Harman Kardon Aura Studio 3 ลำโพงบลูทูธรุ่นใหม่ที่มีดีไซน์โดดเด่นสวยล้ำ พัฒนาและปรับปรุงจากรุ่นเดิม รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth 4.2 และ Audio Cable แบบช่องต่อ 3.5mm จุดที่น่าสนใจมากที่สุดคือ รุ่นใหม่ไม่มีท่อเบสด้านบนแล้ว แก้ปัญหาฝุ่นหรืออะไรบางอย่างที่อาจจะหล่นลงไปแล้วไม่สามารถเอาออกมาได้ บวกกับแสงไฟที่ให้ความสบายตาในยามค่ำคืนผ่านโดมใส ๆ เมื่อเปิดเพลง สร้างความสุนทรีภายในบ้านได้เป็นอย่างดี ทั้งหมดนี้ มาพร้อมราคาเปิดตัวที่ 11,900 บาท
ยลโฉมดีไซน์
Aura Studio 3 มีเพียงสีเดียวคือสีดำ ครอบด้วยโดม Acrylic ใส ไม่มีท่อเบสที่เป็นรูด้านบน หมดปัญหาสิ่งสกปรกและสัตว์ตกหล่นลงไป ด้วยการที่ออกแบบเป็นโดมใส ทำให้วางโชว์ภายในห้องได้สวยงาม เข้ากันได้ดีกับเฟอร์นิเจอร์หรือการตกแต่งห้องในสไตล์ Modern Luxury
ไฟ Ambient Light สีขาว เคลื่อนไหวแบบนุ่ม ๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่นเคลิบเคลิ้มไปพร้อมกับเสียงเพลง สามารถเลือกเปิดปิดแสงไฟได้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนสีหรือรูปแบบการเคลื่อนไหวของทิศทางแสงได้ สะท้อนไลฟ์สไตล์ที่เรียบง่ายแต่ดูดีระดับพรีเมียม
Harman Kardon ออกแบบให้ลำโพง Aura Studio 3 กระจายเสียงได้รอบทิศ 360 องศา ซึ่งการใช้งานจริง เราสามารถบนโต๊ะหรือชั้นวางได้ โดยไม่ต้องวางไว้ใกล้ผนังเพื่อให้มีการสะท้อนเสียงย่านเบสอย่างรุ่น Onyx Studio 1-4 จึงวางโชว์อวดโฉมกลางห้องได้อย่างหรูหราสง่างาม และให้เสียงที่ดี ไม่ว่าจะฟังใกล้หรือไกลลำโพง
จุดเด่นของ Aura Studio 3 ที่หายากในลำโพงบลูทูธอื่นทั่วไป คือ มีลำโพง Subwoofer ยิงลงพื้นเหมือนกับ Subwoofer ที่มากับ Soundbar ของ Harman Kardon และ JBL หลายรุ่น จึงให้เบสที่ลงลึกและแผ่กระจายทั่วห้องในบริเวณกว้างอย่างเหลือเชื่อ หากวางในตำแหน่งดี ๆ บนพื้นห้องหรือพื้นโต๊ะที่ไม้แน่นหนา แม้ฟังอยู่ห่างจากลำโพงไกล 4-8 เมตร ก็ยังรู้สึกได้ถึงความสั่นสะเทือนย่าน Deep Bass ที่ลงลึกและแรงกระแทกที่ดีเยี่ยม
Aura Studio 3 ออกแบบให้ใช้งานภายในที่พักอาศัย เป็นลำโพงเสียงดีที่ใช้ตกแต่งประดับห้องได้ ไม่ได้ออกแบบให้พกพาใช้งานนอกสถานที่หรือกลางแจ้ง จึงไม่มีหูหิ้วและไม่มีแบตเตอรี่ภายในตัว หมดปัญหาความกังวลเรื่องแบตเตอรี่เสื่อม และการที่ใช้ไฟฟ้าจากเสียบปลั๊กอย่างเดียว ทำให้ได้กำลังขับที่มากเหลือเฟือแบบต่อเนื่อง
Aura Studio 3 ประกอบด้วยลำโพง Tweeter 6 ตัว ขนาด 40mm กระจายเสียงกลาง-แหลมรอบทิศทาง ด้วยกำลังขับ 15 วัตต์ x 2 (แบ่งเป็นซ้ายสามตัวและขวาสามตัว) กับลำโพง Subwoofer ยิงลงพื้น ขนาด 130mm หนึ่งตัว ด้วยกำลังขับ 100 วัตต์ ให้เสียงเบสที่ลงลึกถึง 45Hz ซึ่งหาได้ยากที่ลำโพงไร้สายแบบชิ้นเดียวจะทำได้ขนาดนี้ สรุปว่าแนวคิดการออกแบบ Aura Studio 3 ก็เสมือนเป็นลำโพง Subwoofer ไร้สายที่รวมไดรเวอร์ขับเสียงกลางแหลมยิงเสียงรอบทิศไว้ภายในตัวตู้ลำโพงชิ้นเดียวกันนั่นเอง
