บอกกันตามตรงว่า หลงรักตั้งแต่เห็นครั้งแรก เมื่อ Lara Croft ลงจากรถคู่ใจ Volvo XC40 ในภาพยนตร์ Tomb Raider ภาคล่าสุด แน่นอนว่ารู้สึกอยากขับ อยากได้เป็นรถ Crossover ที่ขับทุกวันในชีวิตประจำวัน และก็คิดว่า รออีกสักระยะก็จะเปิดตัวในไทย ราคา XC40 ก็คงไม่แพงเกินเอื้อม เพราะในช่วงเวลานั้น S40 กับ V40 ที่นำเข้ามาจากมาเลเซีย ก็ทำราคาได้ว้าวมาก ๆ
ในที่สุด Volvo XC40 ก็เปิดตัวด้วยราคา 2.09 / 2.39 ล้านบาท เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน 2561 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นราคาที่ไม่ผิดคาด แข่งขันกับคู่แข่งจาก BMW, Mercedes-Benz, Lexus และ Audi ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ
วอลโว่ มีความโดดเด่นอย่างมากเรื่องความปลอดภัย การันตีด้วยด้วยผลการทดสอบชนจาก Euro NCAP ที่ทำได้ยอดเยี่ยม บวกกับดีไซน์ของ XC40 ที่สวยล้ำทันสมัย ราคาไม่แพง จึงทำให้แฟน ๆ วอลโว่ทั่วโลกให้กระแสตอบรับที่ดี โดยเฉพาะดีไซน์ของ XC40 ที่ถูกใจหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ สีสันสวยงาม ดูเท่และแกร่งอย่างมีเอกลักษณ์ สะกดทุกสายตาบนท้องถนนให้เหลียวมองได้จริง
สำหรับผู้ที่สนใจ Volvo XC40 ก็น่าจะเคยอ่านรีวิวจากหลายสื่อชั้นนำกันมาบ้างแล้ว ศึกษาข้อมูลและรายละเอียดจุดเด่นของรถจากสื่อต่าง ๆ กันแล้วเช่นกัน ซึ่งในบทความรีวิวนี้ จะเป็นการตอกย้ำจุดเด่นที่น่าประทับใจจากการทดสอบขับใช้งานจริงในชีวิตประจำวันตลอด 4-5 วันของ Volvo XC40 T5 AWD R-Design เกรดท็อปสุด
1. ดีไซน์ภายนอกสวยทุกมุมมอง ทันสมัยถูกใจวัยรุ่น
Volvo XC40 T5 AWD R-Design ที่จำหน่ายในประเทศไทย เน้นทำราคาให้กลุ่มเป้าหมายก็คือ หนุ่มสาวคนรุ่นใหม่วัยทำงาน ผู้ประกอบการ Startup สามารถเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก จึงตัด Sun Roof ออกไป แต่ดีไซน์ที่สวยทันสมัยถูกใจวัยรุ่น ลุยไปได้ทุกที่ทั้งขับขี่ในเมือง เดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด และขับผจญภัยค้นหาสิ่งใหม่ ๆ แบบออฟโรด โดยเฉพาะสาว ๆ น่าจะชื่นชอบ XC40 มากเป็นพิเศษ ดีไซน์ที่สะท้อนความทันสมัยแต่ยังคงหรูหรา แต่เน้นสปอร์ตและความแรง ขับง่าย ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หรือสาววัยรุ่นก็สามารถขับได้ เปิดฝากระโปรงหน้าและฝาท้ายได้โดยไม่ต้องออกแรงมากมาย พวงมาลัยไฟฟ้าที่เบาควบคุมรถได้ดั่งใจต้องการ ดีไซน์ภายนอกที่ดูสวยเท่ทุกมุมมอง ดูโดดเด่นสะดุดตา ความลงตัวทั้งหมดนี้ ทำให้ดีไซน์ของ XC40 เป็นที่ถูกใจของคนรุ่นใหม่อย่างแน่นอน
