เสียวหมี่ ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกเปิดตัว Redmi Note 9S สมาร์ทโฟนรุ่นกลางคุณภาพระดับแชมเปี้ยน พร้อมประสบการณ์การใช้งานระดับห้าดาวสมการรอคอยสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในตระกูล Redmi Note เครื่องมาพร้อมระบบประมวลผลทรงพลัง โดดเด่นด้วยดีไซน์อันลงตัว และกล้องหลัง 4 ตัวอันยอดเยี่ยม พร้อมขุมพลังจัดเต็มด้วยแบตเตอรี่อายุการใช้งานยาวนาน
มร.โจนาธาน คัง ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เสียวหมี่ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “Redmi Note เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนรุ่นที่ขายดีที่สุดของเสียวหมี่ การันตีด้วยยอดขายกว่า 110,000,000+ เครื่องทั่วโลก และยังติดอันดับมือถือยอดนิยมท็อป 10 ของโลกตามสถิติจากบริษัทสำรวจตลาด Canalys อีกด้วย และนอกจากจะเป็นสมาร์ทโฟนยอดนิยม Redmi Note ยังแสดงให้เห็นถึงปรัชญาขององค์กรที่เรายึดถืออย่างหนักแน่นว่าจะนำนวัตกรรมมาให้กับทุกคน Redmi Note 9S จะยังคงตอกย้ำปรัชญานี้พร้อมประสิทธิภาพคับเครื่องในราคาที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน”
ประสิทธิภาพการทำงานเป็นหนึ่งด้วยชิปเซ็ตทรงพลังและขุมพลังแบตเตอรี่ความจุสูง
มาพร้อมชิปเซ็ตทรงพลัง Qualcomm® Snapdragon™ 720G ซึ่งประกอบไปด้วย octa-core CPU ให้ความเร็วสูงสุดถึง 2.3GHz และ GPU Adreno™ 618 และเทคโนโลยีการประมวลผล 8 นาโนเมตร Redmi Note 9S มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมให้กับคุณผ่านเทคโนโลยี AI อันล้ำหน้าพร้อมการพัฒนาของแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น.
ทั้งยังเป็นสมาร์ทโฟน Redmi Note รุ่นแรกที่มี Z-axis linear vibration motor หรือการเคลื่อนไหวแบบสั่นของมอเตอร์ที่เป็นแกน Z ทำให้มีความเร่งที่เร็วขึ้น และส่งผลให้การตอบสนองที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสดีขึ้นกว่าแบบเดิม หรือ haptic feedback ดีขึ้น
ความจุแบตเตอรี่มากถึง 5020 มิลลิแอมป์ ทำให้ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน แม้ในยามที่ใช้งานอย่างหนักก็ตาม เมื่อต้องการจะชาร์จแบตเตอรี่ เครื่องก็มาพร้อมคุณสมบัติการชาร์จเร็ว 18W และหัวชาร์จ 22.5W ที่ให้มาในกล่อง
คุณภาพระดับพรีเมี่ยมยังคงถูกส่งต่อด้วยดีไซน์อันเรียบหรูและหน้าจอที่สวยงาม
Redmi Note 9S อวดโฉมดีไซน์ใหม่แบบไร้รอยบาก (notch-free) โดยการปรับเปลี่ยนการจัดวางกล้องหลังเป็นสี่เหลี่ยม ปุ่มเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือที่อยู่ด้านข้าง และทำหน้าที่เป็นปุ่มพาวเวอร์ไปในตัว เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการปลดล็อค ทั้งนี้ยังมาพร้อมหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว FHD+ DotDisplay และครั้งแรกของกล้องหน้าใน Redmi Note ที่ออกแบบให้ดูพรีเมี่ยมและดีไซน์ที่ลงตัว ให้มีพื้นที่หน้าจอต่อตัวเครื่องมากถึง 91% เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น หน้าจอยังมาพร้อมการรับรองจาก TÜV Rheinland ในการลดแสงสีฟ้าเพื่อถนอมสายตาจากการใช้งานที่ยาวนาน ตัวเครื่องนั้นมีถึงสามเฉดสี สวยสะดุดตา ทั้งสี Interstellar Grey, Aurora Blue และ Glacier White
