เดอะ โกลด์เด้น ดั๊ก (The Golden Duck) แบรนด์ขนมสัญชาติสิงคโปร์ ผู้บุกเบิกขนมกินเล่นรสไข่เค็ม (Salted egg yolk snack) จากเมืองสิงโตพ่นน้ำ เดินเกมรุกเขย่าตลาดขนมขบเคี้ยวในไทย ส่ง 4 รสชาติเข้มข้น ‘หนังปลากรอบคลุกไข่เค็ม มันฝรั่งทอดกรอบคลุกไข่เค็ม สาหร่ายเทมปุระทอดกรอบรสปูไข่เค็ม’ และรสชาติไฮไลท์ ’สาหร่ายเทมปุระทอดกรอบคลุกปูผัดพริก’ ชูจุดขาย ‘รสชาติต้นตำรับ ที่มาพร้อมความแตกต่างด้านรสชาติแต่ยังถูกปากคนไทย’ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ตัวจริงเรื่องกินเล่น” กับพันธกิจ ‘กอบกู้วิกฤติศรัทธาความอร่อยในประเทศไทย’ เดินเครื่องเต็มที่เพื่อให้คนไทยติด #กับDuckความอร่อย เตรียมปูพรมวางสินค้าครอบคลุมทั่วประเทศ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2558 เดอะ โกลด์เด้น ดั๊ก เปิดตัวแบรนด์ที่ประเทศสิงคโปร์ พร้อมกับเสียงตอบรับที่ดีกับขนมรสชาติแรก มันฝรั่งทอดกรอบรสไข่เค็ม แต่เป้าหมายและความมุ่งมั่นของแบรนด์ไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น ก้าวสู่ปีที่ 3 เดอะ โกลด์เด้น ดั๊ก วันนี้ได้ขึ้นเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งครองใจผู้บริโภคสิงคโปร์ เช่นเดียวกับเลย์ และพริงเกิ้ล การันตีด้วยยอดขายดีอันดับหนึ่งของขนมขบเคี้ยวใน 7-Eleven ช่วงตรุษจีนในฮ่องกงช่วงปี 2561-62 ฮ่องกง จึงได้ต่อยอดธุรกิจ ขยายสาขาสู่ประเทศฟิลิปปินส์ จีน มาเลเซีย ไต้หวัน และประเทศไทย อีกทั้ง เดอะ โกลด์เด้น ดั๊ก ยังมีการส่งออกกว่า 70 ประเทศทั่วโลก
“เมื่อประมาณต้นปี 2558 ผมเริ่มเห็นความนิยมของหนุ่มสาวชาวมิลลิเนียลกับการบริโภคขนมหรืออาหารที่มีส่วนผสมของไข่เค็มที่มากขึ้นเรื่อยๆ เลยปรึกษากับคริสว่าเราน่าจะทำอะไรเกี่ยวกับเทรนด์ไข่เค็มฟีเวอร์ที่มีอยู่ ซึ่งย้อนไปตอนนั้น เราทั้งสองคนไม่มีพื้นฐานทางธุรกิจในอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวมาก่อน แต่เราก็ไม่ลังเลที่จะลองทำธุรกิจนี้ ด้วยเพราะเป้าหมายทางธุรกิจของเราทั้งคู่ คือเราจะต้องไม่ทำแบรนด์ขนมกินเล่นรสชาติหรือคุณภาพงั้นๆ แต่เราจะเป็นต้นตำรับความอร่อยของขนบคบเคี้ยว สินค้าต้องมีคุณภาพคับแน่นในทุกซองและต้องมอบประสบการณ์ทางรสชาติที่แปลกใหม่ให้คนรักขนมตัวจริง แบรนด์เดอะ โกลด์เด้น ดั๊ก จึงถือกำเนิดขึ้นทันที” นายโจนาธาน เชน ผู้ก่อตั้ง ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจต่างประเทศและผู้บริหารผลิตภัณฑ์กล่าว
