รีวิว Amazfit Bip 3 จอใหญ่ ฟีเจอร์จัดเต็ม ในราคาเพียง 1,290 บาท

Amazfit Bip Series เป็น Smartwatch ระดับเริ่มต้นที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก ด้วยราคาเพียง 1 พันกว่าบาท เป็นเจ้าของได้ง่าย ได้ความคุ้มค่าด้วยประสิทธิภาพที่เพียงพอกับการใช้ในชีวิตประจำวันของคนรักสุขภาพ และก็มีผู้ใช้หลายคนที่อัพเกรดจาก Smartband ที่คล้ายกำไลข้อมือ มาใช้ Smartwatch ในระดับเริ่มต้น ราคาเพิ่มขึ้นเพียงไม่กี่ร้อยบาท แต่ได้หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น แสดงผลข้อมูลด้านสุขภาพได้ครบถ้วน ชาร์จไฟได้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ต้องถอดออกจากสายออกมาชาร์จข้างนอก จึงทำให้ยุคนี้ Smartwatch ได้รับความนิยมสูงมาก แทนที่ Smartband ที่เริ่มหายไปจากตลาด

Amazfit Bip 3 รุ่นใหม่ได้รับการอัพเกรดให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จอภาพมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 1.69 นิ้ว แสดงผลได้ใหญ่เต็มตา แสดงสีสันได้สว่างสวยมุมมองกว้างกว่า Bip รุ่นเก่า มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้ ได้แก่ วัด SpO2 ในเลือด, วัดความเครียด, วัด Heart Rate, กันน้ำ และแบตเตอรี่ใช้ได้ยาวนานเกินสัปดาห์ ทั้งหมดนี้ในราคาเปิดตัว 1,290 บาท และยังมีส่วนลดเพิ่มเติมจาก Shopee ได้อีกด้วย

Amazfit เป็นแบรนด์ดังทางด้าน Wareable Gadget ที่ประสบความสำเร็จมาก มีผลิตภัณฑ์มากมายทั้ง Smartband, Smartwatch, หูฟังไร้สายแบบ TWS, เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิทัล ล่าสุดต่อยอดผลิตลู่วิ่งอัจฉริยะเอาใจคนรักสุขภาพจริงจัง โดยสินค้าภายใต้แบรนด์ Amazfit จะใช้แอปพลิเคชั่นตัวเดียวกัน คือ Zepp เพื่อเก็บข้อมูลและวิเคราะห์สุขภาพของผู้ใช้ ทั้งน้ำหนัก การออกกำลังกาย การนอนหลับ การเต้นของหัวใจ ความเครียด และอื่น ๆ เพื่อประเมินสุขภาพโดยรวม จุดที่น่าสนใจก็คือ Amazfit Bip Series ใช้แอปพลิเคชั่น Zepp เช่นเดียวกับ Smartwatch รุ่นระดับบนของ Amazfit ฟีเจอร์หลายอย่างที่มีในรุ่นระดับบน ราคาสูง ก็เริ่มทยอยใส่เข้ามาในรุ่นเริ่มต้นอย่าง Bip 3 แล้ว ในอนาคตเมื่อผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Amazfit รุ่นระดับกลางหรือบน ข้อมูลสุขภาพเดิมก็ใช้อ้างอิงต่อยอดได้ กลับมาดูย้อนหลังได้ว่า สุขภาพโดยรวมและการออกกำลังกายดีขึ้นอย่างไรบ้าง ซึ่งการที่แบรนด์มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่องและครองใจผู้ใช้ทุกระดับ ก็มีส่วนในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ใช้ตื่นตัวในการใส่ใจสุขภาพทุกวันได้เช่นกัน

ยลโฉมดีไซน์ Amazfit Bip 3 สีดำ

Amazfit Bip 3 มีความโดดเด่นตั้งแต่แรกเห็น คือ หน้าจอขนาดใหญ่ 1.69 นิ้ว ตัวเรือนมีขนาดกำลังดี ใส่ได้ทั้งทุกเพศทุกวัย ไม่ใหญ่เทอะทะ สวมใส่แล้วไม่รู้สึกเกะกะเพราะน้ำหนักเบามากเพียง 32g วัสดุเป็นพลาสติกและยางซิลิโคน แท่นชาร์จเป็นแบบแม่เหล็ก ซื้อสายนาฬิกามาเปลี่ยนเองได้ ปรับความสว่างหน้าจอได้หลายระดับ เปลี่ยน Watch Face ผ่านแอป Zepp ได้ฟรี ซึ่งก็มีให้เลือกหลายแบบ

