รีวิว เครื่องฟอกอากาศ Toshiba CAF-H70 เหมาะสำหรับห้องขนาด 84 ตร.ม. พร้อมปล่อยประจุลบ ดักจับฝุ่นร่วงตกบนพื้น

เครื่องฟอกอากาศ Toshiba รุ่น CAF-H70 เป็นรุ่นใหญ่เน้นประสิทธิภาพสูง สามารถผลิตอากาศบริสุทธิ์ (ค่า CADR) ได้มากถึง 700 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ซึ่งค่า CADR นี้ ยิ่งมากก็ยิ่งดี ครอบคลุมพื้นที่ห้องขนาดใหญ่ถึง 84 ตารางเมตร เช่น ห้องนั่งเล่น, ห้องรับแขกแบบโถงสูง Double Volume, ห้องประชุมหรือโซนทำงานในออฟฟิศ โดยใช้แผ่น HEPA Filter กรองละเอียดแบบ 5-in-1 ถึงสองชุด ดักฝุ่นขนาดเล็กได้อยู่หมัด พร้อมปล่อยประจุไอออนลบ ให้ฝุ่นตกลงบนพื้น ไม่ฟุ้งกระจาย เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งครอบครัว คุ้มค่ากับการลงทุนใช้งานในระยะยาว ด้วยราคา 23,900 บาท ก็ถือว่าไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่สูงมาก ซึ่งเครื่องฟอกอากาศรุ่นเล็ก ๆ ทั่วไปในตลาด มีประสิทธิภาพไม่สูงพอที่จะนำมาใช้งานห้องขนาดใหญ่หรือห้องโถงเพดานสูงได้ แต่ด้วยพลังแรงดูดอากาศที่สูงมากของโตชิบา H70 เปิดฟอกอากาศเพียงไม่กี่นาที ค่า PM2.5 ก็ลดลงอย่างรวดเร็วจนแทบไม่เหลือฝุ่น และแถบสีไฟแสดงค่า Gaseous Pollutant (สารมลพิษที่เป็นก๊าซเสีย รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์) ก็เปลี่ยนจากสีแดง-สีส้ม เป็นสีฟ้า-สีเขียว บ่งบอกว่าแทบจะเป็นอากาศที่ไร้มลพิษ เพียงเวลาไม่กี่นาทีเช่นกัน

สเปกของเครื่องฟอกอากาศ โตชิบา CAF-H70

• เริ่มวางจำหน่ายในไทยเมื่อเดือนสิงหาคม 2562
• ราคากลางอยู่ที่ 23,900 บาท และราคาแผ่นกรอง ชุดละ 2,390 บาท (เดือนกุมภาพันธ์ 2563) 
• ประสิทธิภาพสูงเหมาะสำหรับพื้นที่ห้องขนาดใหญ่สูงสุด 84 ตารางเมตร 
• อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ (CADR) มากถึง 700 ลบ.ม./ชั่วโมง 
• เครื่องใหญ่ พลังแรงลมสูงปรับได้ 3 ระดับ แต่ประหยัดไฟเหลือเชื่อ เพียง 39 วัตต์ 
• มีโหมด Turbo เพิ่มแรงลมพิเศษ, โหมด Auto และโหมด Sleep เสียงเงียบไม่รบกวนขณะหลับ 
• ใช้แผ่นกรอง HEPA Filter แบบ 5-in-1 จำนวน 2 ชุด ซ้ายและขวา 
• มีเทคโนโลยี Ionizer ปล่อยประจุไอออนลบ ดักจับฝุ่นที่ปลิวในห้องให้ร่วงตกหล่นบนพื้น 
• มี Sensor ตรวจวัดฝุ่นและก๊าซมลพิษในอากาศ
• มีหน้าจอแสดงค่าฝุ่น PM2.5 และระดับมลพิษในอากาศ พร้อมหรี่แสงหรือปิดแสงได้ 
• มีไฟแสดงสถานะอายุการใช้งานแผ่นกรอง 
• ล็อกปุ่มป้องกันเด็กปรับเปลี่ยนการตั้งค่าได้ 
• เคลื่อนย้ายได้สะดวกด้วยล้อเลื่อน 
• น้ำหนัก 13kg. และขนาด (กว้างxลึกxสูง) 360 x 360 x 610 cm.

แกะกล่อง ยลโฉมดีไซน์ และทดสอบการใช้งาน

ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 13kg แต่มีล้อเลื่อน



ในกล่องมีคู่มือแนะนำการใช้งาน



เทียบขนาดกับเครื่องฟอกอากาศแบรนด์อื่นที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันมาบ้างแล้ว













ปุ่มระบบสัมผัสที่ขอบด้านบน ตอบสนองการสัมผัสได้ไวมากและแม่นยำ

หน้าจอ สามารถหรี่แสงหรือปิดแสงได้ เพื่อไม่ให้แสงสว่างรบกวนในขณะนอนหลับ 



ติดตั้ง Sensor ตรวจวัดฝุ่นและมลพิษในอากาศที่ด้านหลังตัวเครื่อง



ทดสอบนำเครื่องฟอกอากาศไปวางในจุดที่มีฝุ่น มีควันจากการเผาไหม้และประกอบอาหาร หน้าจอแสดงค่า PM2.5 สูงขึ้น พร้อมไฟ LED แสดงมลพิษในอากาศเป็นสีแดงทันที