2. ห้องโดยสาร โอ่โถง กว้างขวาง นั่งสบาย
วอลโว่ XC40 เป็นรถยนต์ Crossover SUV รุ่นเล็กสุด แต่ตัวถังภายนอกและห้องโดยสารถือว่าใหญ่มาก โปร่งโล่ง กว้างขวางกว่าคู่แข่งในระดับราคาใกล้เคียงกัน นั่งสบายทุกที่นั่ง เฮดรูมและเลกรูม มีเหลือเฟือ ไม่ว่าจะสูงแค่ไหน หรืออยากนั่งไขว่ห้าง ก็ทำได้ เบาะที่นั่งคู่หน้า ปรับด้วยไฟฟ้าทุกทิศทาง ส่วนที่รองรับเอวสามารถปรับได้ 4 ทิศทางด้วยไฟฟ้า เมื่อปรับดันออกมาให้เหมาะสมกับสรีระ ก็จะไม่รู้สึกปวดหลังเมื่อต้องนั่งนานหรือเดินทางไกล ทำให้กระดูกสันหลังไม่โก่งงอ นั่งเอนแบบหลังตรงได้สบายตัว ในกรณีที่รถคันนี้ มีผู้ขับขี่มากกว่า 1 คน ก็สามารถ Memory แยกผู้ขับขี่ได้ด้วย รวมทั้งทัศนวิสัยในการขับขี่ ถือว่าดีเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่ XC40 ที่จำหน่ายในไทยปัจจุบันนี้ ยังไม่มีหลังคา Sun Roof ต่างจากรถทดสอบขับที่ได้รีวิว
วัสดุ การตกแต่ง ความประณีต ดีไซน์ ถือว่าดีเยี่ยมเกินราคา ยังคงเนี๊ยบตามสไตล์วอลโว่ มีช่องวางเครื่องดื่มหรือใส่ของใช้จุกจิกได้เยอะมากในทุกตำแหน่งที่นั่ง ใส่ใจทุกรายละเอียดในห้องโดยสารให้ดูดีและใช้ประโยชน์ได้มากที่สุดในทุกพื้นที่ พวงมาลัยมีขนาดที่กระชับมือกำลังดี ตำแหน่งปุ่มควบคุมต่าง ๆ ออกแบบได้ค่อนข้างลงตัวดี ผู้ขับใช้เวลาเรียนรู้ปรับตัวไม่นานจากรถคันเดิมที่ไม่ใช่วอลโว่
จอแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว และจอแสดงผลในคอนโซลกลางแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว วางแนวตั้งสไตล์ Tablet ใหญ่โตและโดดเด่น เป็นหน้าจอที่ตัดแสงสะท้อนภายนอกได้ค่อนข้างดี แต่ติดคราบรอยนิ้วได้ง่ายไปหน่อย เป็นศูนย์กลางการควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในรถ เมนูและตัวอักษรขนาดใหญ่ ตอบสนองการสัมผัสได้รวดเร็ว การออกแบบ User Interface ดูค่อนข้างเข้าใจง่าย
3. พับเบาะได้ง่าย ด้วยระบบไฟฟ้า ไม่ต้องออกแรง
สาวตัวเล็ก ๆ น่าจะปลื้มไม่น้อย เมื่อต้องการพับเบาะแค่กดปุ่มพับที่พิงศีรษะ แล้วพับเบาะลงมาได้ง่าย ๆ โดยแทบไม่ต้องออกแรง หรือหากยืนอยู่ท้ายรถเมื่อเปิดฝาท้าย ก็สามารถกดปุ่มพับเบาะหลังได้ ทั้งหมดนี้เป็นระบบไฟฟ้า และเมื่อพับเบาะหลังลงมา ก็จะวางสัมภาระขนาดใหญ่ได้สบาย พื้นห้องโดยสารเรียบเสมอกัน
4. เปิดและปิดฝาท้ายด้วยไฟฟ้า
