Vivo เปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด Vivo X50 Pro 5G อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้ความมุ่งมั่นในการดีไซน์และนวัตกรรมที่คำนึงถึงผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง โดยสมาร์ตโฟนรุ่น Vivo X50 Pro 5G มาพร้อมกับเทคโนโลยีกล้องระดับมืออาชีพ เพื่อพร้อมปฏิวัติประสบการณ์ถ่ายภาพบนมือถือด้วยเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหว (Gimbal) โหมดกลางคืน การซูม และถ่ายภาพบุคคลสุดล้ำสมัย ผู้ใช้สมาร์ตโฟน Vivo X50 Pro 5G สามารถบันทึกภาพและวิดีโอคุณภาพสูงได้อย่างเสถียรในหลากหลายสถานการณ์ เปลี่ยนทุกภาพถ่ายให้เป็นผลงานชิ้นเอก ในด้านการดีไซน์ของ Vivo X50 Pro 5G นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากองค์ประกอบทางธรรมชาติและสุนทรียภาพแห่งอนาคตเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์สุดแอคทีฟของผู้ใช้ ด้วยความสามารถในการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ การออกแบบดีไซน์ที่สวยงาม และประสิทธิภาพการใช้งานอันราบรื่น Vivo X50 Pro 5G ได้ยกระดับของสมาร์ตโฟนไฮเอนด์รุ่นเรือธงขึ้นไปอีกขั้น
Vivo ได้รังสรรค์สมาร์ตโฟน X50 Pro 5G ขึ้นมาจากข้อมูลเชิงลึกด้านความต้องการของผู้บริโภค ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อมอบประสบการณ์ถ่ายภาพบนมือถือระดับมืออาชีพแก่ผู้ใช้ โดย Vivo เข้าใจผู้บริโภคในไทยเป็นอย่างดีว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ใช้มือถือและโซเชียลมีเดียมากที่สุดในโลก การเปิดตัว Vivo X50 Pro 5G ในตลาดต่างประเทศเป็นครั้งแรกในครั้งนี้ จึงตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคด้วยเสถียรภาพด้านการถ่ายรูป เลนส์กับเซ็นเซอร์ที่โดดเด่น และระบบกล้องเหนือชั้น ส่งต่อพลังสู่ผู้ใช้ให้บันทึกและแบ่งปันหลากหลายเรื่องราวในชีวิตได้อย่างมีสไตล์
ด้วยการพัฒนาเครือข่าย 5G อย่างรวดเร็วในประเทศไทยที่พร้อมใช้งานในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จาก 5G มากขึ้นทั้งในแง่ของความเร็วที่เหนือกว่า ความหน่วงในการส่งข้อมูลที่ต่ำ และความสามารถเชื่อมต่อระหว่างกันที่สูงขึ้น ด้วยสมาร์ตโฟน Vivo X50 Pro 5G ในมือคุณ Vivo หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานมือถือยุคใหม่ที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้มากขึ้น ช่วยให้ทุกคนเพลิดเพลินไปกับประโยชน์ของเทคโนโลยีล่าสุด ปลดปล่อยพลังทางความคิดสร้างสรรค์และผลิตภาพได้มากกว่าที่เคย
Vivo X50 Pro 5G ผสานรวมเทคโนโลยีการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ กล้องหลักของ X50 Pro 5G มาพร้อมกับระบบกล้อง Gimbal ชั้นนำของอุตสาหกรรมเพื่อลดการสั่นไหว ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพและวิดีโอที่ชัดขึ้นขณะกำลังเคลื่อนไหวหรือแม้ในเวลากลางคืน โมดูล Gimbal ขนาดเล็กในตัวของ X50 Pro 5G ถอดแบบมาจากเทคโนโลยี Gimbal ขนาดเต็มสำหรับมืออาชีพ โดยจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับการสั่นไหวเพื่อทำให้กล้องหลักเสถียรยิ่งขึ้น ระบบนี้ยังขยายองศาของการหมุนและพื้นที่ป้องกันการสั่นให้กว้างขึ้นเมื่อเทียบกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบอื่นที่เป็นที่นิยม ทำให้ได้ภาพที่คมชัดเป็นพิเศษ ฟีเจอร์ Gimbal Radar จะแสดงลูกบอลเคลื่อนไหวบนหน้าจอเพื่อบ่งบอกการเคลื่อนไหวของ Gimbal ช่วยให้ผู้ใช้ดูได้ว่าเฟรมภาพเสถียรแล้วหรือไม่ อัลกอริทึมของ Vivo จะช่วยลดภาพเบลอที่เกิดจากการเคลื่อนไหว พร้อมด้วยเซ็นเซอร์เฉพาะตัว และการโฟกัสติดตามแบบต่อเนื่อง ที่จะเพิ่มความคมชัดของภาพและวิดีโอขึ้นอีก
