- ระบบวิทยุสื่อสารใหม่ 10 รุ่น นำโดย Triple-Band Radio 4485 ที่มีน้ำหนักเบากว่าผลิตภัณฑ์ใกล้เคียงกันถึง 53% นอกจากนี้ ยังเปิดตัวโซลูชันการขนส่งและซอฟต์แวร์เคลื่อนที่ใหม่
- เปิดตัวระบบคลื่นวิทยุ Massive MIMO บนคลื่น 600MHz เป็นรายแรกในอุตสาหกรรม มาพร้อมซอฟต์แวร์ตรวจจับสัญญาณรบกวนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของอีริคสัน เพิ่มความจุมากกว่าเดิม 40% และมีฮาร์ดแวร์รองรับทั้งพอร์ตโฟลิโอ
- อีริคสันวางแผนนำเสนอโซลูชั่น AIR 6419 และ Radio 4490 ในตลาดประเทศไทย เพื่อส่งมอบประสิทธิภาพเครือข่ายขั้นสูงสุดให้แก่ทั้งผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจ
อีริคสัน แสดงวิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำสนับสนุนผู้ให้บริการสื่อสาร เดินหน้าไปสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ด้วยการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ RAN และ Transport ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการสร้างรายได้ของผู้ให้บริการสื่อสารและเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย 5G ณ งาน Mobile World Congress (MWC) 2023 ที่จะจัดขึ้นที่เมืองบาเซโลน่า ประเทศสเปน
โซลูชันใหม่ของอีริคสันมากกว่า 10 โซลูชัน จะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน รวมถึงจำนวนสถานีฐาน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานและเพิ่มศักยภาพเครือข่าย ด้วย New Remote Radios ใหม่ที่มีศักยภาพครบวงจร สำหรับการขยายประสิทธิภาพเครือข่าย 4G และ 5G ที่นำโดยคลื่นวิทยุแบบ 3 ย่านความถี่ 4485 หรือ Triple-Band Radio 4485 for FDD (Frequency-Division Duplexing สำหรับใช้รับ-ส่งสัญญาณข้อมูล Downlink และ Uplink ในความถี่ต่างกัน) ซึ่งมีน้ำหนักเบาขึ้นกว่า 53% และใช้พลังงานน้อยกว่า 22% เทียบกับผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวระบบวิทยุสื่อสารแบบดูอัลแบนด์และซิงเกิลแบนด์ใหม่
อีริคสันยังเปิดตัวระบบคลื่นวิทยุ Massive MIMO แบบไวด์แบนด์รุ่นล่าสุด Ultra-wideband AIR 6476 ซึ่งเป็นรายแรกในอุตสาหกรรม บนคลื่นความถี่ 600MHz ช่วงช่องสัญญาณที่ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน (Instantaneous Bandwidth) ซึ่งให้ความจุเพิ่มเป็น 2 เท่าโดยไม่ต้องติดตั้งเสาอากาศเพิ่ม มอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นแก่ผู้ใช้
นอกจากนี้ซอฟต์แวร์ยังได้รับความสนใจในงานนี้ด้วยคุณสมบัติใหม่ ๆ ที่โดดเด่น เช่น การตรวจจับสัญญาณรบกวนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Massive MIMO ช่วงย่านความถี่ระดับกลาง โดยลดการรบกวนสัญญาณระหว่างเซลล์พร้อมเพิ่มความจุเครือข่ายสูงสุดถึง 40%
โซลูชันใหม่จะจัดแสดงที่บูธของอีริคสันที่งาน MWC Barcelona 2023, Hall 2 ที่ Fira Gran Via ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ถึง 2 มีนาคม พอร์ตโฟลิโอเพิ่มเติมต่าง ๆ จะเริ่มวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในปีนี้และไตรมาสที่ 1 ปี ค.ศ.2024
โซลูชันใหม่ของอีริคสันมากกว่า 10 โซลูชัน จะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน รวมถึงจำนวนสถานีฐาน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานและเพิ่มศักยภาพเครือข่าย ด้วย New Remote Radios ใหม่ที่มีศักยภาพครบวงจร สำหรับการขยายประสิทธิภาพเครือข่าย 4G และ 5G ที่นำโดยคลื่นวิทยุแบบ 3 ย่านความถี่ 4485 หรือ Triple-Band Radio 4485 for FDD (Frequency-Division Duplexing สำหรับใช้รับ-ส่งสัญญาณข้อมูล Downlink และ Uplink ในความถี่ต่างกัน) ซึ่งมีน้ำหนักเบาขึ้นกว่า 53% และใช้พลังงานน้อยกว่า 22% เทียบกับผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวระบบวิทยุสื่อสารแบบดูอัลแบนด์และซิงเกิลแบนด์ใหม่
อีริคสันยังเปิดตัวระบบคลื่นวิทยุ Massive MIMO แบบไวด์แบนด์รุ่นล่าสุด Ultra-wideband AIR 6476 ซึ่งเป็นรายแรกในอุตสาหกรรม บนคลื่นความถี่ 600MHz ช่วงช่องสัญญาณที่ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน (Instantaneous Bandwidth) ซึ่งให้ความจุเพิ่มเป็น 2 เท่าโดยไม่ต้องติดตั้งเสาอากาศเพิ่ม มอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นแก่ผู้ใช้