ฝาท้ายสามารถเปิดได้ด้วยไฟฟ้า โดยมีเซ็นเซอร์พร้อมจะหยุดเปิดทันทีเมื่อมีแรงต้านขัดขวาง หรือหากไม่ได้เปิดด้วยไฟฟ้าในกรณีที่ไม่มีรีโมตอยู่กับตัว ก็สามารถยกเปิดได้ง่าย โดยไม่ต้องออกแรง มีโช้คช่วยผ่อนแรง เด็กเล็กก็สามารถยกฝาท้ายเปิดเองได้ การปิดฝาท้ายก็เพียงแค่กดปุ่มพร้อมล็อกรถทันทีในปุ่มเดียว ไม่ต้องกดล็อกรถซ้ำที่รีโมต นอกจากนี้ยังมีล้ออะไหล่และเครื่องมือเปลี่ยนล้อมาให้พร้อมใช้ทันที
5. กระจกมองข้างและกระจกมองหลัง ตัดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
ค่ามาตรฐานจากโรงงาน เมื่อรถพบว่าตัวรถไม่ได้อยู่ในที่ที่มีแสงสว่างจ้า แต่มีแสงจ้าส่องมาจากทิศทางด้านหลังรถ กระจกมองข้างและกระจกมองหลัง จะปรับให้ตัดแสงอัตโนมัติทันที ลดแสงจ้าสะท้อนรบกวนสายตา
6. ไฟแจ้งเตือนยานพาหนะในมุมอับสายตา
ไฟเตือนเมื่อมีรถแล่นมาในเลนข้างที่อาจเป็นมุมอับสายตา ป้องกันอุบัติเหตุเมื่อมีการเปลี่ยนเลนกระทันหันนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่ไฟเตือนของวอลโว่ที่ขอบกระจกมองข้าง สามารถมองเห็นได้ชัดเจนกว่า เส้นไฟสีส้มสว่างกว่ารถทั่วไป ได้ผลดีกว่าไฟที่แสดงเป็นสัญลักษณ์เล็ก ๆ บนกระจกมองข้าง
7. เจิดจรัสในค่ำคืน สง่างามด้วยแสงไฟรอบคัน
ความโดดเด่นที่น่าประทับใจ เหลียวมองทุกครั้งที่เห็น Volvo รุ่นใหม่ ๆ นั่นคือไฟ Daytime Running Light ที่สวยสะดุดตาในเวลากลางวันเป็นรูป Thor Hammer ไฟหน้าในเวลากลางคืนก็สว่างไกล รู้สึกปลอดภัยและมีทัศนวิสัยที่ดี ไฟหน้าปรับมุมตามองศาการเลี้ยว ทำให้มองเห็นทุกสิ่งในมุมกว้าง ไฟท้ายทรงสูงสวยงามเป็นเอกลักษณ์ของวอลโว่มายาวนาน มีไฟส่องสว่างบนพื้นจากใต้ประตูคู่หน้า ช่วยให้ผู้ขับและผู้โดยสารลงรถในที่มืดสนิทอย่างปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีไฟที่มือจับประตูทั้ง 4 บานอีกด้วย
8. เปลี่ยนบรรยากาศภายในรถยามค่ำคืนด้วย LED 7 สี
ที่เมนู Lights and Lightings เราสามารถเลือกเปลี่ยนสีไฟ LED ในห้องโดยสารได้ถึง 7 สี ปรับความสว่างได้ 2 ระดับ ซึ่งไฟ LED นี้ ถูกติดตั้งบนเพดานใกล้ไฟส่องแผนที่ 1 ตัว กับอีก 2 ตัวที่เพดานห้องโดยสารตอนหลัง เพื่อสร้าง Mood & Tone
9. ไม่ต้องเหยียบเบรกค้างจนเมื่อยในขณะรถติดไฟแดง
ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ แต่เป็นฟีเจอร์ที่ได้ใช้งานบ่อยมากที่สุดเมื่อขับรถในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯ แค่กด ((A)) เพื่อเปิดใช้งาน ทุกครั้งที่ติดไฟแดงหรือรถติดเป็นเวลานานแบบไม่ค่อยขยับ เมื่อเหยียบเบรกค้างไว้สักครู่หลังรถหยุดสนิท ระบบเบรกไฟฟ้าก็จะคงสถานะเบรกนั้นไว้ เราไม่ต้องเหยียบเบรกแช่ไว้ เมื่อออกตัว ก็แตะคันเร่งกระตุ้นเล็กน้อย ขับต่อได้ทันที รถเคลื่อนที่ออกตัวค่อนข้างนุ่มนวลดี เมื่อเจอรถติดไฟแดงอีกครั้ง ก็เหยียบเบรกค้างไว้เช่นเดิมสักครู่ ระบบเบรกไฟฟ้าก็จะทำงานอีกครั้ง ช่วยให้ผู้ขับไม่รู้สึกเมื่อยเท้า
