งาน Nutanix .NEXT ON TOUR BANGKOK ประจำปี 2019 มีผู้เข้าร่วมงาน, Sponsor และ Partner กว่า 800 คน โดยปีนี้ทีมงาน Nutanix ประเทศไทยมีการนำเสนอโซลูชั่นและเทคโนโลยีในหลากหลายแง่มุม ได้รับเกียรติจากลูกค้าหลายท่านขึ้นร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่นำ Nutanix ไปใช้ประโยชน์จริง
- One Platform, Any App, Any Locations เป็น Key Messages หลักในงานครั้งนี้เพื่อสื่อสารกับผู้ร่วมงาน ซึ่ง Nutanix เป็นแพลตฟอร์มหนึ่งเดียว (One Platform) ที่รองรับแอพพลิเคชั่นทุกรูปแบบ (Any App) และได้พัฒนาซอฟท์แวร์ AOS ให้รองรับการทำงานทั้งบน Hardware x86 พื้นฐาน, Public Cloud รวมถึงติดตั้งบน Edge Computing (Any Locations)
- Acropolis OS (AOS) พัฒนาเพื่อรองรับ Hardware ใหม่เช่น การจับมือกับ HPE, NVMe, Network 25/100 GbE, สตอเรจ 200 TB/Node, 4 Sockets CPU/Node เพื่อรองรับ SAP HANA เป็นต้น
- Acropolis Hypervisor ที่รองรับการทำ Synchronous Replication และ Metro Availability
- ในส่วนของ Storage Services นั้นในปัจจุบัน AOS สามารถรองรับทั้ง Files, Object และ Block Storage ได้เบ็ดเสร็จในตัวเอง โดยไม่ต้องมีตู้สตอเรจแยกตามประเภทของข้อมูลแบบ Legacy Storage อีกต่อไป
- สำหรับ Cloud Native Application นั้น Nutanix พัฒนา Karbon ขึ้นให้ลูกค้าใช้ในการสร้าง Kubernetes Cluster บน Nutanix ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถพัฒนาแอปพลิเคชั่นรูปแบบใหม่ได้ทันที
- อีก Highlights คือการนำซอฟต์แวร์ AOS ไปใช้งานบน Public Cloud และ Edge Computing โดยสามารถนำ AOS ไปติดตั้งบน AWS EC2 BareMetal เพื่อสร้าง Nutanix Cluster บน Public Cloud และเชื่อมต่อมายัง Nutanix Cluster ในดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมแบบ Hybrid Cloud รวมถึงการนำไปติดตั้งยัง Edge Computing เพื่อรองรับการทำงานทั้งในรูปแบบ Remote Office/Branch Office หรือนำไปใช้สร้างแพลตฟอร์มสำหรับ IoT ที่มีการสาธิตให้ผู้ร่วมงานดูในงานครั้งนี้ด้วย
- ประเด็นเรื่องของ Security เป็นเรื่องที่ Nutanix ให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน โดย Nutanix Beam และ Flow นั้นจะช่วยตรวจสอบ Security Compliance และสร้าง Security Policy ให้กับระบบของลูกค้าไม่ว่าจะทำงานอยู่บน On-Premise หรือ Public Cloud อย่าง AWSให้อัตโนมัติ
- นอกจากนั้นยังมี Session ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั้ง DB-as-a Service ด้วย ERA และ Desktop-as-a Service ด้วย FRAME เป็นต้น
.NEXT เป็นงานประชุมประจำปีครั้งสำคัญที่สุดที่นูทานิคซ์จัดให้กับพันธมิตรและลูกค้า โดยเริ่มต้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็จะจัดไปตามภูมิภาคต่าง ๆ จึงเป็นที่มาของชื่อ .NEXT ON TOUR
ทวิพงศ์ อโนทัยสินทวี ผู้จัดการประจำประเทศไทย นูทานิคซ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญแห่งหนึ่งของนูทานิคซ์ จากการที่องค์กรไทยเปิดรับ ให้ความสนใจและนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้อย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีของนูทานิคซ์ ทั้งนี้ นูทานิคซ์ได้จัดงาน .NEXT ON TOUR BANGKOK เป็นปีที่ 5 ในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการสื่อสาร แจ้งให้ทราบถึงทิศทางด้านเทคโนโลยีของนูทานิคซ์ ทั้งในส่วนที่เป็นการอัปเกรด การเปลี่ยนแปลง หรือนวัตกรรม ให้กับพันธมิตรและลูกค้าในประเทศไทยได้รับทราบ