“สิ่งที่ เดอะ โกลด์เด้น ดั๊ก ต่างจากทุกแบรนด์ขนมที่มีอยู่ในตลาด คือเราเป็นแบรนด์ขนมที่จริงจังเรื่องกินเล่นครับ เรามีความเชื่อเรื่องศาสตร์แห่งขนม (Snackology) เรามีทีมเชฟผู้ทุ่มเทในการเสาะหารสชาติแรงบันดาลใจในการจับคู่รสชาติเข้มข้นของแต่ละอาหารจานพิเศษให้คงอยู่พร้อมเนื้อสัมผัสแปลกใหม่ ที่พร้อมปรุงออกมาเป็นขนมสุดอร่อยที่ทำจากวัตถุดิบแท้คุณภาพในทุกชิ้น” นายคริสโตเฟอร์ หวัง ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร กล่าว
“สำหรับการบุกตลาดในประเทศไทย เราเล็งเห็นเม็ดเงินหมุนเวียนในกลุ่มธุรกิจสแน็คฟู้ด ซึ่งมีมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท (137 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยในปี 2562 คาดการว่าตลาดจะเติบโตขึ้นทั้งปีที่ 1.2% (CAGR 2019-2023)1 ทั้งนี้เรามองว่า ผู้บริโภคชาวไทยต้องการสัมผัสกับขนมขบเคี้ยว แสวงหารสชาติที่แปลกใหม่และมองหาขนมขบเขี้ยวที่มีความหลากหลาย ด้วยเหตุนี้เราจึงส่งเดอะ โกลด์เด้น ดั๊ก (The Golden Duck) ถึง 4 รสชาติ ได้แก่ ‘หนังปลากรอบคลุกไข่เค็ม มันฝรั่งทอดกรอบคลุกไข่เค็ม สาหร่ายเทมปุระทอดกรอบรสปูไข่เค็ม’ และรสชาติไฮไลท์ ’สาหร่ายเทมปุระทอดกรอบคลุกปูผัดพริก’ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการบริโภคขนมขบเคี้ยวที่แตกต่างกัน” นายโจนาธาน กล่าว
“ในแง่ของรูปแบบธุรกิจและแผนการจัดจำหน่ายสินค้าในไทยจะแตกต่างจากสิงคโปร์ ในประเทศไทยจะจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด อันได้แก่ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ / ท็อปส์ มาร์เก็ต / กูร์เมต์ มาร์เก็ต และ ริมปิง ซุปเปอร์มาร์เก็ต (จังหวัดเชียงใหม่) โดยเราให้ความสำคัญกับการลงสินค้าที่สาขาพรีเมี่ยมเป็นหลัก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 รสชาติ เราตั้งราคาขายอยู่ที่ห่อละ 195 บาท ซึ่งการเลือกสาขาในการจัดจำหน่าย ทำให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม และหลังจากที่ได้วางสินค้าไปเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา เราได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด เหตุผลแรก คือ เรากระจายสินค้าได้ครอบคลุมถึง 20 สาขา โดยแบ่งป็น 18 สาขาในกรุงเทพ และ 2 สาขาในจังหวัดเชียงใหม่ เหตุผลที่สอง คือ เราใช้ Influencers Marketing โดยเราทำคอนเทนท์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ซึ่งนับเป็นช่องทางทางการสื่อสารข้อมูลให้ไปถึงกลุ่มเป้าหมาย สร้างการรับรู้และสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็วและอัพเดทข่าวสารได้แบบเรียลไทม์” นายโจนาธาน กล่าว
