J&T Express เตรียมสร้างสวนอุตสาหกรรม Logistics อัจฉริยะ ณ ซาอุดีอาระเบีย

เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประกาศจัดตั้งสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย โดยบริษัทฯ จะลงทุนสร้างสวนอุตสาหกรรมโลจิสติกส์อัจฉริยะ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับผู้แทนรัฐบาลราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียเรียบร้อยแล้ว โดยการเปิดเผยครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างการประชุม LEAP ซึ่งเป็นเวทีเสวนาด้านเทคโนโลยีระดับโลก ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

สำหรับสวนอุตสาหกรรมโลจิสติกส์อัจฉริยะแห่งใหม่นี้ ประกอบไปด้วยศูนย์คัดแยกพัสดุระดับเวิลด์คลาส ระบบจัดการคลังสินค้าอัตโนมัติ คลังขนส่งสินค้าทางอากาศ สวนอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซและสวนอุตสาหกรรมสมัยใหม่

ในช่วง 10 ปีต่อจากนี้ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส มีพันธกิจต่อราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในการฝึกอบรมบุคลากรมืออาชีพทางด้านโลจิสติกส์ รวมทั้งลงทุนเทคโนโลยีขั้นสูงในโครงสร้างขั้นพื้นฐานทั้งทางด้านซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ เพื่อให้ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียเป็นหนึ่งในศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับโลก และเป็นศูนย์ยุทธศาสตร์การดำเนินการสำหรับตลาดทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ

ทั้งนี้ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส มุ่งหวังที่จะสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และสร้างความเติบโตที่แข็งแกร่งให้แก่ภาคการค้าปลีกและภาคการผลิต โดยมีเป้าหมายให้ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เป็นประตูอันสำคัญที่เชื่อมเอเชีย ยุโรป และแอฟริกาเข้าด้วยกัน ทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนช่วยให้ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียบรรลุแผนพัฒนาวิชัน 2030 (Vision 2030) ที่ตั้งไว้ โดยในระยะเริ่มต้น รัฐบาลราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียจะสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น และนโยบายสนับสนุน เพื่อขับเคลื่อนภาพรวมการพัฒนาโลจิสติกส์ และการค้าภายในภูมิภาค

นายบรูซ หลิว (MR. BRUCE LIU) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย กล่าวว่า เรามีความยินดี ที่เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ได้พัฒนาสวนอุตสาหกรรมแห่งใหม่ขึ้นในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจะช่วยให้การบริการลูกค้า และคู่ค้าเป็นไปด้วยดียิ่งขึ้น นับเป็นอีกหนึ่งจุดมุ่งหมายที่สำคัญขององค์กร สำหรับกลยุทธ์การรุกตลาดโลกในภาพรวม

“การขยายตัวของเครือข่าย และเงินทุนของเรา ภายใต้แนวทางการบริหารจัดการตลาดระหว่างประเทศเช่นนี้ จะช่วยให้เราได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มีค่า พร้อมกับทรัพยากรที่มากขึ้นในการดูแลลูกค้าทั่วโลก นอกจากนี้เราจะใช้จุดแข็งของเรา ขยายการลงทุนในประเทศไทย และส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่ยั่งยืนในประเทศไทยด้วย”

ทั้งนี้ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส เริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ในเดือนมีนาคม 2562 จนถึงปัจจุบันได้กลายเป็นผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนรายใหญ่ 1 ใน 3 ของประเทศ โดยนับแต่ปี 2564 บริษัทฯ จัดตั้งสาขามากกว่า 6,000 สาขา ประสบความสำเร็จในการให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วทั้งประเทศ และเพื่อยกระดับประสิทธิภาพให้สูงสุด บริษัทฯ ได้ปรับปรุงอุปกรณ์คลังสินค้าระบบอัตโนมัติ มาใช้เทคโนโลยีขั้นสูงสุดที่มีในตลาด

โดยในอนาคตบริษัทฯ วางแผนขยายเครือข่ายให้เข้มข้นครอบคลุม เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น พร้อมกับพัฒนาการบริการแบบ “ดอร์ ทู ดอร์” เข้ารับพัสดุถึงหน้าบ้าน ให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งหมดภายในปี 2565 นี้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้การบริการของเจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มีการบริการที่สะดวกมากขึ้น และมีทางเลือกการบริการที่หลากหลายภายในปีใหม่นี้ เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้บริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าของเรา

“จากนี้ไป เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส จะลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นแนวทางของผู้บริโภค และความต้องการของตลาด เพื่อส่งมอบการบริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าและคู่ค้า และสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทย ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ระดับโลก ที่จะเชื่อมโลกไว้ด้วยกัน ด้วยประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และประโยชน์ทางด้านโลจิสติกส์แก่ทุก ๆ คน”