มือถือ Vivo X50 Pro 5G นับเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงด้านการถ่ายภาพที่แท้จริง โดย X50 Pro 5G มาพร้อมระบบกล้องที่พร้อมในทุกการใช้งาน ด้วยกล้องหน้า 32MP หนึ่งตัวและกล้องหลังสี่ตัว (กล้องหลัก 48MP, กล้องซูเปอร์ไวด์ 8MP, กล้องถ่ายภาพบุคคลระดับมืออาชีพ 13MP, และกล้องเทเลสโคปิค 5 เท่า 8MP) เลนส์เทเลสโคปิค 5 เท่าใน X50 Pro 5G ยังรองรับไฮเปอร์ซูม 60 เท่า เผยให้เห็นรายละเอียดของภาพถ่ายอันน่าทึ่ง
Vivo X50 Pro 5G ยังมาพร้อมซูเปอร์ไนท์โหมดและโหมดถ่ายภาพดวงดาว ทั้งสองโหมดนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพยามค่ำคืนได้อย่างสวยงามไม่ว่าจะในเมืองหรือนอกเมือง ส่วนมุมภาพซูเปอร์ไวด์ 120 องศา (108 องศาหลังจากปรับแก้ป้องกันภาพผิดเพี้ยน) และฟังก์ชันซูเปอร์มาโครจะช่วยเสริมการถ่ายภาพระดับมืออาชีพได้ในหลากหลายสถานการณ์ และโหมดถ่ายภาพบุคคลของ Vivo ซึ่งขับเคลื่อนด้วยอัลกอริทึมการมาสก์ 4 ชั้น จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถแยกวัตถุออกจากพื้นหลังและใช้เอฟเฟกต์แยกกันเพื่อผลลัพธ์ที่ละเอียดยิ่งขึ้น
ประสิทธิภาพลื่นไหลในดีไซน์สุดล้ำ
นอกเหนือจากความสามารถในการถ่ายภาพระดับมืออาชีพแล้ว Vivo X50 Pro 5G ยังมอบประสิทธิภาพระดับเรือธง รองรับ 5G ให้ผู้ใช้เชื่อมต่อออนไลน์ได้เร็วเป็นพิเศษด้วยความหน่วงต่ำ X50 Pro 5G ขับเคลื่อนโดยโปรเซสเซอร์ Qualcomm Snapdragon 765G เพื่อการประมวลผลที่รวดเร็วและทำงานหลากหลายพร้อมกันได้อย่างราบรื่น สมาร์ตโฟน Vivo X50 Pro 5G นี้มอบอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงถึง 90Hz เพื่อภาพที่คมชัด ไม่ว่าจะชมภาพยนตร์หรือเล่นเกมก็ลื่นไหลไม่มีสะดุด
ด้วยนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยการออกแบบของ Vivo สมาร์ตโฟน Vivo X50 Pro 5G สร้างขึ้นพร้อมหน้าจอยืดหยุ่นที่บางเบาและทนทานกว่าหน้าจอแบบเดิม โดย X50 Pro 5G ถือเป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟน 5G ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา เทคโนโลยี HDR 10+ จะแสดงผลที่สว่างสดใส กระจกแบบด้าน AG จะมอบสัมผัสนุ่มนวลละเอียดอ่อนในการใช้งาน และระบบกล้อง Gimbal ยังได้ออกแบบให้เป็นรูปดวงตา เพื่อเป็นองค์ประกอบของดีไซน์ด้านหลังอันเป็นเอกลักษณ์ของ Vivo X50 Pro 5G
Vivo X50 Pro 5G จะวางจำหน่ายวันที่ 8 กันยายน 2563 ในสีอัลฟาเกรย์ (Alpha Gray) ในราคา 24,999 บาทเท่านั้น
หูฟัง TWS Neo ของ Vivo เติมเต็ม X50 Pro 5G ด้วยประสบการณ์เสียงขั้นสุด
Vivo ยังได้เปิดตัวหูฟัง TWS Neo เพื่อมอบประสบการณ์เสียงคุณภาพสูงและตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงในทุกๆวัน หูฟังไร้สาย TWS Neo มีคอยล์เคลื่อนไหว 14.2 มม. ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ให้เสียงที่ทรงพลังและสมจริง และมีไดอะแฟรมคอมโพสิตที่ผลิตจากไบโอไฟเบอร์เพื่อเพิ่มรายละเอียดของเสียง
หูฟัง TWS Neo ออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้ และมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนด้วย AI เพื่อการสนทนาทางโทรศัพท์ที่ชัดเจนขึ้น พร้อมด้วยการควบคุมอัจฉริยะที่สั่งงานผ่านเสียงได้หลายรูปแบบ หูฟังขับเคลื่อนด้วย QCC3046 แพลตฟอร์ม TWS รุ่นที่ 4 จาก Qualcomm ซึ่งให้ความหน่วงต่ำ ความแม่นยำสูง และประสบการณ์การฟังที่เสถียร ตลอดจนเทคโนโลยี Bluetooth 5.2 ล่าสุดที่รับส่งได้ไกลสูงสุดถึง 10 เมตร คุณสมบัติขั้นสูงของหูฟัง TWS Neo พร้อมด้วยดีไซน์คลาสสิกและขนาดที่กะทัดรัดถือเป็นผลลัพธ์ของความทุ่มเทลงทุนด้านอุปกรณ์ไอโอทีของ Vivo ทั้งสมาร์ตโฟน X50 Pro 5G และหูฟัง TWS Neo แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Vivo ในการสร้างสรรค์อุปกรณ์ที่เน้นการออกแบบเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้
หูฟัง TWS Neo วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีทั้งหมด 2 สีคือ สีขาว Moonlight White และสีดำน้ำเงิน Starry Blue ให้ผู้ใช้งานได้เลือกตามสไตล์ของตน ในราคาเพียง 2,999 บาท
COMMENTS