นูทานิคซ์เป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ (Hyperconverged Infrastructure: HCI) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวมเอาระบบประมวลผล, สตอเรจ, เน็ตเวิร์คกิ้ง, เวอร์ชวลไลเซชั่น, และระบบรักษาความปลอดภัย มาไว้ด้วยกัน และใช้ซอฟต์แวร์พื้นฐานของ นูทานิคซ์ที่ชื่อว่า ‘อะโครโพลิส (Acropolis)’ ทำการเชื่อมโยงและผสานการทำงานทั้งหมดเข้าด้วยกัน
ทั้งนี้ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ของนูทานิคซ์ ออกแบบมาเพื่อทรานสฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่อยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์ ซอฟต์แวร์ของนูทานิคซ์เปรียบเสมือนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ที่สามารถนำไปไว้ในสมาร์ทโฟนแบรนด์ใดก็ได้ ซอฟต์แวร์ของนูทานิคซ์ก็สามารถนำไปใช้กับฮาร์ดแวร์ใด ๆ ที่นูทานิคซ์ให้การรับรองได้เช่นกัน ซึ่งล่าสุดที่นูทานิคซ์เป็นพันธมิตรร่วมกับเอชพีอี (HPE) เป็นต้น ทั้งยังสามารถเชื่อมโยงแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ให้ทำงานร่วมกันได้
นูทานิคซ์มีความคิดที่ว่า HCI คือวิธีคิดใหม่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่ต้องมีแนวทางที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่การนำเทคโนโลยีเดิมที่มีอยู่มาประกอบเข้าด้วยกัน สำหรับนูทานิคซ์ HCI ไม่ใช่การแข่งขัน แต่เป็นแรงบันดาลใจให้กับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ซึ่งเป็นเป้าหมายของนูทานิคซ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ความเป็นผู้นำด้าน HCI ของนูทานิคซ์พิสูจน์ได้จากการได้รับการยกย่องจากการ์ทเนอร์ให้เป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ จากรายงาน Magic Quadrant ประจำเดือนพฤศจิกายน 2562 และนับว่านูทานิคซ์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำในรายงาน Magic Quadrant ด้านนี้ตลอดมาตั้งแต่การ์ทเนอร์ได้เริ่มจัดทำรายงานด้านนี้
นอกจาก HCI แล้ว แพลตฟอร์ม Nutanix Enterprise Cloud ยังสร้างมาตรฐานการดูแลจัดการระบบคลาวด์ต่าง ๆ ได้จากส่วนกลางด้วยระบบบริหารจัดการเดียวผ่านทางเว็บบราวเซอร์ที่ใช้งานง่ายและไม่จำเป็นต้องเสียเวลาติดตั้ง สามารถรองรับแอปพลิเคชันทุกรูปแบบ และปรับขยายได้อย่างไร้ข้อจํากัด ไม่ว่าองค์กรจะใช้งานไพรเวท, พับลิค และดิสทริบิวเต็ตคลาวด์
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่นูทานิคซ์ให้ความสำคัญ ณ งาน .NEXT ON TOUR BANGKOK ปีนี้ และมองว่าเป็นอนาคตขององค์กรในทุกอุตสาหกรรม คือเรื่องของ Edge Computing หรือการประมวลผลที่ต้นทางของข้อมูล ที่นับวันจะได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมีมากมายมหาศาล ทั้งอุปกรณ์ที่อยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์ นอกดาต้าเซ็นเตอร์ หรืออยู่บนพับลิค คลาวด์ นอกจากนี้ปริมาณข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์ IoT เหล่านี้นั้นมีมากกว่าข้อมูลที่อยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์อย่างมหาศาล
ความท้าทายในยุคของ Edge Computing ที่องค์กรกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันและอนาคต คือจะบริหารจัดการอุปกรณ์ปลายทางที่แยกกันเป็นชิ้น ๆ ที่มีมาตรฐานต่างกัน ใช้งานอยู่คนละสถานที่ อย่างจริงจังได้อย่างไร จะใช้เทคโนโลยีใดเข้ามาควบคุมดูแลและทำให้อุปกรณ์เหล่านั้นให้เชื่อมโยงกันได้อย่างราบรื่น ดังนั้นแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่จะสามารถรองรับและขจัดความท้าทายเหล่านี้ จะต้องมีคุณสมบัติที่ยืดหยุ่น คล่องตัว ง่าย ทำงานได้แบบเรียลไทม์ ปลอดภัย ปรับขนาดได้ตามต้องการ และมีความเสถียร ซึ่งซอฟต์แวร์ของนูทานิคซ์ตอบโจทย์ได้อย่างครบวงจร
