นวัตกรรมเครื่องซักผ้าปี 2020 ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล

ในปัจจุบัน นวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล พร้อมตอบสนองต่อพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับนวัตกรรมเครื่องซักผ้า ซึ่งมีวิวัฒนาการมาอย่างยาวนาน เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ๆ ยังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมายที่ช่วยตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วและให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัยมากยิ่งขึ้น แอลจีในฐานะผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าในประเทศไทยต่อเนื่องกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมาได้พัฒนานวัตกรรมพร้อมสร้างเทรนด์ของวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านด้วยเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI DD™ ซึ่งเป็นการผสานการใช้เทคโนโลยี AI กับมอเตอร์เอกสิทธิ์เฉพาะของแอลจี Inverter Direct DriveTM เพื่อการทำความสะอาดผ้าได้ล้ำลึกและอ่อนโยนและเทคโนโลยี เครื่องซักผ้าจะช่วยคำนวณรูปแบบการหมุนของถังซักให้เหมาะกับผ้าแต่ละประเภทมากที่สุด ทำให้ถนอมเนื้อผ้าได้อย่างเหนือระดับ

แอลจีนับเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่นำนวัตกรรม AI เข้ามาสู่เครื่องใช้ใฟฟ้าภายในบ้าน เพื่อตอบรับการใช้ชีวิตของคนในยุคดิจิทัล สอดคล้องกับสโลแกนที่ว่านวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า หรือ “Innovation for a Better Life” โดยเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI DD™ ได้ผสานการใช้เทคโนโลยี AI กับมอเตอร์เอกสิทธิ์เฉพาะของแอลจี Inverter Direct DriveTM ที่นอกจากจะทำความสะอาดผ้าได้ล้ำลึกและอ่อนโยน ยังนำความล้ำหน้าของเทคโนโลยีมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลด้านพฤติกรรมการใช้งานผ่านบิ๊กดาต้า โดยชั่งน้ำหนักผ้าและวิเคราะห์ประเภทของเนื้อผ้าในแต่ละถังซัก เพื่อนำเสนอรูปแบบการหมุนของถังซักที่เหมาะสมที่สุดกับเนื้อผ้าแต่ละชนิด นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น TurboWashTM 360 ยังช่วยทำความสะอาดผ้าได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาลดลงกว่า 34 เปอร์เซ็นต์ และลดการใช้พลังงาน 39 เปอร์เซ็นต์[1] โดยที่ยังคงประสิทธิภาพการซักเท่าเดิม รวมถึงฟังก์ชั่น Steam+TM ที่มีคุณสมบัติสำคัญในการขจัดสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์[2] และลดรอยยับของผ้าได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์[3] ประหยัดเวลาในการรีดผ้ามากขึ้น นอกจากนี้ ความจุของถังซักที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ขนาดของเครื่องซักผ้ายังคงเดิม ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการซักและประหยัดพื้นที่การใช้งาน ซึ่งตอบโจทย์พฤติกรรมของคนยุคใหม่ที่อาศัยอยู่ในบ้านที่มีพื้นที่จำกัด คอนโดมิเนียม หรืออพาร์ทเมนต์ เป็นต้น



สำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน แอลจียังคงพัฒนาเทคโนโลยีมอเตอร์ต่อตรงระบบ Inverter Direct DriveTM อย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสิทธิภาพการซักผ้าที่เพิ่มขึ้น โดยช่วยถนอมเนื้อผ้าเสมือนซักด้วยมือจากการลดปัญหาผ้าพันกัน และประหยัดน้ำและพลังงานเพิ่มขึ้น พร้อมการทำงานที่เงียบ นิ่ง และทนทาน โดยแอลจีรับประกันมอเตอร์เป็นระยะเวลานานถึง 10 ปี ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยี 6 Motion DD สามารถออกแบบการหมุนของถังซักไปในหลายทิศทางแตกต่างกันไป เพื่อประสิทธิภาพการซักและการถนอมผ้าสูงสุด ตามการเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับเนื้อผ้าแต่ละชนิด นอกจากนี้ ถังซักของเครื่องซักผ้าฝาบนของแอลจียังทำมาจากสแตนเลส[4] จึงช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียภายในถังซักได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยเพิ่มความมั่นใจอีกขั้นในการปกป้องดูแลสุขภาพของผู้บริโภคและสมาชิกในครอบครัวให้ปลอดภัย จากการทำความสะอาดผ้าที่มีประสิทธิภาพและถูกสุขอนามัยยิ่งขึ้น

