CAT เปิดบริการ Premium Private Line เป็นรายแรกในไทย ชูบริการนวัตกรรมใหม่เพื่อผลักดันองค์กรไทยรับเทรนด์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นอย่างมีประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานอันไร้ที่ติ โดยร่วมมือกับหัวเว่ย
บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT จับมือกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวบริการ OTN Premium Private Line เป็นครั้งแรกในไทย รองรับองค์กรขนาดใหญ่ในประเทศไทยทั้งภาครัฐและเอกชน ชูจุดเด่นด้านการยกระดับแบนด์วิดท์ที่สูงขึ้น ด้วยอัตราการใช้งานที่สูงถึง 99.99% และความปลอดภัยที่สูงกว่าบริการ Private Line ทั่วไป เพื่อรองรับเทรนด์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในปี 2020
จากเทรนด์การใช้งานคลาวด์คอมพิวติ้งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ ทำให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT จับมือกับหัวเว่ยเพื่อเสริมแกร่งภาพรวมตลาดบริการ Private Line ในประเทศไทยด้วยการเปิดให้บริการ Optical Transport Network (OTN) Premium Private-Line เพื่อตอบรับกับความต้องการใช้งานของกลุ่มองค์กรที่ต้องการใช้เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีอัตราความเร็วการถ่ายโอนข้อมูลที่สูงขึ้น มีเสถียรภาพของเครือข่ายที่ดีขึ้น และมีความปลอดภัยของเครือข่ายที่สูงขึ้นไปอีกระดับ
ดร. ดนันท์ สุภัทรพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและบริการ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ได้กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ CAT ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสารข้อมูลรายใหญ่ในประเทศที่มีโครงข่ายครอบคลุมมากที่สุด ล่าสุด CAT มุ่งหน้ายกระดับตลาดบริการ Private Line ในประเทศไทยด้วยการเปิดตัวนวัตกรรม Optical Transport Network (OTN) Premium Private Line เป็นรายแรกในประเทศไทย ร่วมกับ(บริษัท)หัวเว่ย ซึ่งจะมีฟีเจอร์สำคัญ ได้แก่ ท่อนำส่งข้อมูลแยกเพื่อรับประกันด้านความปลอดภัยของเครือข่าย Private Line, บริการเข้าถึงเครือข่ายตั้งแต่ขนาด 2M ถึง 100G, การันตีความเสถียรของค่าความหน่วง (Latency) สำหรับ E2E ในระดับมิลลิวินาที และเทคโนโลยีการป้องกันจากเหตุการณ์สายเคเบิลหลายสายขาดชำรุด โดยโซลูชัน ดังกล่าวจะช่วยเสริมแกร่งให้กับส่วนธุรกิจบริการ B2B ของ CAT และจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันการเติบโตให้กับภาพรวมธุรกิจของ CAT ในปี 2020 ได้”
นายคลอดิโอ ลูการี ผู้อำนวยการฝ่ายขาย DWDM โกลบอล โซลูชันส์ หัวเว่ย กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์การใช้เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งขององค์กรเพิ่มสูงขึ้นมาก ภายในปี ค.ศ. 2025 ทางหัวเว่ยคาดว่าองค์กรกว่า 80% จากทั่วโลกจะหันมาใช้บริการคลาวด์ นอกจากนี้ 87% ขององค์กรทั้งหมดในปัจจุบันยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของบริการ Private Line เป็นอันดับแรก และจากการที่กลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มลูกค้าองค์กรใช้ปริมาณดาต้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งส่งผลต่อความต้องการใช้งานบริการ OTN Premium Private Line ขององค์กรทั่วโลกสูงขึ้น และยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต”