“ตัวจริงเรื่องกินเล่น คือ คอนเซ็ปต์ของเดอะ โกลด์เด้น ดั๊ก เรามีพันธกิจในการกอบกู้วิกฤติศรัทธาความอร่อยในประเทศไทย ดังนั้นเราจึงเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่สะท้อนให้เห็นถึงแบรนด์คาแรคเตอร์ของ เดอะ โกลด์เด้น ดั๊ก ซี่งเป็นแบรนด์ที่เต็มไปด้วยความสนุก ความกวนๆ เพื่อมาช่วยสื่อสารข้อมูลที่มีความแปลก แหวกแนว และหลากหลายไปตามกลุ่มเป้าหมาย เราได้สร้างสรรค์คอนเทนท์ผ่านรายการ ว่านไปเรื่อย (Wan Around) ซึ่งสร้างปรากฎการณ์ไวรัล มาร์เก็ตติ้ง เกิดการดูมากกว่า 450,000 ครั้ง (บน YouTube และ Facebook) นอกจากนี้ เรายังได้ร่วมงานกับ 5 โซเชียลมีเดียเพจชื่อดัง โดยเจาะกลุ่มไปที่ เพจคนชอบดูกีฬา เพจคนทำงาน เพจคนชอบดูภาพยนตร์ เพจกลุ่มคนที่ชอบงานปาร์ตี้ และเพจกลุ่มคนที่ชอบตามติดเทรนด์ เพื่อสร้าง ‘วัฒนธรรม’ คนชอบกินขนมให้เกิดขึ้น เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ประเทศไทยได้เปิดโอกาสความนสนุกให้ได้ทำมากมาย” นายโจนาธาน กล่าวสรุป
1 https://www.statista.com/outlook/40110000/126/snack-food/thailand
สินค้าของ The Golden Duck ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย
· Singapore Chilli Crab Seaweed Tempura: สาหร่ายเทมปุระทอดกรอบรสปูผัดพริก ปรุงรสอย่างลงตัวด้วยความหวานของเนื้อปู ความเผ็ดกำลังดีของพริก และกลิ่นหอมของสาหร่ายย่างแบบรมควัน ทั้งยังมีแป้งเทมปุระกรอบๆที่ คลุกเคล้ารวมกันได้อย่างดี
· Salted Egg Fish Skin Crunchy Crisps: หนังปลาทอดกรอบรสไข่เค็ม เพียงแค่เปิดซองก็หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นของใบแกง ไข่เค็มสุดเข้มข้น และหนังปลาทอดกรอบแผ่นบาง
· Salted Egg Crab Seaweed Tempura: สาหร่ายเทมปุระทอดกรอบรสปูไข่เค็ม ความลงตัวของไข่เค็ม ที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับความกรอบของแป้งเทมปุระเคลือบสาหร่ายย่าง และความหวานของเนื้อปู และคลุกไข่เค็ม
· Salted Egg York Potato Crisps: มันฝรั่งทอดกรอบรสไข่เค็ม มันฝรั่งทอดเคลือบด้วยผงไข่เค็มที่เราคัดสรรไข่เค็มคุณภาพดี สีทองอร่าม ปรุงรสด้วยใบแกง และเครื่องแกง
สำหรับใครที่ยังไม่ได้ลิ้มลองความอร่อย ของเดอะ โกลด์เด้น ดั๊ก ทั้ง 4 รสชาติ ไม่ว่าจะเป็นหนังปลากรอบกริ๊บคลุกไข่เค็มสุดนัว มันฝรั่งทอดกรอบแผ่นบางคลุกไข่เค็มเน้นๆ สาหร่ายเทมปุระทอดกรอบรสปูไข่เค็มเต็มๆคำ และรสชาติไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้อย่างสาหร่ายเทมปุระทอดกรอบคลุกปูผัดพริก สามารถหาซื้อได้ที่ซุปเปอร์มาเก็ตสาขาชั้นนำทั้ง Tops Market, Central Food Hall, Gourmet Market และ Rimping ในราคาซองละ 195 บาท ตรวจสอบรายชื่อสาขาที่วางจำหน่ายและรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม ได้ที่ www.facebook.com/TGDThailand และwww.instagram.com/thegoldenduck.thailand/ แล้วคุณจะเข้าใจ ว่าทำให้ใคร ๆ ก็ติด #กับDuckความอร่อย
COMMENTS