10. แรงสะใจติดเทอร์โบ ด้วย Dynamic Drive Mode
ปกติ เมื่อขับ XC40 ในย่านใจกลางเมืองที่รถติดหนัก จะเลือกใช้โหมด Eco เป็นหลัก เพราะช่วยประหยัดน้ำมันได้จริง เมื่อออกชานเมือง เลือกโหมด Comfort ทำให้กลายเป็นที่ขับสนุก คล่องตัว ให้พละกำลังที่มากมาย แต่บางช่วงเวลาหากต้องการความแรงแบบสะใจวัยรุ่น เลือกโหมด Dynamic จะได้สัมผัสถึงความแรงที่ต้องตกใจของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ เบนซิน เทอร์โบ ที่เร่งความเร็วแบบติดเทอร์โบจากปกติ 80km/h ไปถึง 170km/h ได้ภายใน 3-4 วินาที เป็นความสนุกในการขับขี่ที่น่าประทับใจมาก เปลี่ยนเลนพุ่งเร่งแซงอย่างไวแล้วกลับมาในเลนเดิมแบบนุ่มนวล รถทรงตัวได้ดีเยี่ยม แต่อย่างไรก็ตาม หากขับทางไกลด้วยความเร็วประมาณ 120-140km/l ใช้แค่โหมด Comfort ก็ถือว่าแรงเหลือเฟือแล้ว
ด้วยแรงม้าที่มากถึง 252hp ที่ 5500rpm แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100km/h ภายใน 6.4 วินาที พิสูจน์แล้วว่าทำได้จริงตามสเปก 6 วินาทีกว่า ๆ ในทุกครั้ง ทำให้ Volvo XC40 เป็นรถที่สมรรถนะสูงมาก ขับสนุก ทรงตัวดี แรงสะใจวัยรุ่น ระบบเบรกก็ทำให้มั่นใจได้ในความปลอดภัยแม้ขับด้วยความเร็วสูง และเชื่อมั่นว่าหากใครได้ลองขับ ก็จะปลื้มในสมรรถนะและการขับขี่ที่สนุก ตามคำนิยามของวอลโว่ "ไม่มีคำอธิบาย...จนกว่าจะได้ลอง" ตั้งแต่สมัย Volvo 850 T5R ก็ยังใช้ได้ในยุคนี้ เสียดายด้วยเวลาที่จำกัด ทำให้ยังไม่ได้ทดสอบขับในโหมด Off Road
11. กุญแจรีโมทหุ้มหนัง ดีไซน์สวย พกพาสะดวก
กุญแจรีโมท ดีไซน์สวย ด้วยวัสดุหนังเจาะรูที่เหมือนเบาะที่นั่ง ดูแลรักษาง่าย พกพาสะดวก
12. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน เหมาะสมลงตัวเมื่อเทียบกับสมรรถนะ
เมื่อขับขี่ในเมือง เลือกใช้โหมดขับขี่แบบ Eco ตลอดเวลา ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้จริง เหมาะสมกับการขับที่ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 60km/h อยู่แล้ว จากการทดสอบ ได้อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 10-11km/L เมื่อขับทางไกล ออกชานเมืองย่านถนนนครอินทร์-ราชพฤกษ์ตัดใหม่ หรือขึ้นทางด่วน ก็เปลี่ยนใช้โหมดขับขี่แบบ Comfort ที่ขับได้สนุก