เคล็ดลับการใช้เครื่องอบผ้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเสื้อผ้าแห้งสะอาดและนุ่มฟู แม้ในฤดูฝน

ในช่วงฤดูฝนเช่นนี้ เครื่องอบผ้าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้เสื้อผ้าแห้งสะอาด ไร้กลิ่นอับชื้นได้โดยไม่ต้องง้อแสงแดด ช่วยให้ผู้บริโภคจัดสรรเวลาในการใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิตอลที่มีเวลาจำกัดในการทำงานบ้านรวมถึงการทำความสะอาดเสื้อผ้า แอลจีซึ่งมีความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณชีวิตของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น ตามสโลแกน “Life’s Good” จึงได้รวบรวมเคล็ดลับเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้งานเครื่องอบผ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเสื้อผ้าแห้งสะอาด นุ่มฟู และสวมใส่สบาย แม้ในวันที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ

1. ติดตั้งเครื่องอบผ้าโดยเว้นระยะห่างจากผนัง 30-50 ซม. เพื่อเว้นพื้นที่ให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ดี ป้องกันการเกิดปัญหาอุณหภูมิของเครื่องอบผ้าร้อนจัดเกินไปขณะทำงาน 

2. แยกผ้าต่างประเภทออกจากกัน เช่น ผ้าเนื้อบางและผ้าเนื้อหนา เนื่องจากระยะเวลาในการอบผ้าต่างกัน และใช้โปรแกรมอุณหภูมิความร้อนในการอบต่างกัน เช่น การอบผ้าเนื้อบางควรใช้อุณหภูมิความร้อนที่น้อยกว่าการอบผ้าเนื้อหนา เป็นต้น

3. ไม่ใส่ผ้าเยอะเกินไปจนแน่นถังอบ เพราะจะทำให้เครื่องอบผ้าทำงานหนักจนเกินไป และควรใส่ลงไปในเครื่องอบผ้าทีละชิ้นแทนที่จะใส่พร้อมกันในคราวเดียว เพื่อลดปัญหาผ้าพันกันระหว่างการอบผ้า

4. อ่านคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลผ้าบนฉลากของเสื้อผ้า ตรวจสอบฉลากคำแนะนำการดูแลผ้าว่าเหมาะสมกับการนำไปอบหรือไม่ เพื่อป้องกันการหดตัวหรือเกิดความเสียหายกับเสื้อผ้า โดยเฉพาะเนื้อผ้าที่มีความบอบบางเป็นพิเศษ เช่น ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ เป็นต้น

5. เลือกโปรแกรมให้เหมาะสมกับชนิดของผ้า นอกจากการแยกผ้าตามชนิดแล้ว ควรเลือกโปรแกรมการอบให้เหมาะสมกับชนิดผ้านั้นๆ เพื่อป้องกันการชำรุดหรือความเสียหายต่างๆ ที่เกิดจากระดับความร้อนที่ใช้ในการอบผ้า

6. ใช้ชั้นวาง Rack Dry ในการอบผ้าเนื้อบาง ซึ่งเป็นการอบผ้าด้วยการผึ่งเสื้อผ้าไว้บนชั้นวางที่เป็นพื้นราบโดยไม่ใช้การปั่น เหมาะแก่การอบผ้าที่มีผ้าเนื้อบาง เช่น ชุดชั้นใน เป็นต้น

อีกปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามคือการดูแลทำความสะอาดเครื่องอบผ้าอย่างสม่ำเสมอ นอกจากเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลเสื้อผ้าให้แห้งสะอาดและนุ่มฟูแล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น และต่ออายุการใช้งานในระยะยาวอีกด้วย โดยแอลจีได้รวบรวมวิธีทำความสะอาดเครื่องอบผ้าเพื่อการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนี้

1. ทำความสะอาดแผ่นกรองใยผ้าหลังใช้งาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดระยะเวลาและการใช้พลังงานในการอบผ้า 

2. เทน้ำในช่องเก็บน้ำทิ้งทุกครั้งหลังใช้งาน หรือเมื่อเครื่องมีสัญญาณไฟเตือนให้เทน้ำออก โดยควรเทน้ำในช่องเก็บน้ำออกภายในเวลา1 ชั่วโมง

3. เช็ดทำความสะอาดเซ็นเซอร์วัดความชื้น โดยใช้ฟองน้ำชนิดหยาบและหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุขัดถู เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการอบผ้าและลดการสะสมของตะกรันหินปูนบนผิวหน้าของเซ็นเซอร์

4. ทำความสะอาดตะแกรงช่องอากาศเย็น 3-4 ครั้งต่อปี เพื่อให้แน่ใจว่ามีการสะสมของใยผ้าหรือสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เกิดปัญหาในการหมุนเวียนของอากาศ หากมีฝุ่นหนา ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดแทน

เพื่อช่วยแก้ปัญหาผ้าไม่แห้งและมีกลิ่นอับในช่วงฤดูฝนนี้ เครื่องอบผ้าแอลจี DUAL Inverter Heat Pump™ เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี DUAL Inverter เพื่อประสิทธิภาพในการอบผ้าอย่างประหยัดพลังงานมากขึ้นและใช้เวลาน้อยลงกว่าเคย พร้อมโปรแกรม Allergy Care ที่สามารถขจัดสารก่อภูมิแพ้ในผ้า เช่น ไรฝุ่น ได้ถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์ โดยได้รับการรับรองโดยสถาบัน

ชั้นนำอย่างสถาบันโรคภูมิแพ้แห่งประเทศอังกฤษ (British Allergy Foundation) และการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น LG ThinQ ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถสั่งงาน ควบคุม และตรวจสอบการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าแอลจีผ่านสมาร์ทโฟนได้ทุกที่ทุกเวลา 

สำหรับเคล็ดลับเพิ่มเติมในการใช้งานเครื่องอบผ้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด กรุณาเยี่ยมชม https://www.youtube.com/watch?v=7-CbdkuR_eI สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี 0-2878-5757 หรือ www.lg.com/th