JBL Live Pro+ TWS หูฟัง True Wireless แบบ In-Ear รุ่นใหม่ล่าสุด เป็นตัวท็อปสุดจากตระกูล Live Series ที่ตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีเยี่ยมด้วยไมโครโฟน 3 ตัว วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 6,990 บาท ได้รับรางวัล Best of Innovation Honoree จากงาน CES® 2021 Innovation Awards การันตีถึงความยอดเยี่ยม ได้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมทั้งการฟังเพลงและสนทนาอย่างแน่นอน
JBL Live Pro+ TWS มีให้เลือก 3 สี คือสีขาว, สีชมพู และสีเบจที่ได้นำมารีวิวในครั้งนี้ ภายในกล่องแถมจุกหูฟังมาให้ถึง 5 ขนาด พร้อมสายชาร์จแบบ USB-C สีส้ม ที่สวยงามและพกพาได้สะดวก
จุดเด่นที่น่าสนใจของ JBL Live Pro+ TWS
แตะ 2 ครั้ง = Next song
แตะ 3 ครั้ง = Previous song
หูฟังข้างซ้าย
- สไตล์เสียง JBL Signature Sound คมชัดจัดจ้าน มิติกว้างสมจริง และเบสหนัก ฟังสนุกทุกจังหวะ
- ไมโครโฟนมากถึง 3 ตัว รับเสียงได้คมชัด ตัดเสียงรอบข้างได้ดียิ่งขึ้นด้วย Adaptive Noise Cancelling ระบบตัดเสียงรบกวนภายนอกแบบปรับได้
- Smart Ambient ช่วยให้พูดคุยและรับฟังเสียงรอบข้างได้ชัดเจนเสมือนว่าไม่ได้สวมหูฟัง ไม่ต้องถอดหูฟังออกเพื่อสื่อสารหรือฟังเสียงแวดล้อมภายนอก
- Dual Connect+ รองรับการเชื่อมต่อแบบแยกอิสระซ้ายขวา
- Driver ขับเสียงขนาด 11mm
- Bluetooth 5.0 เชื่อมต่อได้อย่างมีเสถียรภาพ
- Google Fast Pair เชื่อมต่อได้รวดเร็วแบบอัตโนมัติทันทีที่เปิดฝาเคสและหยิบหูฟังออกมา
- รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Google Assistant และ Amazon Alexa
- หยุดเล่นเพลงอัตโนมัติเมื่อถอดหูฟังออกจากหู
- สั่งงานด้วยระบบสัมผัสที่ก้านหูฟัง
หูฟังข้างขวา
แตะ 1 ครั้ง = Play / Pauseแตะ 2 ครั้ง = Next song
แตะ 3 ครั้ง = Previous song
หูฟังข้างซ้าย
แตะ 1 ครั้ง = ANC
แตะ 1 ครั้ง = Ambient Aware
แตะ 2 ครั้ง = TalkThru on/off
หูฟังทั้งสองข้าง
แตะ 2 ครั้ง = รับสาย / วางสาย
แตะแช่ = ควบคุมไมโครโฟนและเรียกใช้ระบบสั่งงานด้วยเสียง
เปิดเพลงบน Apple Music ทดสอบฟังเพลงด้วยความดังประมาณ 50-55% ก็ได้ระดับความดังมาตรฐาน ได้ยินรายละเอียดเสียงครบ ในขณะที่หูฟังบางรุ่นจะต้องเร่งความดังไปถึง 70-85% จึงจะดังระดับมาตรฐาน
JBL Live Pro+ TWS ไม่จำเป็นต้องเปิดใช้ EQ ก็ให้เสียงเบสที่หนักแน่นทรงพลัง ลงลึกมาก แรงปะทะดีมาก เสียงร้องชัดเจนมาก ถอยห่างเล็กน้อย ค่อนข้างใสเคลียร์ รายละเอียดของเสียงย่านแหลม ถ่ายทอดออกมาได้ดีพอสมควร ใช้ EQ ยกเพิ่มเสียงแหลมย่านปลายสักนิด ถือว่าลงตัวพอดีเลย เวทีเสียงกว้างปานกลาง รู้สึกได้ถึงความกว้างในแนวหน้ากระดานมากกว่ามิติในแนวลึก
แตะ 1 ครั้ง = Ambient Aware
แตะ 2 ครั้ง = TalkThru on/off
