JBL TUNE 225TWS รุ่นพิเศษ Ghost Edition มีสองสี คือ สีแดงใส และสีดำใส ในครั้งนี้ NextTopBrand ขอรีวิวสีดำใส ซึ่งดูเข้ากันได้ดีกับ iPhone 12 ใส่เคสสีดำใส และลำโพง Harman Kardon SoundStick 4 สีดำใสเช่นเดียวกัน เมื่อวางเข้าชุดกัน ดูสวยลงตัวทีเดียว โดยหูฟัง TUNE 225TWS Ghost Edition ราคาเปิดตัว 4,390 บาท
ผลการทดสอบเสียง
- ไมโครโฟน - รับเสียงพูดได้ชัดเจนดีมาก ทดสอบทั้งจากการโทรคุยสนทนาและพูดบน Clubhouse ได้ระดับความดังที่เหมาะสม ผู้ฟังปลายทางรับรู้คำพูดได้ถูกต้องครบถ้วน แต่ไม่มีระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก (ANC)
- เสียงทุ้ม - เป็นหูฟังแบบ Earbud ที่ปรับปรุงให้ถ่ายทอดเสียงเบสออกมาได้ดีกว่า Earbud ทั่วไป รู้สึกได้ถึงพลังเบสและแรงกระแทก มวลแน่นหนาใช้ได้ ไม่น่าเชื่อว่า Earbud ก็สามารถรู้สึกได้ถึงเบสที่ลงลึก แต่แน่นอนว่าเบสยังไม่เยอะเท่าหูฟังแบบ In-ear
- เสียงกลาง - ชัดใสสะอาด โปร่ง ให้รายละเอียดครบถ้วน ฟังสบายหู มีมิติ
- เสียงแหลม - ปลายเสียงทอดไปได้ไกล ชัดใส ไม่บาดหู ฟังได้นานไม่รู้สึกรำคาญ
- เวทีเสียง - แนวโปร่งกว้าง เสียงร้องล้ำเข้ามาหาผู้ฟัง เครื่องดนตรีกระจายตัวห่าง ๆ ด้านหลัง ไม่กระจุกอยู่ตรงกลาง พอแยกแยะตำแหน่งได้
- การสนทนา - สวมใส่และสนทนาได้ยาวนาน ใส่ได้ต่อเนื่องหลายชั่วโมงโดยไม่อึดอัด ตอบโจทย์ผู้ที่เน้นสนทนามากพอ ๆ กับการฟังเพลง ไม่มีปัญหาเรื่องความดันอากาศในช่องหูแบบหูฟัง In-ear
สำหรับผู้ที่เคยใช้หูฟังแบบ In-ear ที่มีไมโครโฟน จะรู้ดีว่าในขณะที่ตัวเองพูดหรือเดิน จะได้ยินถึงการสั่นสะเทือนของตัวเราเองตลอดเวลา รู้สึกหูอื้อหรือได้ยินเสียงแบบอับทึบขณะพูดหรือมีการขยับในช่องปาก เป็นสิ่งที่น่ารำคาญอย่างมาก แต่ JBL TUNE 225TWS เป็นหูฟังแบบ Earbud ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานแบบเน้นการพูดสนทนาบ่อยครั้งหรือยาวนานตลอดวัน ได้ความรู้สึกที่โปร่งโล่งในขณะพูด ได้ยินเสียงตัวเอง ทำให้ควบคุมน้ำเสียงและระดับเสียงได้ง่าย หูฟังมีน้ำหนักเบา ใส่แล้วไม่เจ็บหู ทำให้ไม่รำคาญ สวมใส่แช่ไว้ได้นาน เพื่อไม่พลาดรับสายสำคัญ และเหมาะสำหรับการใช้งาน Clubhouse อย่างยิ่ง ไม่ว่าจะใช้ฟังอย่างเดียวหรือเป็นผู้พูดก็ตาม รวมถึงการใช้งานประชุมทางไกลออนไลน์ผ่าน Zoom, Teams, Bluejeans, Mi Talk หรือ WebEX
จุดเด่นที่น่าประทับใจ