นูทานิคซ์เป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ (Hyperconverged Infrastructure: HCI) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวมเอาระบบประมวลผล, สตอเรจ, เน็ตเวิร์คกิ้ง, เวอร์ชวลไลเซชั่น, และระบบรักษาความปลอดภัย มาไว้ด้วยกัน และใช้ซอฟต์แวร์พื้นฐานของ นูทานิคซ์ที่ชื่อว่า ‘อะโครโพลิส (Acropolis)’ ทำการเชื่อมโยงและผสานการทำงานทั้งหมดเข้าด้วยกัน
ทั้งนี้ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ของนูทานิคซ์ ออกแบบมาเพื่อทรานสฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่อยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์ ซอฟต์แวร์ของนูทานิคซ์เปรียบเสมือนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ที่สามารถนำไปไว้ในสมาร์ทโฟนแบรนด์ใดก็ได้ ซอฟต์แวร์ของนูทานิคซ์ก็สามารถนำไปใช้กับฮาร์ดแวร์ใด ๆ ที่นูทานิคซ์ให้การรับรองได้เช่นกัน ซึ่งล่าสุดที่นูทานิคซ์เป็นพันธมิตรร่วมกับเอชพีอี (HPE) เป็นต้น ทั้งยังสามารถเชื่อมโยงแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ให้ทำงานร่วมกันได้
นูทานิคซ์มีความคิดที่ว่า HCI คือวิธีคิดใหม่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่ต้องมีแนวทางที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่การนำเทคโนโลยีเดิมที่มีอยู่มาประกอบเข้าด้วยกัน สำหรับนูทานิคซ์ HCI ไม่ใช่การแข่งขัน แต่เป็นแรงบันดาลใจให้กับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ซึ่งเป็นเป้าหมายของนูทานิคซ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ความเป็นผู้นำด้าน HCI ของนูทานิคซ์พิสูจน์ได้จากการได้รับการยกย่องจากการ์ทเนอร์ให้เป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ จากรายงาน Magic Quadrant ประจำเดือนพฤศจิกายน 2562 และนับว่านูทานิคซ์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำในรายงาน Magic Quadrant ด้านนี้ตลอดมาตั้งแต่การ์ทเนอร์ได้เริ่มจัดทำรายงานด้านนี้
นอกจาก HCI แล้ว แพลตฟอร์ม Nutanix Enterprise Cloud ยังสร้างมาตรฐานการดูแลจัดการระบบคลาวด์ต่าง ๆ ได้จากส่วนกลางด้วยระบบบริหารจัดการเดียวผ่านทางเว็บบราวเซอร์ที่ใช้งานง่ายและไม่จำเป็นต้องเสียเวลาติดตั้ง สามารถรองรับแอปพลิเคชันทุกรูปแบบ และปรับขยายได้อย่างไร้ข้อจํากัด ไม่ว่าองค์กรจะใช้งานไพรเวท, พับลิค และดิสทริบิวเต็ตคลาวด์
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่นูทานิคซ์ให้ความสำคัญ ณ งาน .NEXT ON TOUR BANGKOK ปีนี้ และมองว่าเป็นอนาคตขององค์กรในทุกอุตสาหกรรม คือเรื่องของ Edge Computing หรือการประมวลผลที่ต้นทางของข้อมูล ที่นับวันจะได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมีมากมายมหาศาล ทั้งอุปกรณ์ที่อยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์ นอกดาต้าเซ็นเตอร์ หรืออยู่บนพับลิค คลาวด์ นอกจากนี้ปริมาณข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์ IoT เหล่านี้นั้นมีมากกว่าข้อมูลที่อยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์อย่างมหาศาล
ความท้าทายในยุคของ Edge Computing ที่องค์กรกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันและอนาคต คือจะบริหารจัดการอุปกรณ์ปลายทางที่แยกกันเป็นชิ้น ๆ ที่มีมาตรฐานต่างกัน ใช้งานอยู่คนละสถานที่ อย่างจริงจังได้อย่างไร จะใช้เทคโนโลยีใดเข้ามาควบคุมดูแลและทำให้อุปกรณ์เหล่านั้นให้เชื่อมโยงกันได้อย่างราบรื่น ดังนั้นแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่จะสามารถรองรับและขจัดความท้าทายเหล่านี้ จะต้องมีคุณสมบัติที่ยืดหยุ่น คล่องตัว ง่าย ทำงานได้แบบเรียลไทม์ ปลอดภัย ปรับขนาดได้ตามต้องการ และมีความเสถียร ซึ่งซอฟต์แวร์ของนูทานิคซ์ตอบโจทย์ได้อย่างครบวงจร