เครื่องซักผ้าของแอลจียังอำนวยความสะดวกต่อไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานในยุค IoT ด้วยการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น LG ThinQTM ผ่านสมาร์ทโฟน จึงช่วยให้การควบคุม ตรวจสอบ และดูแลรักษาเครื่องซักผ้าแอลจีง่ายดายยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบอาการผิดปกติและจัดการกับปัญหาเบื้องต้นผ่านฟังก์ชั่น Smart DiagnosisTM หรือจะดาวน์โหลดโปรแกรมการซักผ้าใหม่ได้เพิ่มเติมตามความต้องการ ตรวจสอบการใช้พลังงานได้อย่างง่ายดาย ทุกที่ทุกเวลา



เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้รับการยกย่องในฐานะแบรนด์ยอดนิยมอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคในหมวดผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้า ซึ่งเป็นการสำรวจโดยบริษัท เคเดนซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด และ Marketeer Research[5] โดยตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าของแอลจี ทั้งในด้านคุณภาพ เทคโนโลยีล่าสุด และประสิทธิภาพการใช้งานที่แอลจีนำเสนอให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ของผู้บริโภคชาวไทย และเป็นการตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำตัวจริงในวงการเครื่องซักผ้าไทยอย่างต่อเนื่องมากว่าสองทศวรรษ ทำให้ลูกค้าทุกคนมั่นใจได้ว่า จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัย และมีความสุขในการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าแอลจี ตามสโลแกนของเรา LG Life’s Good

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี 0-2878-5757 หรือ www.lg.com/th 

[1] ทดสอบโดยอินเตอร์เทค ในเดือนมีนาคม 2562 ตาม IEC 60456 : edition 5.0 โดยใช้ถังซักมาตรฐานความจุ 5 กิโลกรัมของ IEC (ครึ่งถัง) เปรียบเทียบระหว่างฟังก์ชั่น TurboWash39 (ของเครื่องซักผ้าแอลจีรุ่นใหม่ พร้อมเทคโนโลยี AI DD™) กับฟังก์ชั่น Cotton+TurboWash แบบดั้งเดิมของเครื่องซักผ้ารุ่น New Classic

[2] รับรองโดยสถาบัน BAF (British Allergy Foundation) ว่าสามารถขจัดสารก่อภูมิแพ้ได้ 99.9 เปอร์เซ็นต์ เช่น ไรฝุ่น, ฝุ่นขนาดเล็กในใยผ้า ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้หรือปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ

[3] ทดสอบโดยอินเตอร์เทค ว่ารอยยับบนผ้าลดลง 30 เปอร์เซ็นต์ หลังจากซักด้วยโปรแกรมเสริม Wrinkle Care ที่เลือกเพิ่มเติมจากโปรแกรมซักผ้าฝ้าย เปรียบเทียบกับการซักโดยไม่เลือกโปรแกรมเสริม Wrinkle Care

[4] เฉพาะเครื่องซักผ้ารุ่นที่เป็นระบบ Inverter Direct Drive

[5] ข้อมูลเพิ่มเติม: การสำรวจความคิดเห็นจากกลุ่มเป้าหมายที่เป็นชายและหญิงอายุระหว่าง 12-59 ปี จำนวน 4,000 คน จาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯและปริมณฑล ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม พ.ศ.2562 โดยสอบถามสถานการณ์และพฤติกรรมในการรับชมสื่อประเภทต่างๆ ของประชากรในประเทศ และสถานการณ์และพฤติกรรมในการเลือกซื้อและใช้งานสินค้าและบริการต่าง ๆ ตามกำหนด