หูฟังทั้งสองข้าง
แตะ 2 ครั้ง = รับสาย / วางสาย
แตะแช่ = ควบคุมไมโครโฟนและเรียกใช้ระบบสั่งงานด้วยเสียง
- ปรับแต่ง EQ ได้อิสระหลายย่านความถี่ บนแอปพลิเคชั่น My JBL Headphone
- กันน้ำในระดับ IPX4
- เคสหูฟังรองรับการชาร์จไร้สาย Qi หรือชาร์จด้วยสายชาร์จ USB-C
- แบตเตอรี่ภายในตัวหูฟัง ใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุด 7 ชั่วโมง รวมการชาร์จเพิ่มจากเคส ทำให้ใช้งานได้นานสูงสุด 28 ชั่วโมง
- ราคา 6,990 บาท สั่งซื้อได้ที่ https://bit.ly/3fEIaR7 จัดส่งฟรี มีรับประกันสินค้า 15 เดือน (รับประกันปกติ 1 ปี + ลงทะเบียนรับประกันเพิ่ม 3 เดือน)
ทดสอบเสียง
เปิดเพลงบน Apple Music ทดสอบฟังเพลงด้วยความดังประมาณ 50-55% ก็ได้ระดับความดังมาตรฐาน ได้ยินรายละเอียดเสียงครบ ในขณะที่หูฟังบางรุ่นจะต้องเร่งความดังไปถึง 70-85% จึงจะดังระดับมาตรฐาน
JBL Live Pro+ TWS ไม่จำเป็นต้องเปิดใช้ EQ ก็ให้เสียงเบสที่หนักแน่นทรงพลัง ลงลึกมาก แรงปะทะดีมาก เสียงร้องชัดเจนมาก ถอยห่างเล็กน้อย ค่อนข้างใสเคลียร์ รายละเอียดของเสียงย่านแหลม ถ่ายทอดออกมาได้ดีพอสมควร ใช้ EQ ยกเพิ่มเสียงแหลมย่านปลายสักนิด ถือว่าลงตัวพอดีเลย เวทีเสียงกว้างปานกลาง รู้สึกได้ถึงความกว้างในแนวหน้ากระดานมากกว่ามิติในแนวลึก
ลองใช้ EQ ยกระดับเสียงในย่านความถี่เฉพาะปลายเสียงแหลมและเบส Deep Bass ยิ่งเพิ่มความสนุกสนานเมื่อฟังเพลงสมัยใหม่ โดยเฉพาะแนว Hip-Hop และ EDM เบสลงลึกและแผ่กระจายไปไกล เสมือนฟังด้วยลำโพงคู่หน้าที่มีซับวูฟเฟอร์ไดรเวอร์ใหญ่ 12 นิ้วขนาบอีก 1-2 คู่ ในขณะที่เสียงร้องและเสียงแหลมย่านปลาย ก็ยังสร้างความไพเราะได้ดีเช่นเดิม เป็นแนวเสียงสไตล์ JBL แบบที่คุ้นเคยดีในมินิคอนเสิร์ตหรือในผับ
ระบบตัดเสียงรบกวนภายนอกหรือ ANC นั้น ทำได้ดีมาก ตัดได้เงียบสนิท ไม่ทำให้รู้สึกหูอื้อ แต่ที่ชอบที่สุดและเปิดใช้งานเกือบตลอดเวลาก็คือฟีเจอร์ Ambient Aware ที่ทำให้รับฟังเสียงภายนอกรอบข้างได้ พร้อมกับฟังเพลงได้โดยยังได้คุณภาพเสียงเพลงที่ดีครบถ้วน ไม่ต้องเพิ่มระดับเสียง และสามารถพูดคุยสนทนาได้เหมือนไม่ได้สวมหูฟังอยู่ ไม่รู้สึกอึดอัดหรือมีอะไรมาอุดหูขณะพูดแบบที่หลายคนไม่ชอบเมื่อสวมใส่หูฟัง In-Ear ทั่วไป ทำให้เป็นหูฟังที่เหมาะสมทั้งฟังเพลงและสนทนาประชุมออนไลน์ในตัวเดียวกัน ไม่ต้องแยกหูฟัง In-Ear สำหรับฟังเพลง กับหูฟัง Earbud อีกตัวสำหรับสนทนาประชุมอีกต่อไป
การสวมใส่
เป็นหูฟังทรูไวร์เลสที่มีก้านจับ ทำให้หยิบออกมาจากเคสได้ง่าย สวมใส่เข้าหูได้ง่าย จุกเข้าไปแล้วบิดล็อกเล็กน้อย ก็จะแน่นกระชับพอดีหู ใส่ได้นานโดยไม่รู้สึกรำคาญ ไม่รู้สึกอึดอัดหรืออับทึบ ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องความดันอากาศในรูหู
การสั่งงานด้วยระบบสัมผัส