นายดีราช ปานเดย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของนูทานิคซ์ กล่าวว่า “เรายังคงได้รับการยอมรับจากการ์ทเนอร์ ในฐานะผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นเพราะความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งในการบุกเบิกนวัตกรรมทางเทคโนโลยี และการที่เราเน้นความสำคัญกับความสำเร็จของลูกค้า”
“เป้าหมายของนูทานิคซ์คือการทำให้การใช้ไอทีและโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์เป็นเรื่องง่าย เพื่อเป็น
ขุมพลังให้กับการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการเติบโตของธุรกิจ สิ่งที่นูทานิคซ์มอบให้กับลูกค้าคือความยืดหยุ่นที่ไม่เพียงแต่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์และโซลูชันของเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความอิสระที่ลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบการใช้งาน HCI ที่เหมาะกับธุรกิจของตนมากที่สุด รวมถึงการสมัครใช้ซอฟต์แวร์ไลเซนส์ต่าง ๆ ที่สามารถใช้ข้ามแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์และบนสภาพแวดล้อมคลาวด์อีกด้วย”
นอกจากนี้นูทานิคซ์ยังได้เป็น Gartner Peer Insights Customer’s Choice vendor ด้านโครงสร้างพื้นฐานไฮเปอร์คอนเวิร์จ ประจำเดือนมีนาคม 2562 ซึ่งมาจากการจัดอันดับและให้คะแนนโดยลูกค้า 264 ราย นูทานิคซ์ได้รับคะแนนเฉลี่ยถึง 4.7 จาก 5 คะแนนเต็ม นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสำรวจจำนวน 92% ยังแสดงความเต็มใจที่จะแนะนำและบอกต่อถึงผลิตภัณฑ์ของนูทานิคซ์
นูทานิคซ์เชื่อว่าองค์กรต่าง ๆ จะยังคงตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของนูทานิคซ์ ที่มีความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อนและมีความยืดหยุ่นเหนือคู่แข่งรายอื่น ๆ และรวมถึงการบริการลูกค้าที่เป็นเลิศของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องต่อไปนี้
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนูทานิคซ์และเอกสารสำเนารายงานได้ที่ https://www.nutanix.com/go/gartner-magic-quadrant-for-hyperconverged-systems
“เป้าหมายของนูทานิคซ์คือการทำให้การใช้ไอทีและโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์เป็นเรื่องง่าย เพื่อเป็น
ขุมพลังให้กับการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการเติบโตของธุรกิจ สิ่งที่นูทานิคซ์มอบให้กับลูกค้าคือความยืดหยุ่นที่ไม่เพียงแต่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์และโซลูชันของเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความอิสระที่ลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบการใช้งาน HCI ที่เหมาะกับธุรกิจของตนมากที่สุด รวมถึงการสมัครใช้ซอฟต์แวร์ไลเซนส์ต่าง ๆ ที่สามารถใช้ข้ามแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์และบนสภาพแวดล้อมคลาวด์อีกด้วย”
นอกจากนี้นูทานิคซ์ยังได้เป็น Gartner Peer Insights Customer’s Choice vendor ด้านโครงสร้างพื้นฐานไฮเปอร์คอนเวิร์จ ประจำเดือนมีนาคม 2562 ซึ่งมาจากการจัดอันดับและให้คะแนนโดยลูกค้า 264 ราย นูทานิคซ์ได้รับคะแนนเฉลี่ยถึง 4.7 จาก 5 คะแนนเต็ม นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสำรวจจำนวน 92% ยังแสดงความเต็มใจที่จะแนะนำและบอกต่อถึงผลิตภัณฑ์ของนูทานิคซ์
นูทานิคซ์เชื่อว่าองค์กรต่าง ๆ จะยังคงตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของนูทานิคซ์ ที่มีความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อนและมีความยืดหยุ่นเหนือคู่แข่งรายอื่น ๆ และรวมถึงการบริการลูกค้าที่เป็นเลิศของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องต่อไปนี้