- Pair กับสมาร์ทโฟนได้รวดเร็วมากด้วย Google Fast Pair เพียงแค่เปิดฝาเคส หยิบหูฟังออกมาก็เชื่อมต่อสำเร็จภายในเวลาประมาณ 2 วินาที
- หยิบใช้เพียงข้างเดียวหรือพร้อมกันสองข้างก็ได้
- พกพาสะดวก แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวันจากการชาร์จด้วยเคส
- หูฟังดีไซน์สวย สวมใส่สบาย ใส่ได้นานโดยไม่รู้สึกรำคาญ ไม่หลุดหรือหล่นได้ง่ายเกินไป
- การเชื่อมต่อเสถียรดีมาก ไม่หลุดเลยสักครั้ง รับส่งสัญญาณได้ไกลมาก ข้ามชั้นภายในบ้าน ก็ยังให้เสียงที่ชัดใสไม่มีสะดุด แม้ว่ามีสิ่งกีดขวางสัญญาณมากมาย
- ใช้ขั้วชาร์จแบบ USB Type-C ซึ่งอุปกรณ์รุ่นใหม่เป็นแบบนี้ทั้งหมดแล้ว ทนทานกว่า microUSB
- เคสสีดำใส สวยไม่ซ้ำใคร มองเห็นแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) และก้อนแบตเตอรี่ภายใน
- ไมโครโฟนรับเสียงได้ชัดเจนดีมาก ถ่ายทอดรายละเอียดไปถึงผู้ฟังปลายทางได้นุ่มนวลสมจริง
- ปุ่มกดรับสาย เป็นปุ่มกดจริง แม่นยำกว่าระบบสัมผัส
- มีสายชาร์จแถมมาให้ในกล่อง เนื่องจากผู้ใช้ iPhone ส่วนใหญ่อาจยังไม่มีสายชาร์จ USB Type-C
- เสียงดี ฟังสนุก มิติเสียงดี มีเบสพอตัวที่รู้สึกได้ ถือคุ้มค่าสำหรับการลงทุน
ข้อสังเกต
- ต้องตัดสินใจเลือกระหว่างเน้นฟังเพลงเป็นหลัก หรือใช้สนทนาเป็นหลัก หากเน้นฟังเพลง เน้นเบสลึก แรงกระแทกเยอะ ต้องเลือกหูฟัง True Wireless แบบ In-ear แต่หากเน้นพูดสนทนาหรือใช้รับสายบ่อยครั้งตลอดวัน ต้องเลือกหูฟัง True Wireless แบบ Earbud ซึ่ง JBL TUNE 225TWS เป็นหูฟังที่ตอบโจทย์สำหรับการสนทนาได้ดีมาก ลงตัวในทุกด้าน ให้เสียงเบสที่ลงลึกและเยอะกว่าคู่แข่งทุกรายในตลาด เสียงกลางกับเสียงแหลมได้แนวโปร่งชัดใสมีมิติ แต่ย่านเสียงเบสยังสู้หูฟังแบบ In-ear ไม่ได้
- ไมโครโฟนอยู่ที่หูฟังข้างขวา เมื่อใช้งานในโหมดสเตอริโอ
สเปก
- Dynamic driver ขนาด ใหญ่ 12mm เป็นหูฟังแบบ Earbud ให้แก้จุดด้อยเรื่องเสียงเบสได้ดี
- ตอบสนองย่านความถี่เสียง 20Hz – 20kHz
- ความไว 105dB SPL
- Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0 ดีเลย์เพียงเล็กน้อย
- แบตเตอรี่ชนิด Lithium-ion ที่ตัวหูฟัง 22mAh / 3.85V และที่เคสชาร์จ 410mAh / 3.85V
- ชาร์จเต็มภายในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง
- เล่นเพลงต่อเนื่องได้ยาวนานสูงสุด 5 ชั่วโมง รวมกับการชาร์จเพิ่มจากเคสเป็น 25 ชั่วโมง
- น้ำหนักเบาเพียง 57 กรัม
COMMENTS