแน่น ก่อนพื้นที่อื่น ๆ
– 52 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคในประเทศไทย มีความรู้สึกว่ายังไม่พอใจกับบริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่บ้าน และ มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนผู้ให้บริการในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ความเชื่อที่ 2 - กรณีศึกษาเกี่ยวกับ 5G สำหรับผู้บริโภค ไม่ได้มีอยู่จริง
– ความเร็วในการเชื่อมต่อแบบไร้สาย (Enhanced Mobile Broadband) และอุปกรณ์เซนเซอร์ในบ้านอัจฉริยะ เป็นสองสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคในประเทศไทยยินดีที่จะจ่ายค่าบริการ โดยผู้บริโภคมีความคาดหวังว่าบริการเหล่านี้ จะเกิดขึ้นภายใน 2 ปีข้างหน้า โดยเฉลี่ยประมาณ 83 เปอร์เซ็นต์มีความสนใจในบริการและยินดีที่จะจ่ายค่าบริการ
– 5 อันดับแรกที่ผู้บริโภคในประเทศไทย คาดหวังอยากให้รวมอยู่ในการให้บริการจาก 5G
1. พื้นที่ให้บริการ 5G (5G hot zones) – การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วสูงในโซนพื้นที่หลักในเมือง จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดภาพยนตร์แบบ full HD ได้ภายในไม่กี่วินาที
2. ภาพ 3 มิติเสมือนจริง (Diorama) – ผู้บริโภคสามารถเลือกมุมมองของการดูกีฬาบนหน้าจอแท็ปแล็ตได้เอง จากกล้องมุมต่าง ๆ เช่น มุมมองจากผู้เล่น ผู้ตัดสิน หรือผู้ชม พร้อมกับดูคะแนนหรือสถิติในปัจจุบันได้ อีกทั้งยังสามารถแชร์หน้าจอไปหาคนอื่นได้อีกด้วย
3. โฮโลแกรม 3 มิติ (3D hologram) - ผู้ใช้สามารถมองเห็นหน้าคู่สนทนาที่โทรเข้ามาด้วยโทรศัพท์แบบโฮโลแกรม 3 มิติ คุณภาพสูง เสมือนนั่งอยู่ในห้องเดียวกัน
4. 5G สำหรับความบันเทิงในรถยนต์ – บริการเชื่อมต่อความบันเทิงในรถยนต์ ผู้บริโภคสามารถชมวีดีโอ 4K ได้อย่างต่อเนื่อง สามารถหยุดพักและกลับมาชมต่อได้ นอกจากนี้ยังสามารถช้อปปิ้งออนไลน์ และเล่นโซเชียลมีเดียได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
5. บริการเซนเซอร์ในบ้านอัจฉริยะ – คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน เช่น จอมอนิเตอร์ต่าง ๆ ภายในบ้าน สามารถใช้อุปกรณ์ 5G ในการควบคุม เพื่อการบริหารจัดการที่ง่ายขึ้น เชื่อมต่อสื่อสารระหว่าง อุปกรณ์ และยังสามารถเชื่อถือและไว้วางใจได้อีกด้วย
– ผู้บริโภคในประเทศไทยมีความพร้อมที่จะจ่ายค่าบริการเพิ่มขึ้นอีก 30 เปอร์เซ็นต์ (โดยเฉลี่ย) สำหรับบริการ 5G
ความเชื่อที่ 3 – สมาร์ทโฟนจะเป็นทางออกสำหรับ 5G
– ผู้บริโภคในประเทศไทยเชื่อว่าสมาร์ทโฟนจำเป็นจะต้องพัฒนาเพื่อรองรับการใช้งานสำหรับ 5G
– ผู้บริโภคคาดหวังว่าอุปกรณ์ที่รองรับ 5G จะมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่มากไปกว่าแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน และขนาดความจุของหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้น อาทิ กล้องที่สามารถหมุนได้ 360 องศา ขนาดความละเอียดของภาพระดับ 8K หรือแม้แต่ความสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของดวงตา
– 76 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในประเทศไทยคาดหวังว่าจะได้ใช้แว่น AR ภายในปีพ.ศ. 2568
ความเชื่อที่ 4 - พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน จะทำนายความต้องการการใช้งานในอนาคตได้อย่างแม่นยำ
– ผู้บริโภคในประเทศไทยจะใช้เวลาเพิ่มมากขึ้นประมาณ 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อดูวิดีโอบนมือถือและอุปกรณ์พกพา ซึ่ง 1 ใน 3 ชั่วโมงนี้ จะเป็นการใช้งานผ่านอุปกรณ์แว่น AR และ VR
– 88 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในประเทศไทยเชื่อว่าพวกเขาจะสื่อสารทางโทรศัพท์ในแบบโฮโลแกรม 3 มิติ เป็นประจำทุกสัปดาห์ ขณะที่ราว 13 เปอร์เซ็นต์คาดว่าการโทรศัพท์สนทนาแบบเห็นหน้ากัน หรือ Video call จะถูกแทนที่อย่างสิ้นเชิงด้วยการสื่อสารแบบโฮโลแกรม 3 มิติ
– 86 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในประเทศไทยเชื่อว่าเกมคอนโซลจะล้าสมัย สมาร์ทโฟนจะมาแทนที่ในไม่ช้าและกลายมาเป็นเกมคอนโซลใหม่ในที่สุด
– ปริมาณการใช้งานข้อมูลบนมือถือที่รองรับ 5G ในประเทศไทย โดยเฉลี่ยจะเพิ่มมากขึ้นถึง 10 เท่า ไปเป็น 70 กิกกะไบท์ต่อเดือน โดยผู้ที่ใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างจริงจังจะมีการใช้งานข้อมูลบนเครือข่าย 5G มากถึง 130 กิกกะไบท์ต่อเดือนภายในปี 2568
ความคืบหน้าด้าน 5G ของอีริคสัน
– อีริคสันเป็นผู้นำรายแรกที่ช่วยผู้ให้บริการเปิดให้บริการเครือข่าย 5G ได้ใน 4 ทวีป และสนับสนุนผู้ให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ 24 รายทั่วโลก
– กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านเรดิโอของอีริคสันตั้งแต่ปีพ.ศ. 2558 สามารถรองรับการใช้งาน 5G ได้อย่างง่ายดาย ด้วยการติดตั้งซอฟต์แวร์จากทางไกล (Remote Software Installation) ปัจจุบันอีริคสันได้ส่งมอบอุปกรณ์ที่พร้อมใช้งานสำหรับ 5G ไปแล้วมากกว่า 3 ล้านรายการทั่วโลก ซึ่งก่อให้เกิดความได้เปรียบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับลูกค้า
– อีริคสันเป็นผู้นำหลักในคณะทำงานของกลุ่ม 3GPP มีส่วนร่วมถึงกว่า 50,000 รายการ เพื่อยกระดับมาตรฐาน 5G
– อีริคสันเป็นรายแรกที่ประสบความสำเร็จในการทดสอบการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์ชิปเซ็ทต่าง ๆ ในการใช้งานสำหรับทุกคลื่นความถี่ ทั้งในย่านความถี่สูง กลาง และต่ำ
COMMENTS