- ความเรียบง่ายไม่ซับซ้อน – ผลิตภัณฑ์ของนูทานิคซ์ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถใช้แอปพลิเคชันทั้งหมด ได้ทุกขนาดเพียงคลิกเดียว เพื่ออัพเกรด ปรับขนาด แก้ปัญหาและอื่น ๆ
- ทางเลือก – นูทานิคซ์เสนอทางเลือกให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานและไลเซนส์ที่ยืดหยุ่นเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างต้นทุน ประสิทธิภาพและผลิตผล รวมไปถึงกลุ่มผู้จำหน่ายฮาร์ดแวร์และเวอร์ชวลไลเซชันจำนวนมากสำหรับการเลือกสรรของลูกค้า นูทานิคซ์พร้อมปรับทุกสิ่งตามความต้องการของลูกค้าในการที่จะเติบโต ขยายขนาดและประสบความสำเร็จทางธุรกิจ
- ลูกค้าสำคัญเสมอ – นูทานิคซ์ตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการที่จะช่วยสนับสนุนทุกทางเพื่อความสำเร็จของลูกค้า ซึ่งได้ส่งผลให้ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้รับดัชนีชี้วัดความภักดีของลูกค้า (Net Promoter Score - NPS) เฉลี่ยสูงถึง 90 คะแนน
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนูทานิคซ์และเอกสารสำเนารายงานได้ที่ https://www.nutanix.com/go/gartner-magic-quadrant-for-hyperconverged-systems
บรรยากาศบางส่วนในงาน
ซอฟต์แวร์ที่สำคัญของนูทานิคซ์
Nutanix Mine
แพลตฟอร์มสำหรับระบจัดเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary Storage) ที่ลดความยุ่งยากจากสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อน และค่าใช้จ่ายสูงในสภาพแวดล้อม การสำรองข้อมูล ทำให้องค์กรสามารถปกป้อง และกู้คืนข้อมูลของตนเองได้รวดเร็ว และมีต้นทุนที่ต่ำกว่า และบริหารจัดการผ่านหน้าจอ Prism ปกติ อีกทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์แบ็คอัพชั้นนำ โดยได้เปิดตัวกับ Veeam เป็นอันดับแรก และจะสามารถทำงานร่วมกับ Veritas, Commvault, HYCU, UNITRENDS ได้ในอนาคต
Nutanix Cluster on AWS
Nutanix แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่แค่ซอฟท์แวร์ของตัวเองจะทำงานได้เพียงแค่บนฮาร์ดแวร์ที่แตกต่างกันได้เท่านั้น แต่ยังสามารถทำงานบน Public Cloud อย่าง AWS ได้ซึ่ง Nutanix Cluster ที่ประกอบไปด้วย AOS และ AHV ทำงานบน AWS EC2 Bare Metal instance ทำให้ไม่มี Overhead โดยไม่จำเป็น ทำให้องค์กรสามารถสร้าง Hybrid Cloud ได้อย่างแท้จริง
Nutanix Xi FRAME
ขยายการรองรับ Multi-Cloud ด้วย Nutanix FRAME VDI Solutions: จากเดิมนั้น Nutanix มี CALM เป็นหัวหอกของโซลูชั่นสำหรับการดูแลจัดการ และติดตั้งแอปพลิเคชั่นสำหรับ Cloud ที่แตกต่างกันทั้ง Private, Public Cloud ต่างๆ สำหรับ FRAME นั้นเป็นโซลูชั่น VDI ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ในสภาพแวดล้อมปัจจุบันที่สามารถติดตั้ง และเข้าถึง VDI ขององค์กรจาก Cloud ต่างๆได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น On-Premise บน Nutanix Cluster, AWS หรือ Azure ได้ ซึ่งจุดเด่นของ FRAME นั้นผู้ใช้สามารถเข้าถึง VDI หรือแอพพลิเคชั่นขององค์กรอย่างปลอดภัยผ่านทาง Web-Browser ใดๆได้ด้วยประสิทธิภาพที่รวดเร็วไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงผ่านทาง Wireless หรือ Internet ก็ตาม
Nutanix Xi BEAM
Xi BEAM ขยายขีดความสามารถด้านการรักษาความปลอดภัยบน Multi-Cloud ด้วย Real-Time Compliance Module ที่ตรวจสอบช่องโหว่ที่เกิดขึ้นบนบนระบบ Cloud ที่องค์กรใช้อยู่แบบทันที พร้อมคำแนะนำไม่ว่างานขององค์กรจะอยู่บน Public หรือ Private
Nutanix Cloud Native