Smartwatch ที่ดี จะต้องสวมใส่นอนได้โดยไม่รู้สึกว่าเกะกะรำคาญ ซึ่ง Amazfit Bip Series ทุกรุ่นก็ตอบโจทย์ได้ดี เพราะน้ำหนักเบาสุด ๆ ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องกังวลอะไรในขณะนอนหลับพักผ่อน เมื่อตื่นเช้า ก็สามารถกดดูได้หน้าจอ Bip 3 เลยว่านอนหลับไปนานแค่ไหน ส่วนคุณภาพการนอนหลับ หลับลึกแค่ไหน รู้สึกตัวตื่นกี่ครั้งในคืนนั้น ก็สามารถดูเพิ่มเติมได้บนแอปฯ Zepp

ในแอปฯ Zepp จะเก็บและรายงานข้อมูลสุขภาพตลอดทั้งวัน ได้แก่ นับก้าว, ระยะทาง, พลังงานที่เผาผลาญ, ผลวิเคราะห์ขณะนอนหลับ, อัตราการเต้นของหัวใจ, คะแนน PAI, ความเครียด, ออกซิเจนในเลือด เมื่อใช้ร่วมกับเครื่องชั่งน้ำหนัก Amazfit ก็จะมีในส่วนของน้ำหนักควบคู่กับ BMI เพิ่มขึ้นมา ข้อมูลทั้งหมดนี้ ช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้ใส่ใจกับสุขภาพตลอดทั้งวัน โดยค่าหลายอย่างที่ปรากฎบนแอปฯ Zepp จะเป็นกราฟตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ 12.00AM ถึง 23.59PM ในวันเดียวกัน จุดนี้ถือว่าเหนือชั้นกว่าคู่แข่งบางแบรนด์ ที่อนุญาตให้วัด SpO2 เฉพาะนอนหลับเท่านั้น หรือวัดความเครียดได้แบบไม่ Real-time ซึ่งการที่ย้อนดูได้ พร้อมกับการวัดค่าแบบ Real-time เป็นผลดีต่อการประเมินสุขภาพมากกว่า

Watch Face บางแบบก็สามารถแสดงข้อมูลสำคัญ ๆ ด้านสุขภาพ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ, การเผาผลาญพลังงาน หรือความเครียด ทำให้ผู้ใช้วางแผนในการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสุขภาพตัวเอง

สรุป จุดเด่นของ Amazfit Bip 3

• หน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ขึ้น สีสันสวยงามยิ่งขึ้น สว่างมากขึ้น ใช้งานกลางแจ้งได้ดีกว่ารุ่นเดิม
• แบตเตอรี่ ใช้งานได้จริงเฉลี่ย 10-12 วัน ขึ้นอยู่กับ Watch Face และการตั้งค่า Display
• ดีไซน์ดูดีแบบ Classic สามารถเปลี่ยนสายอัพเกรดเป็นสไตล์คล้ายกับ Apple Watch ได้
• มีประสิทธิภาพในการประมวลผลที่ดี ตอบสนองรวดเร็วน่าพอใจ คุ้มค่ากับระดับราคานี้
• บางเพียง 9.65mm เบา 32g มีให้เลือก 3 สีสำหรับ Bip 3 คือ สีดำ, สีชมพูอ่อน, สีฟ้าอ่อน
• ใส่ภาพที่ต้องการแสดงผลบนหน้าจอนาฬิกาได้
• กันน้ำลึก 50 เมตร ระดับ 5ATM
• รองรับโหมดกีฬากว่า 60 ชนิด ครอบคลุมเกือบทุกรูปแบบของการออกกำลังกาย
• ฟีเจอร์ด้านสุขภาพมากมาย ได้แก่ SpO2, Heart Rate, Stress, Sleep ที่วัดตลอด 24 ชั่วโมง
• เตือนรอบประจำเดือน
• มี PAI รายงานสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อการปรับปรุงและรักษาสุขภาพให้ดีขึ้น
• เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่อัพเกรดมาจาก SmartBand หรือผู้ที่ไม่เคยใช้ Smartwatch เลย

ราคา

ราคาเปิดตัว Amazfit Bip 3 อยู่ที่ 1,290 บาท เริ่มจำหน่ายในเดือนมิถุนายน 2565 และอีกทางเลือกกับ Bip 3 Pro ราคา 1,690 บาท สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ Smartwatch ที่มี GPS Built-in ในตัว

สั่งซื้อได้ที่ Amazfit Official Store บน Shopee http://bit.ly/3wsp1KI

หรือ Zepp Official Store ใน Shopee http://bit.ly/37XNCxE

คะแนนรีวิว

• 10/10 - Features & Powerful
• 8/10 - Design & Material
• 9/10 - Battery life
• 7/10 - Display
• 9/10 - Vibration alert
• 8/10 - Application & Ecosystem 
• 8/10 - Watch face

ข้อสังเกต เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน

• สายนาฬิกามีร่องยาว ซึ่งมีฝุ่นลงไปติดได้ง่ายมาก ควรซื้อเปลี่ยนเป็นสายผิวเรียบ
• Watch Face ควรจะมีอัพเดตใหม่เป็นระยะ ๆ และมีให้เลือกเยอะกว่านี้

ตารางเปรียบเทียบ Bip 3 กับรุ่นอื่นของ Amazfit