นายวรกาน ลิขิตเดชาศักดิ์ รองเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีเครือข่ายโทรคมนาคม บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “ความร่วมมือในการเปิดตัวบริการ OTN Premium Private Line ระหว่าง CAT และหัวเว่ยยังช่วยตอบรับการเตรียมตัวของภาคธุรกิจและภาครัฐในประเทศไทยที่กำลังปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นอย่างเต็มรูปแบบในปี 2020 ซึ่งจะต้องอาศัยการเชื่อมต่อระหว่างดาต้าเซ็นเตอร์ผ่านบริการคลาวด์ที่มีความน่าเชื่อถือที่สูงขึ้น เพื่อรองรับการส่งต่อข้อมูลที่มีจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะข้อมูลจากแอปพลิเคชันที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากค่าความหน่วง (latency sensitive application) ระหว่างสำนักงานใหญ่และสาขาย่อยขององค์กรประเภทธนาคาร โรงพยาบาล เป็นต้น
ทั้งนี้เครือข่าย OTN Premium Private Line network จะมีฟีเจอร์หลัก 3 แบบดังนี้:
1. เครือข่าย OTN แบบครบวงจรที่ให้ท่อนำส่งข้อมูลแบบแข็งแบบพิเศษและเป็นท่อที่แยกจากเครือข่ายอื่น ๆ อย่างแท้จริง
2. โครงข่ายใยแก้วนำแสงและเทคโนโลยี ASON (Automatically Switched Optical Network) เพื่อป้องกันการต่อต้านเส้นใยที่ตัดกันหลายๆเส้นใย
3. การนำเอาเทคโนโลยี Network Cloud Engine (NCE) มาใช้เพื่อการบริหารจัดการและควบคุมเครือข่ายแบบอัจฉริยะ
โดย OTN Premium Private Line ของ CAT และหัวเว่ยจะเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์ด้านการเชื่อมต่อระหว่างฐานข้อมูลในองค์กรผ่านคลาวด์ ช่วยเสริมให้องค์กรนั้นๆ ดำเนินธุรกิจได้อย่างปลอดภัย เสถียร และมีประสิทธิภาพ โดยมีอัตราที่จะเกิดปัญหาของระบบต่ำถึง 0.01%”
ความโดดเด่นของบริการ OTN Premium Private Line ครอบคลุมประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยที่สูงขึ้น, ค่าความหน่วง (Latency) ที่ต่ำลง ในขณะที่แบนด์วิดท์เพิ่มขึ้น รวมไปถึงมีความยืดหยุ่นของเครือข่ายที่สูง จึงเหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการเครือข่ายความเร็วสูงที่น่าเชื่อถือและมีความปลอดภัยสูง เช่น สนามบิน, ธนาคาร, โรงพยาบาล, หรือองค์กรภาครัฐ เป็นต้น โดยเมื่อเทียบกับ Private Line แบบเก่า OTN Premium Private Line ตัวนี้จะมอบแบนด์วิดท์ที่เสถียรกว่า มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 99.99% และสามารถปรับแต่งการใช้งานได้ตามต้องการ
จากเทรนด์การใช้งานคลาวด์คอมพิวติ้งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ ทำให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT จับมือกับหัวเว่ยเพื่อเสริมแกร่งภาพรวมตลาดบริการ Private Line ในประเทศไทยด้วยการเปิดให้บริการ Optical Transport Network (OTN) Premium Private-Line เพื่อตอบรับกับความต้องการใช้งานของกลุ่มองค์กรที่ต้องการใช้เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีอัตราความเร็วการถ่ายโอนข้อมูลที่สูงขึ้น มีเสถียรภาพของเครือข่ายที่ดีขึ้น และมีความปลอดภัยของเครือข่ายที่สูงขึ้นไปอีกระดับ
ดร. ดนันท์ สุภัทรพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและบริการ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ได้กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ CAT ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสารข้อมูลรายใหญ่ในประเทศที่มีโครงข่ายครอบคลุมมากที่สุด ล่าสุด CAT มุ่งหน้ายกระดับตลาดบริการ Private Line ในประเทศไทยด้วยการเปิดตัวนวัตกรรม Optical Transport Network (OTN) Premium Private Line เป็นรายแรกในประเทศไทย ร่วมกับ(บริษัท)หัวเว่ย ซึ่งจะมีฟีเจอร์สำคัญ ได้แก่ ท่อนำส่งข้อมูลแยกเพื่อรับประกันด้านความปลอดภัยของเครือข่าย Private Line, บริการเข้าถึงเครือข่ายตั้งแต่ขนาด 2M ถึง 100G, การันตีความเสถียรของค่าความหน่วง (Latency) สำหรับ E2E ในระดับมิลลิวินาที และเทคโนโลยีการป้องกันจากเหตุการณ์สายเคเบิลหลายสายขาดชำรุด โดยโซลูชัน ดังกล่าวจะช่วยเสริมแกร่งให้กับส่วนธุรกิจบริการ B2B ของ CAT และจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันการเติบโตให้กับภาพรวมธุรกิจของ CAT ในปี 2020 ได้”