ทั้งนี้ค่า PM2.5 เป็นการตรวจวัดฝุ่นละอองแบบเรียลไทม์ พร้อมแถบสีบอกคุณภาพอากาศปลอดฝุ่น 4 ระดับ (ยอดเยี่ยม / ดี / ปานกลาง / แย่) ส่วนไฟแถบสีข้างล่าง บอกถึงระดับมลพิษในอากาศ 4 ระดับเช่นกัน หากมีกลิ่นจากสารเคมีหรือสารระเหย ดังในภาพ จะเห็นได้ว่า Gaseous Pollutant อยู่ในระดับแย่ที่สุด เป็นสีแดง






ช่องปล่อยอากาศบริสุทธิ์อยู่ด้านบน ให้พลังแรงลมที่ดีมาก เป่าลมขึ้นสูงในโหมด Turbo ใช้งานในห้องโถงสูงพิเศษแบบ Double Volume ของบ้านสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว โดยสามารถถอดตะแกรงเพื่อทำความสะอาดได้ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย เครื่องจะหยุดการทำงานชั่วคราวทันทีเมื่อถอดตะแกรงออก และทำงานต่อเนื่องเมื่อติดตั้งตะแกรงลงไป



ชุดแผ่นกรองแบบ 5-in-1 ใช้สองชุดที่ด้านซ้ายกับขวา เพื่อดูดอากาศรอบตัวเครื่อง ดักจับละอองฝุ่นได้ละเอียดมาก ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นขนาดใหญ่และเล็กมาก ๆ ถึง 0.3 ไมครอน รวมทั้งกลิ่น ก็ยากที่จะหลุดรอดออกไปได้ แล้วเป่าอากาศบริสุทธิ์ด้วยใบพัดขับลมแรงพุ่งขึ้นออกสู่ด้านบนของตัวเครื่อง











ตะแกรงปิดแผ่นกรอง สามารถถอดได้ง่าย เป็นช่องรับลมขนาดใหญ่ ดูดเข้าผ่านชั้นกรองทั้งสองด้าน มีเลนส์ขยายที่ทำให้มองเห็นฝุ่นที่เกาะติดแผ่นกรองหยาบชั้นแรก (Pre-Filter)












แผ่นกรองหยาบชั้นแรก คล้ายกับฟิลเตอร์ของเครื่องปรับอากาศทั่วไป สามารถถอดล้างได้ โดยล้างเมื่อเห็นว่ามีฝุ่นเกาะติดเยอะ หรือดูจากไฟแสดงสถานะ Pre-Filter ที่จอด้านหน้าตัวเครื่อง โดยเฉลี่ยควรล้างทุก ๆ ครึ่งเดือน ผึ่งให้แห้งแล้วใส่กลับคืนดังเดิม ก็ใช้งานต่อได้ทันที









ต่อมาเป็นชุด HEPA Filter หรือชุดแผ่นกรองละเอียดที่ดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กมาก เชื้อโรค และกลิ่น ชุด HEPA Filter นี้ไม่สามารถถอดล้างได้ แต่สามารถใช้งานได้นานหลายเดือน โดยมีไฟ LED แสดงสถานะบนหน้าจอ บอกอายุการใช้งานคงเหลือเป็นขีด 5 ระดับ









เมื่อถึงเวลาที่ต้องถอดชุด HEPA Filter เพื่อเปลี่ยนใหม่ทั้งสองชุด โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 9-15 เดือน ก็ควรจะใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่าบิดหมาด เช็ดช่องใส่แผ่นกรองด้านหน้าตะแกรงดูดอากาศบริสุทธิ์ที่มองเห็นมอเตอร์ดังภาพ 















จากการทดสอบใช้งานจริง ในห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ที่มีเพดานสูง ทันทีที่เข้ามาในห้องแล้วเปิดใช้งานเครื่องฟอกอากาศ Toshiba H70 หน้าจอแสดงค่าฝุ่น PM2.5 ที่ตรวจจับได้โดย Sensor หลังเครื่อง อยู่ที่ 16 µg/m² (ไมโครกรัมต่อตารางเมตร) ใช้เวลาเพียง 3-4 นาที ค่าฝุ่น PM2.5 ก็ค่อย ๆ ลดลงจาก 16 µg/m²  เหลือเพียง 3 µg/m² 