ได้ความแรงเหลือเฟือ ทำความเร็วสูงสุดตามกฎหมายกำหนด ทดสอบได้อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ประมาณ 14-15km/L หากต้องเร่งแซงขบวนรถบรรทุกพ่วง ก็เลือกใช้โหมดขับขี่แบบ Dynamic เป็นบางครั้งเพื่อเรียกพลังจากเทอร์โบ ซึ่งเปลืองน้ำมันมากขึ้นแน่นอน แต่อย่าลืมว่า XC40 T5 AWD เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ไม่มีให้เลือกสลับมาเป็น 2WD บวกกับตัวรถที่มีขนาดใหญ่โตและน้ำหนักเยอะมาก อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 12.5km/L ตามที่ระบุใน Eco Sticker ก็ถือว่าเป็น Crossover SUV ที่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ สมรรถนะเครื่องยนต์เทอร์โบที่ให้แรงบิดสูงมาก แรงม้าก็มากถึง 252hp ขับสนุกทั้งในเมืองและออฟโรด ไม่ได้ถือว่ากินน้ำมันมากเกินไปจนน่าเกลียด หากต้องการทั้งความแรงและประหยัดกว่านี้ ลองพิจารณาเป็น Plug-in Hybrid SUV อย่าง XC60 หรือ XC90 ที่ประหยัดมากกว่า 40km/L ขึ้นไป เพราะใช้พลังขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก
13. ยิ่งแต่ง ยิ่งสวย ด้วยแพ็กเกจชุดแต่งแท้จากวอลโว่
ทั้ง Volvo XC40 T4 FWD และ T5 AWD ก็มีชุดแต่งให้เลือกตกแต่งเพิ่มเติม เพิ่มความสวยงามสะกดทุกสายตาให้เหลียวมอง
14. แจ้งเตือนบนหน้าจอ พร้อมแผนที่อัจฉริยะที่น่าทึ่ง
แผนที่ที่ปรากฏบนหน้าจอ สร้างความน่าทึ่ง ที่รู้จักสถานที่สำคัญในประเทศไทยและอัพเดตได้รวดเร็วมาก ให้ข้อมูลละเอียดกว่า Google Maps ด้วยซ้ำไป นอกจากนั้น ยังมีการเตือนจำกัดความเร็วบนมาตรวัดความเร็วเมื่อขับรถในจุดที่มีการจำกัดความเร็ว หรือเมื่อขับเข้าใกล้โรงเรียน ก็จะมีภาพป้ายจราจรเตือนระวังการข้ามถนน เป็นการใส่ใจในรายละเอียดที่ตอกย้ำชัดเจนว่าวอลโว่ใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยทั้งเชิงป้องกันอุบัติเหตุภายนอกรถและปกป้องทุกคนภายในรถ
15. มีระบบช่วยจอด ทั้งถอยจอดเข้าซองและขนานขอบทาง
Parking Assist Pilot ช่วยจอดรถได้แม่นยำ มีประโยชน์อย่างมากในเวลากลางคืน รวมทั้งผู้ขับที่ไม่ชำนาญ มาพร้อมกับ Sensor หน้า-หลัง และกล้องหลัง ไม่ว่าจะจอดแบบถอยหลังเข้าซองหรือจอดขนานกับขอบทาง ก็กลายเป็นเรื่องง่าย ๆ
16. ระบบเสียงที่ยอดเยี่ยม ฟังสนุกถูกใจวัยรุ่น