ทดสอบเสียง
หากยังไม่เคยฟังเสียง หลายคนอาจคิดว่า Harman Kardon Aura Studio 3 ที่มีไดรเวอร์ Subwoofer กับ Tweeter น่าจะเหมาะกับแนวเพลง Dance Party และการรับชมภาพยนตร์แอคชั่น มากกว่าการฟังเพลงแบบดนตรีสบาย ๆ ทั่วไป เพราะเน้นเสียงย่านเบสและแหลม ไม่ได้เน้นเสียงร้องแน่ ๆ
เมื่อได้ทดสอบกับเพลงหลายแนว กลายเป็นว่า Aura Studio 3 ให้เสียงร้องที่โปร่ง ฟังสบาย อิ่มหนา ชัดเจนและโดดเด่น ไม่ถอยหลบหลังชุดเครื่องดนตรีบนเวที เสมือนเดินเข้ามาร้องใกล้ผู้ฟังมากขึ้นเล็กน้อย
เสียงแหลมกรุ๊งกริ๊งถ่ายทอดรายละเอียดยิบย่อยได้ดีครบถ้วน เหมาะกับการเปิดเพลงคลอแบบฟังสบาย ฟังได้นาน ไม่บาดหู มิติเสียงโอบล้อมดี เวทีเสียงขนาดใหญ่ สมกับที่โฆษณาว่าเสียงรอบทิศทาง 360 องศา ฟังใกล้หรือไกล ฟังกลางห้องหรือมุมห้อง ก็ยังได้รับความไพเราะและชัดเจนสม่ำเสมอในทุกจุดฟัง ต่างจากรุ่นอื่นที่ควรฟังด้านหน้ามุมตรงจะได้รับคุณภาพเสียงที่ดีครบถ้วนตามหลักการของมุมกระจายเสียงจากลำโพงทั่วไป
Subwoofer ยิงลงพื้น ทำให้ไม่ว่าจะวางจุดใดของห้อง ก็รู้สึกได้ถึงเบสที่ลงได้ลึกในแบบนุ่มนวล แผ่ไปทั่วห้องในระยะไกล หากวางเข้ามุมห้อง จะสะท้อนจนสัมผัสได้ถึงแรงกระแทกที่มากขึ้น ยิ่งชัดเจนเมื่อทดสอบเสียงด้วยภาพยนตร์ที่มีฉากสั่นสะเทือนเยอะรวมทั้งเปิดเพลงแนวฮิปฮอป เบสมวลหนาและอิมแพคดี เบสกระชับเก็บตัวดี ไม่กลบเสียงย่านอื่น เปิดใช้ในห้องรับแขกขนาดใหญ่ได้สบาย รับรองได้ว่านั่งฟังจุดไหนก็รู้สึกได้ถึงพลังแรงกระแทกของ Deep Bass ทั่วห้อง อย่างไรก็ตาม เป็นเบสลูกใหญ่ในแบบที่นุ่มสบายหู ฟังได้นานโดยไม่รู้สึกว่ารำคาญ ไม่ใช่เบสที่หนักแบบดุเดือด
Aura Studio 3 เข้ากันได้ดีกับเพลงหลากหลายแนวแบบกลาง ๆ ใช้เชื่อมต่อกับทีวีเพื่อรับชมภาพยนตร์ได้ โดยให้เสียงที่คมชัดกระจายเสียงรอบทิศดีมาก เบสลึกและแรงกระแทกดีพอตัว
แนวเสียงแตกต่างจากตระกูล Onyx Studio ชัดเจน โดย Onyx Studio ให้เสียงแหลมที่ใสกระจ่าง ปลายแหลมไปได้ไกลมาก เบสลึกเหลือเชื่อแม้เปิดเพลงเบา ๆ เหมาะกับเพลงหลายแนว แต่จะโดดเด่นมากกับดนตรีสมัยใหม่ โดยเฉพาะเพลง Dance HipHop Pop R&B Pop ส่วนรุ่น Go Play Mini จะโดดเด่นในเรื่องของมิติเสียงกว้างและเสียงกลางที่หวานอิ่ม มาพร้อมเบสในระดับกลาง ๆ แนะนำว่าให้ทดลองฟังก่อน ทดสอบเสียงเทียบกันทั้งสามรุ่น ว่าเสียงจากสามสไตล์ที่แตกต่างกันมาก แบบไหนที่ถูกใจมากที่สุด
Aura Studio 3 ออกแบบเพื่อใช้งานภายในที่พักอาศัย แต่สำหรับเปิดเพลงริมสระน้ำ ก็พอใช้งานได้ เพราะมีจุดเด่นในเรื่องการกระจายเสียงรอบทิศทาง 360 องศา เพียงแต่เบสจะบางเบาลงมาก และต้องเสียบปลั๊กใช้งานเท่านั้น ซึ่งถ้าเลือกลำโพง JBL BoomBox 2 หรือ JBL Party Box 100 เพิ่มงบอีกเล็กน้อย จะตอบโจทย์มากกว่ากับการใช้งานทั้งในห้องและนอกห้องภายในบ้าน
COMMENTS