YouTrip ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลรองรับหลายสกุล (multi-currency wallet) ชั้นนำจากประเทศสิงคโปร์ ประกาศลงนามเป็นพันธมิตรกับ วีซ่าผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก ระยะเวลา 6 ปีเพื่อเดินหน้าขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มต้นที่ประเทศมาเลเซียและประเทศฟิลิปปินส์ ปัจจุบัน YouTrip เปิดให้บริการแล้วในประเทศสิงคโปร์และประเทศไทยโดยมียอดดาวน์โหลดการใช้งานมากกว่าหนึ่งล้านครั้ง การประกาศความร่วมมือกันในครั้งนี้เกิดขึ้นหนึ่งปีหลังจากการเปิดตัว YouTrip ในประเทศไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 โดยร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศที่มีผู้ใช้งานดิจิทัล แบงกิ้งมากกว่า 13.9 ล้านราย
แม้จะอยู่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 YouTrip ยังคงเดินหน้าบุกตลาดการใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศด้วยเรทที่ดีกว่าอย่างต่อเนื่อง และไม่นานมานี้ YouTrip ยังประสบความสำเร็จอีกขั้นด้วยการปรับกลยุทธ์มาเน้นการใช้จ่ายออนไลน์เป็นสกุลต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) และทำสถิติยอดการใช้จ่ายรายไตรมาสเพิ่มขึ้นสามเท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ยุคเฟื่องฟูของอีคอมเมิร์ซ และการฟื้นฟูการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ความร่วมมือกับ วีซ่า จะช่วยเสริมศักยภาพและความมุ่งมั่นของ YouTrip ในการมอบประสบการณ์การใช้จ่ายสกุลต่างประเทศไม่ว่าจะช้อปออนไลน์หรือเที่ยวต่างประเทศที่ดีที่สุดให้กับนักเดินทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคาดการณ์ว่าจะมียอดการจับจ่ายด้านการท่องเที่ยวมากถึง 541 ล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 2573 จากรายได้สุทธิที่เพิ่มมากขึ้นและการเดินทางข้ามประเทศที่สะดวกยิ่งขึ้น
นอกจากนี้จากการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปีของวีซ่า ยังเผยให้เห็นว่าผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความสนใจที่จะชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลโดยเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์คาดหวังว่าพวกเขาจะสามารถชำระเงินแบบไร้เงินสดได้เพิ่มมากขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า
เมื่อการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะเริ่มต้นจากการท่องเที่ยวในภูมิภาค จึงเป็นโอกาสอันดีแก่ YouTrip ในการเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมให้นักเดินทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศต่างๆ ซึ่งแตกต่างจากภูมิภาคอื่นอย่างยุโรปหรือสหรัฐอเมริกาที่มีสกุลเงินหลักเพียงสกุลเดียว รวมถึงความต้องการในการเดินทางและการใช้จ่ายในต่างประเทศที่อัดอั้นมานานแรมปีจะส่งเสริมให้ YouTrip สามารถเติบโตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งด้วยความพร้อมของวีซ่าที่มีเครือข่ายมากกว่า 70 ล้านร้านค้าทั่วโลกจะช่วยให้ YouTrip สามารถบรรลุเป้าหมายและช่วยให้นักเดินทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าถึงโซลูชั่นของการใช้จ่ายในต่างประเทศได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนสกุลเงินด้วยเรทที่ดีกว่า และการใช้จ่ายที่ไม่มีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน 2.5% ในกว่า 150 สกุลเงิน
ซีซีเลีย ชู ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ YouTrip กล่าวว่า “ความร่วมมือกับ วีซ่า จะช่วยให้เราสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆ ของการชำระเงินข้ามพรมแดน เรามีความตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งต่อโอกาสต่างๆในอนาคตข้างหน้า เพื่อให้บริการผู้บริโภคนับล้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งการนำเสนอโซลูชั่นที่มีศักยภาพอย่างที่พวกเขาคู่ควรจะได้รับ”
YouTrip มีแผนที่จะขยายการให้บริการไปยังประเทศมาเลเซียและประเทศฟิลิปปินส์เป็นลำดับต่อไปในอีก 6 - 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งทั้งสองประเทศถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยคาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวต่างประเทศที่จะเกิดขึ้นในปี 2564 ที่ 12.4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐสำหรับประเทศมาเลเซีย และ 12 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐสำหรับประเทศฟิลิปปินส์ นอกจากนี้มาเลเซียและฟิลิปปินส์ยังถือเป็นประเทศที่ยอมรับการชำระเงินแบบดิจิทัลที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมาเลเซียเพิ่มขึ้นจาก 17 เปอร์เซ็นต์ เป็น 40 เปอร์เซ็นต์ และฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นจาก 14 เปอร์เซ็นต์ เป็น 45 เปอร์เซ็นต์ การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในครั้งนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่ YouTrip จะได้นำเสนอบริการภายใต้แนวคิด “การใช้จ่ายที่ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง” ให้กลุ่มนักเดินทางยุคใหม่ที่นิยมใช้เทคโนโลยีในการท่องเที่ยว
“ในช่วงสองปีที่ผ่านมา YouTrip ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลรองรับหลายสกุลทั้งในประเทศสิงคโปร์และประเทศไทย ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่งของเราในการให้บริการผนวกกับนวัตกรรมด้านการชำระเงินของวีซ่า เราพร้อมที่จะขยายการให้บริการไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มต้นที่ประเทศมาเลเซียและประเทศฟิลิปปินส์เป็นอันดับแรก” เคลวิน แลม ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคของ YouTrip กล่าวเสริม
แมท วูด หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรดิจิทัลประจำเอเชียแปซิฟิค ของวีซ่า กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้ร่วมมือกับ YouTrip ในตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และภาคธุรกิจในการให้บริการโซลูชั่นการชำระเงินหลายสกุล ซึ่งเหมาะสมสำหรับการทำธุรกรรมแบบอีคอมเมิร์ซ และการเดินทางระหว่างประเทศ เรามุ่งมั่นที่จะมอบความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการทำธุรกรรมการเงินในรูปแบบดิจิทัลให้แก่ผู้บริโภคทั่วทั้งภูมิภาค”
COMMENTS