เฉพาะ XC40 T5 AWD R-Design เท่านั้นที่มีเครื่องเสียง Premium Sound by Harman Kardon กำลังขยาย 600 วัตต์ ลำโพงรอบ 13 ตัวรอบทิศทางพร้อมซับวูฟเฟอร์ คุณภาพเสียงยอดเยี่ยม เปิดเบา ๆ ก็ให้ความไพเราะและสนุกสนาน ซับวูฟเฟอร์ให้เบสที่ลึก แรงกระแทกดี เบสเป็นลูก กระชับ เก็บตัวไวไม่ฟุ้งหรือพล่ามัว มวลเสียงกลางที่หวานอิ่มจับใจ เสียงแหลมไม่บาดหู มิติเสียงกว้าง และกว้างยิ่งขึ้นเมื่อเปิดใช้ระบบเสียงรอบทิศทาง Quantum Logic มาพร้อม Equalizer 9-bands ปรับอิสระพร้อม EQ Preset สำเร็จรูปก็มีให้เลือกใช้
แนวเสียงคล้ายกับ Sound Bar ของ Harman Kardon รุ่น SB20 ราคาหมื่นกว่าบาทที่ใช้ในบ้าน เบสลึกและทรงพลัง ในขณะที่เสียงร้องกับเสียงแหลมก็หวานใส เหมาะกับเพลงสมัยใหม่ทุกแนว ไม่ว่าจะเป็น Hip-Hop ที่เน้นจังหวะ, Electronics Dance ที่สนุกสนาน, หรือเพลง Pop ทั่วไปก็ลงตัว ซึ่งก็เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของ XC40 ที่วอลโว่ต้องการ คือ เป็นรถของหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่
17. Pilot Assist ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ และ Sensor รอบคัน ปลอดภัยเต็มพิกัด
สัญลักษณ์พวงมาลัยสีเขียวปรากฏบนหน้าจอมาตรวัด หมายถึง ระบบขับกึ่งอัตโนมัติกำลังทำงานอยู่ พัฒนาการอีกขั้นจากระบบ Cruise Control ที่คุ้นเคยกันมา เมื่อขับด้วยความเร็วที่ต้องการแล้วเปิดใช้ Pilot Assist รถก็จะล็อกความเร็วระดับนั้นไว้ ผู้ขับไม่ต้องเหยียบคันเร่ง แค่ประคองพวงมาลัยเบา ๆ เอาไว้ รถจะควบคุมความเร็วแบบแปรผันเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า ชะลอความเร็วเมื่อรถคันหน้าขับช้าลง และเร่งความเร็วขึ้นเมื่อรถคันหน้าเร่งความเร็วทิ้งห่าง ด้วยระยะห่างที่คำนวณแล้วว่าปลอดภัยต่อการเบรกกระทันหัน โดยระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัตินี้ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 130km/h รถจะขับตรงหรือเข้าโค้งอัตโนมัติไปตามแนวเส้นบนถนน แต่ไม่สามารถละมือจากพวงมาลัยได้ มีการตรวจจับแรงต้านของพวงมาลัยเป็นระยะ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ขับยังจับพวงมาลัยและไม่ได้หลับใน
ถึงแม้ว่าไม่ได้เปิดใช้งาน Pilot Assist แต่วอลโว่ก็ยังมีระบบแจ้งเตือนด้วยการสั่นที่พวงมาลัยเมื่อรถออกนอกเลน คล้ายการหลับใน มีการเตือนเมื่อขับตามหลังรถคันหน้าในระยะที่ใกล้เกินไป ระบบป้องกันการชน เมื่อตรวจพบรถ-คนเดิน-คนขี่จักรยาน-สัตว์ใหญ่ เข้ามาในระยะใกล้ ไม่ว่าขับเดินหน้าหรือถอยหลัง รถจะตัดสินใจเบรกหรือชะลอความเร็วตามความเหมาะสมแล้วแต่กรณี
18. อากาศสดชื่นตลอดเวลาภายในรถด้วย CleanZone