จุดนี้ถือว่าน่าประทับใจในประสิทธิภาพอย่างมาก ด้วย Toshiba CAF-H70 ถือเป็นรุ่นระดับ Hi-End ที่มีแรงดูดอากาศเข้าอันทรงพลัง และปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาได้แรงเช่นกัน ทำให้ฟอกอากาศได้ในปริมาณมากสูงสุด 700 ลบ.ม./ชั่วโมง ดักจับฝุ่นผง ควันพิษ กลิ่น เชื้อโรคในอากาศ ได้ดีเยี่ยมจนค่าฝุ่นและค่ามลพิษในอากาศภายในห้องลดลงเร็วมาก เมื่อทดลองนำไปใช้งานในบางห้องที่มีฝุ่นเยอะและเป็นห้องที่ไม่ค่อยได้มีผู้คนเข้าไปอยู่อาศัย พบว่าแผ่นกรอง Pre-Filter ดักจับฝุ่นสีเทา ๆ ได้เยอะมากจนเต็มแผ่นอย่างรวดเร็ว และฟอกอากาศได้รวดเร็วมาก กลิ่นอับ กลิ่นฝุ่น หมดไปอย่างที่รู้สึกได้จริง

สรุปจุดเด่นที่น่าประทับใจหลังได้ทดลองใช้งาน Toshiba CAF-H70

1. ชุด HEPA Filter กรองอากาศละเอียดถึง 5 ชั้น 2 ชุด ด้านข้างซ้ายและขวาของตัวเครื่อง ผสานการทำงานของมอเตอร์ดูดอากาศเข้าอันทรงพลัง ทำให้การดักจับฝุ่นละอองและกลิ่นได้กว่าเครื่องฟอกอากาศทั่วไปในตลาดระดับเดียวกันที่ใช้ Filter เพียงชุดเดียว มั่นใจได้ในประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีกว่า



2. แม้จะทดสอบด้วยเครื่องมือวัดหรือความรู้สึกไม่ได้แบบตรง ๆ แต่การปล่อย Ion ประจุลบ ร่วมกับการใช้ Filter และ Motor ดูดอากาศที่ดีพอ ก็น่าจะทำให้อากาศดีขึ้นกว่าเครื่องฟอกอากาศที่ไม่มีการปล่อย Ion ประจุลบ



3. เครื่องฟอกอากาศที่ดี จำเป็นต้องมีหน้าจอแสดงสถานะการทำงานพร้อมทั้งค่า PM2.5 เป็นตัวเลข ให้ดูง่าย ๆ ที่ตัวเครื่อง โดยไม่ต้องเชื่อมต่อให้ยุ่งยากเพื่อดูสถานะเหล่านั้นบน Smartphone



4. การแยก Filter เป็น Pre-Filter ชั้นแรกที่กรองหยาบแบบถอดล้างได้เหมือนเครื่องปรับอากาศ กับรวมกรองละเอียดอีก 4 ชั้นที่เหลือเป็นชิ้นเดียวกัน 4-Layers ทำให้ Filter ชุดกรองละเอียด ดักจับเฉพาะฝุ่นขนาดเล็กมากเท่านั้น จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า (เฉลี่ย 10-12 เดือน) ไม่ต้องเปลี่ยนถี่เกินไป ส่วนกรองหยาบก็สามารถถอดล้างฝุ่นใช้เพื่อซ้ำได้



5. ใช้ง่าย กดเปิดเครื่องแล้วใช้งานในโหมด Auto ไม่ต้องปรับอะไรทั้งนั้น ปล่อยให้ Sensor ตรวจจับฝุ่น และปรับการทำงานอัตโนมัติของเครื่องตามสภาพอากาศภายในห้อง



6. กระจายอากาศบริสุทธิ์ด้วยแรงลมทั่วห้องขนาดใหญ่ รองรับเทรนด์บ้านสไตล์โมเดิร์นที่มีห้องนั่งเล่นโถงสูง 5-6 เมตร ซึ่งจำเป็นต้องใช้เครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพสูง ได้ผลดีกว่าเครื่องรุ่นเล็ก



7. เหมาะสำหรับใช้งานในห้องนอนด้วย เนื่องจากเงียบมาก และสามารถปิดหน้าจอแบบปิดสนิท 100% เพื่อไม่ให้แสงไฟรบกวนการนอนหลับได้ด้วย หรือจะหรี่แสงหน้าจอให้มองเห็นสถานะที่จำเป็นก็ได้

8. ประหยัดไฟมากเพียง 39W เปิดใช้งานต่อเนื่องได้แบบไร้กังวล พร้อมทั้งรับประกัน 2 ปี และมั่นใจได้กับมอเตอร์ที่รับประกันนานถึง 5 ปี

ข้อสังเกต

• ไม่รองรับ IoT ไม่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใด ๆ ทำให้ไม่สามารถสั่งงานจากระยะไกลผ่านอินเทอร์เน็ตหรือ Smart Device
• HEPA Filter มีสองชุดที่ต้องเปลี่ยนพร้อมกัน มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แลกกับสุขภาพที่ดีขึ้น

คะแนนการทดสอบใช้งานจริง

• Design & Material : 8/10
• Performance : 10/10
• Feature : 9/10
• Easy to use : 10/10
• Price & Value : 7/10

ช่องทางจำหน่าย

ทดลองผลิตภัณฑ์และเลือกซื้อได้ที่ Power Buy, Power Mall, HomePro หรือช่องทางออนไลน์ทั้ง Shopee, Lazada และ www.toshibathailandshopping.com