แอลจีประกาศผลประกอบการประจำปี 2562 ด้วยยอดขายและผลกำไรที่สร้างสถิติใหม่ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน สร้างรายได้ประจำปีสูงสุดในประวัติการณ์ของบริษัท
แอลจี อีเลคทรอนิคส์ อิงค์ (แอลจี) เผยยอดขายประจำปีที่สร้างสถิติสูงสุดอีกครั้ง ด้วยรายได้มูลค่า 5.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 1.64 ล้านล้านบาท) ในปี 2562 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของตลาดที่มีต่อผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านระดับพรีเมียม เช่น ผลิตภัณฑ์ LG SIGNATURE และกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีการเติบโตสูง ส่งผลให้ผลกำไรจากการดำเนินงานในปี 2562 กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยมีมูลค่ากว่า 2.07 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 6.42 หมื่นล้านบาท) แม้จะมีมูลค่าน้อยกว่าปี 2561 ร้อยละ 10 สืบเนื่องจากการลงทุนด้านการตลาดและเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่เพิ่มขึ้น
รายได้ประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2562 กว่า 1.365 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 4.23 แสนล้านบาท) มีมูลค่าสูงกว่ารายได้ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 ร้อยละ 1.8 และมีมูลค่าสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่ร้อยละ 2.3 ในขณะที่รายได้จากการดำเนินงานประจำไตรมาสที่มีมูลค่า 86.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 2.68 พันล้านบาท) มีมูลค่าสูงกว่าไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 ถึงร้อยละ 34.5
กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศ มีผลประกอบการประจำปีที่แข็งแกร่ง ด้วยการรายงานรายได้ตลอดปี 2562 ที่สร้างสถิติครั้งใหม่ที่ 1.829 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 5.67 แสนล้านบาท) ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าปี 2561 ร้อยละ 11 และผลกำไรจากการดำเนินงานที่ 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 5.27 หมื่นล้านบาท) ซึ่งมีมูลค่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ ยอดขายประจำไตรมาสที่มีมูลค่า 3.92 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 1.22 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นยอดขายประจำไตรมาสที่ 4 ที่สูงที่สุดในประวัติการณ์ของบริษัท มีมูลค่าสูงกว่ายอดขายในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนราวร้อยละ 7 ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการของตลาดภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรป ในขณะที่รายได้จากการดำเนินงานที่ 103.86 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 3.22 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2561 ที่ร้อยละ 8.5
กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ รายงานรายได้ประจำปีที่ 1.373 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 4.26 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเป็นมูลค่าที่คงที่เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2561 ในขณะที่รายได้จากการดำเนินงานที่ 833 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 2.58 หมื่นล้านบาท) มีมูลค่าลดลงจากปีก่อนหน้านั้น ยอดขายประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2562 ที่ 3.90 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 1.21 แสนล้านบาท) มีมูลค่าคงที่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2561 และมีมูลค่าสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้านั้นที่ร้อยละ 18.7 นำมาซึ่งรายได้จากการดำเนินงานที่มีมูลค่า 93.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 2.9 พันล้านบาท) เนื่องจากต้นทุนด้านการตลาดที่เพิ่มขึ้น
กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ สร้างรายได้ประจำปี 2562 กว่า 5.07 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 1.57 แสนล้านบาท) โดยยอดขายประจำไตรมาสที่ 4 มีมูลค่า 1.12 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 3.47 หมื่นล้านบาท) ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนนั้น เนื่องจากยอดขายที่ลดลงของสมาร์ทโฟนซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มคนจำนวนมากในตลาดต่างประเทศ ผลการดำเนินงานขาดทุนทั้งปีที่ 858.34 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 2.66 หมื่นล้านบาท) สะท้อนให้เห็นถึงค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่เพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์แฟล็กชิปต่างๆ โดยกลยุทธ์ในการพัฒนาธุรกิจผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือของแอลจีในปี 2563 จะให้ความสำคัญกับการแนะนำสมาร์ทโฟนระบบ 5G ระดับกลางไปจนถึงระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ๆ และความพยายามด้านการใช้ต้นทุนอย่างคุ้มค่าอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ รายงานรายได้ประจำปี 2562 ที่แข็งแกร่งที่ 4.65 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 1.44 แสนล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2561 ถึงร้อยละ 27 และยังเป็นยอดขายประจำปีที่สูงที่สุดในประวัติการณ์ของบริษัทอีกด้วย รายได้ประจำไตรมาสที่ 1.15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 3.57 หมื่นล้านบาท) มีมูลค่าลดลงจากรายได้ประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 ที่ร้อยละ 3 เนื่องมาจากยอดขายรถยนต์ที่เติบโตช้าลง แม้ว่าผลการดำเนินงานในปี 2562 จะขาดทุนที่ 165.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 5.13 พันล้านบาท) บริษัทคาดว่า จะได้รับประโยชน์จากความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนเพิ่มเติมและผลกำไรที่ดียิ่งขึ้น เนื่องจากตลาดรถพลังงานไฟฟ้ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2563 เป็นผลจากจากกฎเกณฑ์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดยิ่งขึ้นของยุโรป
กลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร สร้างรายได้ประจำปี 2562 ถึง 2.27 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 7.04 หมื่นล้านบาท) และรายได้จากการดำเนินงานที่ 209.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 6.5 พันล้านบาท) โดยรายได้ประจำไตรมาสที่ 4 ที่ 571.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2561 ที่ร้อยละ 13 ในขณะที่ผลกำไรจากการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 56.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 1.75 พันล้านบาท) ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับที่แข็งแรง เนื่องจากความต้องการที่แข็งแกร่งที่มีต่อจอดิจิทัลเชิงพาณิชย์และแผงโซลาร์เซลล์ระดับพรีเมียม
ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของไตรมาสที่ 4 ปี 2562
รายได้ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบด้านบัญชีประจำไตรมาสของ แอลจี อีเลคทรอนิคส์ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ IFRS (International Financial Reporting Standards) สำหรับช่วงสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐจะเท่ากับอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยของสามเดือนในไตรมาสเดียวกัน โดยอัตราแลกเปลี่ยน ณ ไตรมาสที่ 4 ปี 2562 อยู่ที่ 31 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯ (ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของธนาคารแห่งประเทศไทย)
COMMENTS