กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ได้วิเคราะห์ 5 พฤติกรรมผู้บริโภคผลไม้ในตลาดสิงคโปร์ไว้ดังนี้
· การนำเข้าผลไม้ในสิงคโปร์ไม่ใช่เพียงแต่นำเข้าเพื่อการบริโภคในประเทศเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการนำเข้าเพื่อการส่งออกต่อ (re-export) ไปยังอินโดนีเซียและบรูไนด้วย จากตัวเลขการส่งออกเดือนมกราคม - เมษายน 2563 พบว่าเฉพาะผลไม้สดมีการส่งออกไปสิงคโปร์เพิ่มสูงขึ้นถึง 10.24%
· กระแสผลไม้ออร์แกนิคและผลไม้เกษตรอินทรีย์ในสิงคโปร์มีการขยายตัวขึ้นต่อเนื่อง เพราะผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น เกษตรกรและผู้ประกอบการไทยจึงต้องให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และพัฒนาคุณภาพการผลิตตามความต้องการของตลาด
· ชาวสิงคโปร์ส่วนใหญ่นิยมซื้อสินค้าผลไม้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตมากกว่าตลาดสด เพราะสะดวกสบาย ชาวสิงคโปร์ส่วนมากต้องทำงานในช่วงเวลา 8.00-18.00 น. ดังนั้น การส่งเสริมการขายสินค้าผลไม้ผ่านทางซูเปอร์มาร์เก็ตสิงคโปร์ จะเป็นการประชาสัมพันธ์ได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
· ความต้องการในการบริโภคสินค้าผลไม้แบบแช่เย็น/แช่แข็งมากขึ้น ด้วยระยะเวลาในการเก็บรักษาที่นานขึ้นและการซื้อได้อย่างสะดวกทั้งช่องทางออนไลน์และซูเปอร์มาร์เก็ต
· ผู้บริโภคมีโอกาสเลือกผลไม้ที่มาจากหลายแหล่ง ซึ่งไทยเองมีคู่แข่งสำคัญของผลไม้ประเภทเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย อินโดนีเซีย เมียนมา เป็นต้น ดังนั้น ไทยมีโอกาสเสียเปรียบในการแข่งขันด้านราคา
นอกจาก 5 พฤติกรรมผู้บริโภคข้างต้นแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เกิด New Normal ของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น หรือการเติบโตเพิ่มขึ้นของ Contactless payment ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ส่งออกผลไม้สด ผลไม้แช่แข็ง และผลไม้แปรรูปจากไทยไม่ควรมองข้าม ควรวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันและเลือกช่องทางจัดจำหน่ายให้เหมาะสม เพื่อตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคโควิด-19 ด้วย
COMMENTS