นอกจากวัสดุประเภทหนังและผ้าที่ใช้ประกอบตกแต่งทุกชิ้นส่วนภายในรถวอลโว่ จะไม่ส่งกลิ่นรบกวนใจทุกคนในรถ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้แล้ว อากาศที่หมุนเวียนภายในรถ ก็เป็นเรื่องสำคัญที่วอลโว่ใส่ใจ โดยส่วนตัวแล้ว เป็นคนที่ขับรถทางไกลแล้วรู้สึกง่วงทุกครั้งเมื่อขับต่อเนื่องนาน ๆ เพราะอากาศภายในรถ มีปริมาณ CO2 เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต้องจอดพักสูดอากาศภายนอก ลงจากรถทุกชั่วโมงรับความสดชื่น แต่ด้วยระบบ CleanZone ที่มีการดึงอากาศภายนอกเข้ามาเป็นระยะ ๆ เพิ่ม O2 ภายในห้องโดยสาร แต่ไม่มีกลิ่นเหม็นจากภายนอกเข้ามาด้วย ทำให้ผู้ขับและผู้โดยสารรู้สึกสดชื่นตลอดเวลาจากอากาศบริสุทธิ์ ไม่รู้สึกง่วง ซึ่งทดสอบแล้ว ได้ผลที่ดีมาก ขับรถทางไกลจากโชว์รูมวอลโว่ที่หัวหมากไปถึงระยอง โดยไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด หายใจสบายปอด สดชื่นตลอดเวลา ต่างจากรถคันเดิมที่ขับประจำอย่างชัดเจน
19. รองรับ Apple Car Play, Android Auto และแอปพลิเคชั่นที่สำคัญ
ซื้อรถยุคนี้ ต้องเลือกที่รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทั้ง iOS และ Android OS ไม่ใช่อย่างใดอย่างหนึ่ง ช่วยเพิ่มความสะดวกในการนำทางและติดต่อสื่อสาร รวมทั้งการฟังเพลงออนไลน์ แต่ Volvo XC40 ที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ในแนวตั้งคล้ายจอ iPad ก็ยังรองรับแอปพลิเคชั่นสำคัญ โดยที่ไม่ได้จำเป็นต้องเชื่อมต่อผ่าน Android Auto หรือ Apple Car Play ก็ได้ เช่น Spotify, TuneIn หรือ Weather ทำให้สามารถฟังเพลงหรือวิทยุออนไลน์หรือตรวจเช็กสภาพอากาศจากรถได้โดยตรง ไม่ผ่านแอปฯ ของสมาร์ทโฟน แต่แชร์อินเทอร์เน็ตมาจากสมาร์ทโฟน
20. ราคาที่เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก
Volvo XC40 ราคาเริ่มต้นที่ 2.09 ล้านบาท ส่วน XC40 T5 AWD ที่รีวิวในบทความนี้ ราคา 2.39 ล้านบาท มีหลายสิ่งที่เพิ่มเข้ามาแล้วรู้สึกว่าคุ้ม เช่น หลังคาสีดำ, ล้อดำปัดเงาขนาด 19 นิ้ว, ระบบเสียงจาก Harman Kardon, มีสีน้ำเงินให้เลือก, ได้เครื่องยนต์ที่มีแรงบิดกับแรงม้าเพิ่มขึ้นอีกเยอะมาก เพิ่มอัตราเร่ง ขับสนุกยิ่งขึ้น, ไฟหน้าปรับสูงต่ำและเบนเลี้ยวตามอัตโนมัติ, ได้ระบบช่วยจอดและช่วยขับแบบเต็มฟังก์ชั่น รวมทั้งการตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบ R-Design โดยรวมทั้งสมรรถนะ ดีไซน์ ความกว้างสบายในทุกที่นั่ง ถือว่าเหนือกว่าคู่แข่งในหลายด้าน ราคาระดับ 2 ล้านต้น ๆ ของ XC40 ถือว่าคุ้มค่าน่าลงทุนกับการใช้งานในระยะยาว
COMMENTS