1. ว่าด้วยเรื่องของเทคโนโลยี 6G
ในยุคที่ปัจจุบันโลกเข้าสู่ยุค 5G โนเกียเองก็ได้เดินหน้ากรุยทางสู่ยุคใหม่ของเทคโนโลยีระบบสื่อสารเคลื่อนที่อย่าง 6G ที่หลอมรวมโลกทางกายภาพ ดิจิทัล และมนุษย์เข้าด้วยกันเพื่อนำพาพวกเราเข้าสู่ประสบการณ์เหนือจินตนาการที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ที่ศูนย์วิจัยระดับรางวัลอย่าง Nokia Bell Labs เผยว่ามีสาขาด้านเทคโนโลยีอยู่ 6 สาขาที่จะขับเคลื่อน 6G ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบคอมพิวเตอร์ที่เรียนรู้ด้วยตัวเอง (machine learning) ย่านความถี่ (spectrum bands) เครือข่ายประสาทสัมผัส (sensory networks) ระบบเครือข่ายแบบอัตโนมัติ (extreme network) สถาปัตยกรรมเครือข่ายใหม่ (new network architectures) และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ
เจาะลึกลงไปถึงความพร้อมของโนเกียในการรองรับ 6G นั้น มร. นิฌาน ภัทรา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และเทคโนโลยี ของโนเกีย กล่าวเน้นย้ำถึงวิวัฒนาการและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านเครือข่ายที่เปลี่ยนวิธีการที่เราใช้และมีประสบการณ์กับอินเตอร์เน็ต โดยเขาได้อธิบายเกี่ยวกับระบบที่จะปรับระดับขีดความสามารถของมนุษย์ (Human augmentation) และการผสานระบบดิจิทัลและกายภาพ ซึ่งเป็นสองปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันปริมาณการใช้ข้อมูลและก่อให้เกิดวิวัฒนาการด้านเครือข่ายซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือที่มากขึ้นกว่าเดิมในส่วนของผู้นำทางเทคโนโลยีทั้งหลาย
2. การเพิ่มรายได้ใหม่ให้กับสนามกีฬาด้วย 5G
โนเกีย อธิบายถึงการเชื่อมต่อ 5G ว่าช่วยให้ผู้ชมและผู้คนทั้งหลายในสนามกีฬาเชื่อมต่อกันได้ตลอดการถ่ายทอดสด ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตหรือการแข่งขันกีฬา เทคโนโลยี 5G นำเสนอการเชื่อมต่อที่มีเวลาหน่วงต่ำและความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งมันไม่เพียงแต่ยกระดับประสบการณ์ให้กับผู้ชมภายในสนามกีฬาเท่านั้น หากยังเปิดโอกาสให้กับผู้ที่รับชมอยู่ทางบ้านเสมือนได้ร่วมในกิจกรรมนั้นจริง ๆ ดังนั้น 5G จึงเป็นตัวแปรสำคัญในอุตสาหกรรมบันเทิงและกีฬาที่เป็นผลสืบเนื่องจากโรคระบาดที่แพร่ไปทั่วโลกในเรื่องของโอกาสในการสร้างรายได้
3. V3C - เทคโนโลยีที่พลิกโฉมการเสพเนื้อหาวิดีโอแห่งอนาคต
โนเกีย สาธิตให้เห็นวิธีการที่ Visual Volumetric Video-based Coding (V3C) จะเปลี่ยนรูปแบบการรับชมวิดีโอของเราไปอย่างสิ้นเชิงได้อย่างไร ด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้พร้อมกับจุดรับสัญญาณหลัก (mainstream reception) สำหรับ AR และ VR ที่ไม่เพียงเอื้อให้คนสามารถชมเนื้อหาวิดีโอได้เท่านั้น แต่ยังสามารถเชื่อมโยงตัวเองเข้าไปเสมือนอยู่ในเนื้อหานั้นเองด้วย สิ่งนี้จะเปลี่ยนรูปแบบประสบการณ์ในการรับชมเนื้อหาที่มองเห็นด้วยตาให้กับผู้รับชม ไม่ว่าจะเป็นรายการสตรีมมิ่ง การแข่งขันแบบถ่ายทอดสด หรือแม้แต่การชมงานศิลปะที่พิพิธภัณฑ์ก็ตาม
4. รายงานข่าวกรองด้านภัยคุกคามของโนเกีย – การโจรกรรมด้านการเงินผ่านมัลแวร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะโมบายแบงค์กิ้งเติบโต
รายงานข่าวกรองภัยคุกคามของโนเกีย (Nokia Threat Intelligence Report) ในปี 2564 ที่เปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ระบุว่า ภัยคุกคามมัลแวร์แบงค์กิ้งได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากผู้คนหันมาใช้โมบายแบงค์กิ้งบนสมาร์ตโฟนกันมากขึ้น ซึ่งอ้างอิงข้อมูลที่รวบรวมจากเครือข่ายปริมาณการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ติดตามการใช้ของเครื่องสมาร์ตโฟนมากกว่า 200 ล้านเครื่องทั่วโลก ยังแสดงให้เห็นว่า 80% ของโทรจันโมบายแบงค์กิ้งที่เพิ่มขึ้นพุ่งเป้าไปที่การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ข้อมูลบัตรเครดิต และข้อความ sms ที่ปรากฏรหัสผ่านสำหรับใช้งานครั้งเดียว (OTP)
5. โนเกีย เรียกร้องให้เห็นความสำคัญของการขับเคลื่อนดิจิทัลไลเซชั่นและพลังงานสีเขียว โดยตั้งเป้าที่จะเห็นการใช้พลังงานไฟฟ้าสีเขียวภายในปี 2568
สืบเนื่องจากการเข้าร่วมประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ คอป 26 ที่จัดขึ้นในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ โนเกียได้ย้ำให้เห็นถึงพันธกิจขององค์กรที่จะใช้พลังงานที่สามารถทดแทนได้กับสถานประกอบการณ์ของโนเกียทุกแห่งภายในปี 2568 ในการรณรงค์ให้สังคมโลกก้าวผ่านช่วงดิจิทัลไลเซชั่นเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (net zero emissions) นั้น มร.เป็กก้า ลุนด์มาร์ก ประธานและซีอีโอของโนเกีย อธิบายว่า 5G และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างอุตสาหกรรมอื่นๆให้มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น
COMMENTS