บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) ผนึกกำลังพันธมิตรโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมชั้นนำ กว่า 40 แบรนด์ชั้นนำ อาทิ Realme Studio 7 Jaymart TG Fone Banana RTB Synnex JIB Powerbuy และ IT City ร่วมด้วยโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ AIS และ TrueMove H และบริษัทคู่ค้าด้านไอที จัดงาน “Thailand Mobile Expo 2020” ครั้งที่ 36 มหกรรมมือถือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เมื่อวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2563 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค
นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP เปิดเผยถึงภาพรวมของการจัดงาน “Thailand Mobile Expo 2020 มหกรรมโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ครั้งที่ 36” ว่าโดยปกติแล้วงาน Thailand Mobile Expo ครั้งที่ 2 ของปีจะมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมจนถึงต้นเดือนมิถุนายน เพียงแต่ว่าครั้งนี้ติดสถานการณ์ COVID-19 จึงทำให้ต้องเลื่อนมาจัดในช่วงวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2563
ซึ่งช่วงเวลาหลายเดือนในช่วง COVID-19 ที่ถูกกดปุ่ม Pause ไปนั้น ก็ไม่สามารถตอบลูกค้าของบริษัทได้อย่างเต็มปากว่า ถ้าจัดงานขึ้นแล้วจะมีคนมาเดินหรือเปล่า จนกระทั่งได้สัญญาณปลดล็อคและเปิดห้างจากรัฐบาล ซึ่งก็เหมือนมีแสงที่ปลายอุโมงค์ออกมาให้เห็น เพราะหลังจากเปิดห้าง คนก็ยังคงต้องการเรื่องเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันอยู่ จะเห็นได้ว่าในช่วงนั้นมือถือรุ่นใหม่ ราคาไม่แพงอย่าง iPhone SE และโน๊ตบุ๊คขายดีมาก เพราะยังเป็นปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของคนส่วนใหญ่
นายโอภาส กล่าวเสริมว่า “หลังจากที่ทราบจากรัฐบาลว่าจะสามารถจัดงานอีเว้นท์ได้ และทราบมาด้วยอีกว่าเป็นงานแรกของประเทศ หลังจากปิด Lockdown ไปนั้น อีกทั้งยังมีเวลาเตรียมตัวน้อยมากแค่ประมาณ 1 เดือน ซึ่งทาง MVP ได้มีโค้ดเนมเรียกการทำงาน Thailand Mobile Expo ในรูปแบบ New Normal อย่างเร่งด่วน เกิดเป็นชื่อโปรเจ็คที่ใช้เรียกกันภายในบริษัทว่า “Saturn Landing” โดยเรามองไปถึงดาวเสาร์ เพราะเราไม่ไปดวงจันทร์ที่ไปง่ายมาก เพราะในยุคสมัยนี้ คนเทคโนโลยีที่โลกรู้จักอย่าง Elon Musk หรือประเทศต่างๆ ก็สามารถส่งกระสวยอวกาศไปดวงจันทร์ได้ง่ายๆ แล้ว ซึ่งมันไม่เหลือความท้าทายให้เห็น เราจึงต้องมองไกลไปกว่านั้น เรามองไปถึงดาวเสาร์เลยครับ”
การจัดงาน Thailand Mobile Expo รอบนี้เป็นลักษณะ Omnichannel งานแรกในประเทศไทย
เราอยากจัดงาน Thailand Mobile Expo แบบที่มีการผสมกัน (Hybrid Event) แบบที่มีทั้งออนไลน์และออฟไลน์มานานมากแล้ว แต่ก็ได้มีการผลัดผ่อนมาตลอด เพราะความไม่พร้อมในหลายๆ ด้าน แต่แล้ว COVID-19 ก็เข้ามาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เราก้าวไปสู่สิ่งนี้ได้เร็วขึ้น ซึ่งเราได้มีการจับมือกับพันธมิตรด้านออนไลน์ผู้แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ อย่าง Shopee และ Lazada เกิดเป็นงาน Thailand Mobile Expo บนออนไลน์ และคนต่างจังหวัดก็สามารถซื้อสินค้าโปรโมชั่นงาน Thailand Mobile Expo ได้แล้วในการจัดงานครั้งนี้ เพราะปกติทุกครั้งที่จัดงาน ก็จะมีคนต่างจังหวัดเข้ามาตัดพ้อเราบ่อยๆ ว่าทำไมไม่มาจัดต่างจังหวัดบ้าง หรือทำไมไม่มีขายออนไลน์บ้าง ซึ่งในครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่เราตอบสนองต่อเสียงดังกล่าวแล้ว