การตอบสนองของการสั่งงานด้วยการสัมผัสบริเวณก้านหูฟัง มีความแม่นยำดี ซึ่งในส่วนนี้สามารถปรับเปลี่ยนหรือตั้งค่าได้จากแอปพลิเคชั่น หรือจะปิดไปเลยก็ได้ ป้องกันการแตะโดนโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็สามารถแตะเพื่อรับสายโทรเข้าได้ตามปกติ
สรุป
หลังจากที่ทดสอบใช้งาน JBL Live Pro+ TWS มาหลายวัน ยอมรับเลยว่าระบบ ANC สามารถตัดเสียงลมและเสียงรบกวนรอบข้างได้เงียบสนิทจริง ที่ชื่นชอบมากคือ Smart Ambient ที่สามารถรับฟังเสียงรอบข้างในระยะใกล้ได้ชัดเจนโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก ได้ยินเสียงและพูดคุยกับคนข้าง ๆ ได้เหมือนไม่ได้ใส่หูฟัง ในขณะที่ยังสามารถฟังเพลงได้คุณภาพเสียงที่ดีแบบหูฟัง In-Ear ไม่มีเสียงลม ไม่มีเสียงสะเทือนจากการขยับตัว พูดเปล่งเสียงโดยหูไม่อื้อ ไม่อึดอัดหู ไม่เกิดแรงดันอากาศอัดแน่นในรูหู รู้สึกใส่สบายและพูดสะดวกเหมือนใส่หูฟัง Earbud แต่ได้เสียงเบสที่ลงลึก แรงปะทะดีเยี่ยมตามสไตล์ของหูฟัง In-Ear
แนวเสียงที่เน้นเบสลงลึกในย่าน Deep Bass เป็นพิเศษ ปลายเสียงแหลมที่คมจัดจ้าน เหมือนปรับจูนให้ Boost ทั้งสองย่านเป็น EQ รูปตัว U มาแล้วโดยไม่จำเป็นต้องเปิดใช้ EQ บนแอปพลิเคชั่นก็ได้ เสียงเบสย่าน Upper Bass และเสียงร้อง ถือว่าลงตัวกำลังดี น่าจะเป็นแนวเสียงของหูฟังที่หลายคนชื่นชอบ
เมื่อเทียบกับหูฟัง TWS แบบ In-Ear ที่มี ANC แบรนด์อื่นในตลาด มักจะตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ไม่มากนัก ใส่แล้วรู้สึกอึดอัด อุดอู้ ใส่นานไม่ได้ ใส่แล้วพูดสนทนาไม่สะดวก บวกกับแนวเสียงที่เน้นเบสในย่าน Upper Bass (โดยเฉพาะเสียงกลองชุด) เสียงแหลมไม่ค่อยเคลียร์ใส เน้นเสียงพูดคมชัดมากกว่า จึงไม่เหมาะสมทั้งสำหรับกับการฟังเพลงและการคุยสนทนา แต่ JBL Live Pro+ TWS นั้นเป็นรุ่นท็อปที่ทำได้ดีทั้งสองอย่าง ฟังเพลงได้สนุกสนานมาก ๆ ตามเอกลักษณ์ JBL Signature Sound และใช้คุยสนทนาได้ดีเยี่ยม ไม่อึดอัด เหมือนไม่มีอะไรจุกแน่นในรูหูเลย จึงเป็นหูฟังที่ดีมากที่สุดรุ่นหนึ่งตลาด ในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งอย่างรุ่นท็อปของ Sony และ Bose ที่ครั้งนี้ เป็นการท้าชนที่สมเนื้อสมเนื้อ
ข้อสังเกต คงมีเพียงเรื่องเสียงหน่วงเล็กน้อยเมื่อนำไปใช้เล่นเกม และมิติเสียงที่น่าจะกว้างกว่านี้อีก
สรุปคะแนนจากการทดสอบใช้งานหูฟัง JBL Live Pro+ TWS
- 7 / 10 - Soundstage
- 10 / 10 - Deep Bass
- 9 / 10 - Upper Bass
- 9 / 10 - Vocal
- 8.5 / 10 - Treble
- 9.5 / 10 - ANC & Ambient
- 8 / 10 - Phone calls
- 9 / 10 - Stable connection
- 10 / 10 - Comfortable
- 9 / 10 - Battery life
- 8 / 10 - Latency
- 9.5 / 10 - Design
- 10 / 10 - Features
- 8 / 10 Price & Value
COMMENTS