Redmi Note 9S นั้นยังคงชื่อเสียงอันดีงามของสมาร์ทโฟนในตระกูล Redmi Note ไว้ได้อย่างดี โดยได้ทำการพัฒนาสมาร์ทโฟนคุณภาพเยี่ยมที่จะกลับมาสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้งานอีกครั้ง ด้วยการเคลือบนาโนกันน้ำและใช้เทคโนโลยี Corning® Gorilla® Glass 5 ทั้งด้านหน้าตัวเครื่อง และฝาหลัง
เฉิดฉายไปกับการถ่ายภาพและการถ่ายวีดิโอด้วยนวัตกรรมกล้อง 4 ตัว
Redmi Note 9S มาพร้อมกับกล้องหลังถึง 4 ตัวโดยมีเลนส์หลักที่ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และมีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ถึง ½ นิ้ว สำหรับการถ่ายภาพเวลากลางวันแบบ ultra-high-resolution ทั้งยังมีเลนส์ ultra-wide ที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่ให้คุณเก็บภาพกลุ่มขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เลนส์มาโครให้มาที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และเลนส์ depth ให้มาที่ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มาช่วยให้คุณถ่ายรูปได้สวยสมใจในทุกช่วงเวลา
กล้องหน้าของ Redmi Note 9S มาพร้อมกับกล้องเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดกล้องหน้าเล็กลง ทำให้พื้นที่ของหน้าจอมีมากขึ้นโดยไม่ลดทอนคุณภาพและประสิทธิภาพของกล้องแต่อย่างใด
ราคาและการวางจำหน่าย
เริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2563 ในโอกาส Lazada Birthday Sale 2020 ผ่านแพลตฟอร์มลาซาด้าเท่านั้น เฉพาะรุ่น Redmi Note 9S ความจุ 4GB+64GB ในราคาสุดพิเศษ 5,999 บาท ลดราคาจาก 6,499 บาท พร้อมรับฟรี Mi Smart Band 4 ราคา 1,299 บาท โดยระยะเวลาโปรโมชั่นพิเศษนี้มีระยะเวลาเริ่มตั้งแต่ 27 มีนาคม ถึง 31 เมษายน 2563 หรือจนกว่าของจะหมด
นอกจากนี้เสียวหมี่ยังขนโปรโมชั่นพิเศษมากมายมาเอาใจในโอกาสลาซาด้าฉลองครบรอบ 6 ปี อาทิ Mi Note 10 ความจุ 6GB+128GB จะจำหน่ายในราคา 13,990 บาท จากราคา 16,990 บาท, Mi Note 10 Pro ความจุ 8GB+256GB จะจำหน่ายในราคา 19,990 บาท พิเศษพร้อมรับ Mi Air Purifier 2C ฟรี มูลค่า 3,999 บาท และ Redmi Note 8 ความจุ 3GB+32GB จะจำหน่ายในราคา 3,799 บาท จากราคา 4,999 บาท
สำหรับรุ่น Redmi Note 9S ความจุ 6GB+128GB จำหน่ายในราคา 7,999 บาท เริ่มจำหน่ายวันแรกในเทศกาล Mi-Fans Festival ในวันที่ 7 เมษายน 2563 ผ่านช่องทางออนไลน์และร้านตัวแทนจำหน่ายทั้ง COM7, TG FONE, JAYMART และร้านค้าที่ได้รับอนุญาตจากทางเสียวหมี่อย่างเป็นทางการ
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Mi Handheld Vacuum Cleaner 1C
ให้คุณสัมผัสกับประสบการณ์ทำความสะอาดแบบไม่เปลืองแรง ด้วยการออกแบบที่สามารถพกพา เคลื่อนย้ายแบบไม่มีสายกวนใจ เครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นใหม่นี้ยังคงมาพร้อมมอเตอร์ DC brushless motor ที่มีความสามารถในการหมุนเร็วถึง 100,000 รอบต่อนาที จากรุ่นก่อนหน้านี้แต่ได้รับการอัพเกรดให้มีพลังการดูดถึง 120 AW รวมไปถึงระบบการกรองฝุ่นอย่างละเอียดมากถึง 5 ขั้นตอน ดังนี้ ระบบการแยกแบบแอดวานซ์มัลติ-ไซโคลน และมีการกรองอย่างละเอียดด้วย H12-class HEPA filter ทำให้เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Mi Handheld Vacuum Cleaner 1C สามารถจับฝุ่นได้มากถึง 99.97% แม้ฝุ่นที่มีขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนก็สามารถจัดการได้ ให้คุณมั่นใจว่าเครื่องจะปล่อยแต่อากาศบริสุทธิ์ออกมา
นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้นานถึง 60 นาทีภายใต้โหมดอีโค Mi Handheld Vacuum Cleaner 1C ยังมาพร้อมหัวดูดให้เลือกหลากหลายถึง 4 หัว ที่จะให้คุณสามารถปรับใช้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ให้คุณสามารถทำความสะอาดบ้านได้ทั้งหลังและยังซอกซอนตามร่องลึกพื้นผิวเบาะหรือบางเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากผ้าได้อย่างง่ายดาย
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Mi Handheld Vacuum Cleaner 1C จำหน่ายในราคา 7,999 บาท และวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้ ณ ร้านค้าที่ได้รับอนุญาตจากทางเสียวหมี่, Lazada, Shopee และ JD Central โดยเริ่มวางจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ครั้งแรกผ่านแพลตฟอร์มลาซาด้าในวันที่ 27 มีนาคม 2563
หูฟังไร้สาย Mi True Wireless Earphones 2
Mi True Wireless Earphones 2 หูฟังไร้สายเจเนอเรชั่นใหม่ มาพร้อมสัญญานเชื่อมต่อที่มีความเสถียรมากขึ้น มีความเร็วในการรับส่งเร็วขึ้น และเชื่อมต่อสัญญานเข้ากับบลูทูธ 5.0 ดีขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับ SBC, AAC และ LHDC และยังเพิ่มประสบการณ์การฟังให้ดีขึ้นโดยขยายเสียงทุ้มและตัดเสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยี (ENC) หูฟังรุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์อย่าง Pop-up pairing* และมีเซ็นเซอร์ในตัวเพื่อตรวจจับว่าหูฟังอยู่ข้างในหรือนอกหูโดยเสียงดนตรีจะหยุดทันทีหากหูฟังออกจากหู ผู้ใช้จะสามารถเพลิดเพลินด้วยวิธีการง่ายๆ เพียงแค่สัมผัสเบา ๆ สองครั้งที่หูฟังเพื่อฟังเพลง รับโทรศัพท์ หรือเข้าถึงการเปิดใช้งานด้วยเสียง ทั้งหมดนี้ใช้เวลาชาร์จเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น Mi True Wireless Earphones 2 ให้คุณฟังเพลงได้ยาวนานถึง 14 ชั่วโมงเลยทีเดียว
วางจำหน่ายในราคา 2,399 บาท หูฟัง Mi True Wireless Earphones 2 วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้ ณ ร้านค้าที่ได้รับอนุญาตจากทางเสียวหมี่, Lazada, Shopee และ JD Central โดยเริ่มวางจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ครั้งแรกผ่านแพลตฟอร์มลาซาด้าในวันที่ 27 มีนาคม 2563
โปรเจคเตอร์อัจฉริยะขนาดกะทัดรัด Mi Smart Compact Projector
เปิดตัว Mi Smart Compact Projector โปรเจคเตอร์อัจฉริยะขนาดกะทัดรัด มอบประสบการณ์โฮมเธียเตอร์หรือจำลองโรงหนังในบ้านด้วยคุณภาพความละเอียดระดับ Full HD 1080P เม็ดสีสดสมจริง พร้อมลำโพงถึงสองตัวที่ใช้ระบบเสียง Dolby และ DTS อัตราส่วนการฉาย 1.2:1 และสามารถปรับระดับภาพฉายตั้งแต่ 60 ถึง 120 นิ้ว ซึ่งจะเปลี่ยนห้องนั่งเล่นของคุณเป็นโรงหนัง คอนเสิร์ต เกม และอีกมากมาย ขับเคลื่อนด้วยระบบปฎิบัติการ Android TV 9.0 และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันหรือคอนเทนต์สุดโปรดผ่าน Google Play รวมทั้งเพลิดเพลินไปกับ Google Assistant และ ChromeCast
โปรเจคเตอร์อัจฉริยะขนาดกะทัดรัด Mi Smart Compact Projector วางจำหน่ายแล้วบนร้านค้าที่ได้รับอนุญาตจากทางเสียวหมี่ และจะวางจำหน่ายบนออนไลน์ครั้งแรกในวันที่ 7 เมษายน 2563 ในราคา 19,990 บาท ผ่านช่องทางการจำหน่าย Lazada, Shopee และ JD Central และพิเศษสุด เมื่อซื้อผ่าน Shopee ในวันที่ 7 เมษายน 2563 เหลือเพียง 15,990 บาทเท่านั้น
*Netflix จะมีในอนาคตเมื่อมีการอัพเดต OTA
COMMENTS