นอกจากนี้ซอฟต์แวร์ยังได้รับความสนใจในงานนี้ด้วยคุณสมบัติใหม่ ๆ ที่โดดเด่น เช่น การตรวจจับสัญญาณรบกวนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Massive MIMO ช่วงย่านความถี่ระดับกลาง โดยลดการรบกวนสัญญาณระหว่างเซลล์พร้อมเพิ่มความจุเครือข่ายสูงสุดถึง 40%
โซลูชันใหม่จะจัดแสดงที่บูธของอีริคสันที่งาน MWC Barcelona 2023, Hall 2 ที่ Fira Gran Via ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ถึง 2 มีนาคม พอร์ตโฟลิโอเพิ่มเติมต่าง ๆ จะเริ่มวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในปีนี้และไตรมาสที่ 1 ปี ค.ศ.2024
สำหรับในประเทศไทย อีริคสันจะทำการตลาดโซลูชั่น Massive MIMO, AIR 6419 B41 และ Radio 4490 B1/B3 เพื่อส่งมอบประสิทธิภาพเครือข่ายขั้นสูงสุดสำหรับทั้งผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจ
มร. อิกอร์ มอเรล ประธาน บริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “เรากำลังขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายในประเทศไทยด้วยโซลูชันประสิทธิภาพสูงผนวกกับความแข็งแกร่งของเครือข่าย 5G ทั่วโลก เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าสำหรับผู้บริโภค และเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในกลุ่มองค์กรธุรกิจ เพื่อทำให้การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัลของพวกเขาเป็นไปได้ในต้นทุนที่แข่งขันได้”
เมื่อเร็ว ๆ นี้อีริคสันได้ทดสอบผลิตภัณฑ์ Massive MIMO รุ่นล่าสุด รวมถึงโซลูชัน AIR 6419 B41 บนคลื่นความถี่ 2600MHz และผลที่ได้แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ให้ประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม โดยมีความต้องการการบำรุงรักษาน้อยลงเนื่องจากระบบระบายความร้อนแบบพาสซีฟ
ทั้งนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการทดสอบผลิตภัณฑ์ Radio 4490 B1/B3 บนย่านความถี่ดูอัลแบนด์ 2100MHz และ 1800MHz ซึ่งโซลูชั่นนี้เป็นระบบคลื่นวิทยุหลักสำหรับใช้งานในเขตเมืองที่มีความหนาแน่นสูง ซึ่งใช้พลังงานน้อยลง 25% และมีน้ำหนักลดลง 25% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์รุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ Radio 4490 ยังต้องการการบำรุงรักษาน้อยกว่าด้วยระบบระบายความร้อนแบบพาสซีฟ ซึ่งคาดว่าการทดสอบจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้
มร. อิกอร์ มอเรล ประธาน บริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “เรากำลังขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายในประเทศไทยด้วยโซลูชันประสิทธิภาพสูงผนวกกับความแข็งแกร่งของเครือข่าย 5G ทั่วโลก เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าสำหรับผู้บริโภค และเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในกลุ่มองค์กรธุรกิจ เพื่อทำให้การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัลของพวกเขาเป็นไปได้ในต้นทุนที่แข่งขันได้”
เมื่อเร็ว ๆ นี้อีริคสันได้ทดสอบผลิตภัณฑ์ Massive MIMO รุ่นล่าสุด รวมถึงโซลูชัน AIR 6419 B41 บนคลื่นความถี่ 2600MHz และผลที่ได้แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ให้ประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม โดยมีความต้องการการบำรุงรักษาน้อยลงเนื่องจากระบบระบายความร้อนแบบพาสซีฟ
ทั้งนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการทดสอบผลิตภัณฑ์ Radio 4490 B1/B3 บนย่านความถี่ดูอัลแบนด์ 2100MHz และ 1800MHz ซึ่งโซลูชั่นนี้เป็นระบบคลื่นวิทยุหลักสำหรับใช้งานในเขตเมืองที่มีความหนาแน่นสูง ซึ่งใช้พลังงานน้อยลง 25% และมีน้ำหนักลดลง 25% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์รุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ Radio 4490 ยังต้องการการบำรุงรักษาน้อยกว่าด้วยระบบระบายความร้อนแบบพาสซีฟ ซึ่งคาดว่าการทดสอบจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ latest macro and mobile transport portfolio additions
เรื่องอื่นที่เกี่ยวข้อง:
Ericsson Massive MIMO
Ericsson Remote Radios
Ericsson Mobile Transport Solutions
เรื่องอื่นที่เกี่ยวข้อง:
Ericsson Massive MIMO
Ericsson Remote Radios
Ericsson Mobile Transport Solutions
COMMENTS