กล่าวได้ว่าองค์กรที่นำ DevOps มาประยุกต์ใช้ได้ประสพความสำเร็จ “Cloud Native” Application มี ความสำคัญอย่างยิ่งยวด แพลตฟอร์มของนูทานิคซ์พัฒนาความสามารถเพิ่มเติมเพื่อรองรับ Cloud Native Application ด้วยส่วนประกอบต่าง ๆ ดังนี้
· Nutanix Karbon ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถสร้าง และบริหารจัดการ Kubernetes Cluster ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
· Nutanix Objects ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างบริการ Object Storage ที่เป็นแบบ S3-Compatible
· Nutanix ERA โซลูชั่นในการบริหารจัดการดาต้าเบสด้วยบริการ Database Provisioning and Lifecycle Management
Nutanix Mine
แพลตฟอร์มสำหรับระบจัดเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary Storage) ที่ลดความยุ่งยากจากสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อน และค่าใช้จ่ายสูงในสภาพแวดล้อม การสำรองข้อมูล ทำให้องค์กรสามารถปกป้อง และกู้คืนข้อมูลของตนเองได้รวดเร็ว และมีต้นทุนที่ต่ำกว่า และบริหารจัดการผ่านหน้าจอ Prism ปกติ อีกทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์แบ็คอัพชั้นนำ โดยได้เปิดตัวกับ Veeam เป็นอันดับแรก และจะสามารถทำงานร่วมกับ Veritas, Commvault, HYCU, UNITRENDS ได้ในอนาคต
Nutanix Cluster on AWS
Nutanix แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่แค่ซอฟท์แวร์ของตัวเองจะทำงานได้เพียงแค่บนฮาร์ดแวร์ที่แตกต่างกันได้เท่านั้น แต่ยังสามารถทำงานบน Public Cloud อย่าง AWS ได้ซึ่ง Nutanix Cluster ที่ประกอบไปด้วย AOS และ AHV ทำงานบน AWS EC2 Bare Metal instance ทำให้ไม่มี Overhead โดยไม่จำเป็น ทำให้องค์กรสามารถสร้าง Hybrid Cloud ได้อย่างแท้จริง
Nutanix Xi FRAME
ขยายการรองรับ Multi-Cloud ด้วย Nutanix FRAME VDI Solutions: จากเดิมนั้น Nutanix มี CALM เป็นหัวหอกของโซลูชั่นสำหรับการดูแลจัดการ และติดตั้งแอปพลิเคชั่นสำหรับ Cloud ที่แตกต่างกันทั้ง Private, Public Cloud ต่างๆ สำหรับ FRAME นั้นเป็นโซลูชั่น VDI ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ในสภาพแวดล้อมปัจจุบันที่สามารถติดตั้ง และเข้าถึง VDI ขององค์กรจาก Cloud ต่างๆได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น On-Premise บน Nutanix Cluster, AWS หรือ Azure ได้ ซึ่งจุดเด่นของ FRAME นั้นผู้ใช้สามารถเข้าถึง VDI หรือแอพพลิเคชั่นขององค์กรอย่างปลอดภัยผ่านทาง Web-Browser ใดๆได้ด้วยประสิทธิภาพที่รวดเร็วไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงผ่านทาง Wireless หรือ Internet ก็ตาม
Nutanix Xi BEAM
Xi BEAM ขยายขีดความสามารถด้านการรักษาความปลอดภัยบน Multi-Cloud ด้วย Real-Time Compliance Module ที่ตรวจสอบช่องโหว่ที่เกิดขึ้นบนบนระบบ Cloud ที่องค์กรใช้อยู่แบบทันที พร้อมคำแนะนำไม่ว่างานขององค์กรจะอยู่บน Public หรือ Private
Nutanix Cloud Native
กล่าวได้ว่าองค์กรที่นำ DevOps มาประยุกต์ใช้ได้ประสพความสำเร็จ “Cloud Native” Application มี ความสำคัญอย่างยิ่งยวด แพลตฟอร์มของนูทานิคซ์พัฒนาความสามารถเพิ่มเติมเพื่อรองรับ Cloud Native Application ด้วยส่วนประกอบต่าง ๆ ดังนี้
· Nutanix Karbon ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถสร้าง และบริหารจัดการ Kubernetes Cluster ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
· Nutanix Objects ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างบริการ Object Storage ที่เป็นแบบ S3-Compatible
· Nutanix ERA โซลูชั่นในการบริหารจัดการดาต้าเบสด้วยบริการ Database Provisioning and Lifecycle Management
COMMENTS