นายคลอดิโอ ลูการี ผู้อำนวยการฝ่ายขาย DWDM โกลบอล โซลูชันส์ หัวเว่ย กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์การใช้เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งขององค์กรเพิ่มสูงขึ้นมาก ภายในปี ค.ศ. 2025 ทางหัวเว่ยคาดว่าองค์กรกว่า 80% จากทั่วโลกจะหันมาใช้บริการคลาวด์ นอกจากนี้ 87% ขององค์กรทั้งหมดในปัจจุบันยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของบริการ Private Line เป็นอันดับแรก และจากการที่กลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มลูกค้าองค์กรใช้ปริมาณดาต้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งส่งผลต่อความต้องการใช้งานบริการ OTN Premium Private Line ขององค์กรทั่วโลกสูงขึ้น และยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต”
นายวรกาน ลิขิตเดชาศักดิ์ รองเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีเครือข่ายโทรคมนาคม บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “ความร่วมมือในการเปิดตัวบริการ OTN Premium Private Line ระหว่าง CAT และหัวเว่ยยังช่วยตอบรับการเตรียมตัวของภาคธุรกิจและภาครัฐในประเทศไทยที่กำลังปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นอย่างเต็มรูปแบบในปี 2020 ซึ่งจะต้องอาศัยการเชื่อมต่อระหว่างดาต้าเซ็นเตอร์ผ่านบริการคลาวด์ที่มีความน่าเชื่อถือที่สูงขึ้น เพื่อรองรับการส่งต่อข้อมูลที่มีจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะข้อมูลจากแอปพลิเคชันที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากค่าความหน่วง (latency sensitive application) ระหว่างสำนักงานใหญ่และสาขาย่อยขององค์กรประเภทธนาคาร โรงพยาบาล เป็นต้น
ทั้งนี้เครือข่าย OTN Premium Private Line network จะมีฟีเจอร์หลัก 3 แบบดังนี้:
1. เครือข่าย OTN แบบครบวงจรที่ให้ท่อนำส่งข้อมูลแบบแข็งแบบพิเศษและเป็นท่อที่แยกจากเครือข่ายอื่น ๆ อย่างแท้จริง
2. โครงข่ายใยแก้วนำแสงและเทคโนโลยี ASON (Automatically Switched Optical Network) เพื่อป้องกันการต่อต้านเส้นใยที่ตัดกันหลายๆเส้นใย
3. การนำเอาเทคโนโลยี Network Cloud Engine (NCE) มาใช้เพื่อการบริหารจัดการและควบคุมเครือข่ายแบบอัจฉริยะ
โดย OTN Premium Private Line ของ CAT และหัวเว่ยจะเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์ด้านการเชื่อมต่อระหว่างฐานข้อมูลในองค์กรผ่านคลาวด์ ช่วยเสริมให้องค์กรนั้นๆ ดำเนินธุรกิจได้อย่างปลอดภัย เสถียร และมีประสิทธิภาพ โดยมีอัตราที่จะเกิดปัญหาของระบบต่ำถึง 0.01%”
ความโดดเด่นของบริการ OTN Premium Private Line ครอบคลุมประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยที่สูงขึ้น, ค่าความหน่วง (Latency) ที่ต่ำลง ในขณะที่แบนด์วิดท์เพิ่มขึ้น รวมไปถึงมีความยืดหยุ่นของเครือข่ายที่สูง จึงเหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการเครือข่ายความเร็วสูงที่น่าเชื่อถือและมีความปลอดภัยสูง เช่น สนามบิน, ธนาคาร, โรงพยาบาล, หรือองค์กรภาครัฐ เป็นต้น โดยเมื่อเทียบกับ Private Line แบบเก่า OTN Premium Private Line ตัวนี้จะมอบแบนด์วิดท์ที่เสถียรกว่า มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 99.99% และสามารถปรับแต่งการใช้งานได้ตามต้องการ
COMMENTS