Shopee และ Lazada คือกุญแจสำคัญในการจัดงานรูปแบบออนไลน์ในแบบ Seamless ที่ผสานกันทั้งออนไลน์และออฟไลน์ได้อย่างลงตัว
โดยปกติแล้วคนทั่วไปก็จะมีความเคยชินกับการซื้อของออนไลน์ผ่าน Shopee และ Lazada กันอยู่แล้ว ยิ่งช่วง COVID-19 จะเห็นได้ว่ายอดซื้อออนไลน์นั้นพุ่งสูงขึ้นกว่าปกติ และสิ่งนี้เองทำให้ MVP รู้สึกว่าถึงเวลาแล้วของการนำออนไลน์มาใช้ในงานของเรา จึงเกิดงาน Thailand Mobile Expo ในรูปแบบออนไลน์ขึ้นบนแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ในไทยอย่าง Shopee และ Lazada ซึ่งเป็นการยกไบเทคบางนาไปไว้บนนั้นเลย และเราจะไม่เปลี่ยนพฤติกรรมของคนทั่วไป เพราะใครๆ ก็เคยซื้อสินค้าบนนี้ ซึ่งผู้ที่ซื้อสินค้าในช่วง 2-5 กรกฎาคม ก็จะได้โปรโมชั่นกลางของงานบน Shopee และ Lazada เช่น voucher ส่วนลด 8% เมื่อช้อปขั้นต่ำ 8,000 บาท ส่วนลด 1,000 บาท เมื่อซื้อสินค้า 7,000 บาท เป็นต้น ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มนั้นมี voucher ให้ใช้เป็นจำนวนมากกว่า 4 ล้านบาท และนอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นของธนาคารที่จะมีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในช่วงอีเว้นท์ Thailand Mobile Expo นี้ และสุดท้ายความพิเศษของ Omnichannel นั้นเริ่มขึ้นจากตรงนี้ เพราะคุณสามารถซื้อสินค้า Thailand Mobile Expo บน Shopee และ Lazada และเลือกรับสินค้าที่งาน Thailand Mobile Expo ที่ไบเทคบางนาได้หลังจากสั่งซื้อ เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากรอขนส่งเอกชนมาส่งสินค้าในอีก 1-2 วัน นอกจากนี้ยังสามารถส่งด่วนภายใน 1 วันได้ด้วย ในกรณีที่ไม่อยากออกจากบ้านไปไหน (แต่บริการนี้จะใช้ได้เฉพาะใน กทม.เท่านั้น) นอกจากนี้หากเดินอยู่งาน Thailand Mobile Expo ที่ไบเทคบางนา แต่อยากได้โปรโมชั่นของ Shopee และ Lazada เพิ่มเติม ก็สามารถเลือกกดจากแอปพลิเคชัน และเลือกให้จัดส่งที่บ้าน พร้อมกับรับของแถมพิเศษที่งานติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย
Omnichannel หรือ Hybrid Event คือรูปแบบในอนาคตของการจัดงาน Thailand Mobile Expo
นายโอภาส กล่าวเสริมว่า การเกิดขึ้นของวิกฤติในครั้งนี้นั้นเกิดโอกาสในการขายในระดับ nationwide (ทั่วประเทศ) เพราะโดยปกติแล้ว อัตราการซื้อสินค้าของงาน Thailand Mobile Expo นั้นจะกระจุกตัวอยู่เฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น ซึ่งปกติจะมียอดเงินสะพัดของงานตลอด 4 วันจัดงานอยู่ที่ 2-3 พันล้านบาท ซึ่งในครั้งนี้จำนวนคนมาเดินงานลดลง เนื่องจากมาตรการการเว้นระยะห่าง แต่อัตราการซื้อสินค้าเมื่อเติมส่วนออนไลน์เพิ่มเข้าไป ทำให้ยอดเงินสะพัดในงานยังคงเทียบเท่าเดิม และที่สำคัญยอดเข้าชมอีเว้นท์ออนไลน์บน Shopee และ Lazada นั้นมีจำนวนคนเข้าชมมากกว่าวันละ 4 ล้านคนต่อวันต่อแพลตฟอร์ม
แล้วพบกันใหม่กับงาน Thailand Mobile Expo 2020 ครั้งที่ 37 มหกรรมโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เร็ว ๆ นี้ โดยสามารถติดตามรายละเอียดของการจัดงานเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandmobileexpo.com
COMMENTS