รีวิว Infinix NOTE 30 5G RoV Edition เกมมิ่งสมาร์ทโฟน คุ้มราคาในงบ 7 พันบาท

Infinix NOTE 30 5G สมาร์ทโฟนสายเกมที่ตอบโจทย์ครบทุกความบันเทิงสำหรับคนรุ่นใหม่ มีจุดเด่น ที่ใช้ชิปเซ็ต 5G ขนาด 6nm Dimensity 6080 จาก MediaTek, หน้าจอถนอมสายตา 120Hz คมชัดระดับ FHD+, กันน้ำ IP53, 45W Fast Charge พร้อม Bypass mode และหน่วยความจำสูงสุด 256GB, มี RAM ที่ขยายเพิ่มได้ถึง 8GB+8GB ในงบประมาณ 7 พันกว่าบาท โดยครั้งนี้ จับมือเป็นพันธมิตรกับเกมยอดนิยมอย่าง RoV ยิ่งตอกย้ำอีกครั้งว่า Infinix เป็นผู้นำตลาด Gaming Smartphone ตัวจริง ในราคาที่วัยรุ่นและวัยทำงานสามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย ๆ

ในการทดสอบด้วย Antutu Benchmark เวอร์ชั่นล่าสุด Infinix NOTE 30 5G สามารถทำคะแนนได้ทะลุ 4 แสนกว่า ถือว่าประสิทธิภาพแรงพอตัว คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาในระดับนี้

จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่ถูกใจเกมเมอร์อย่างแน่นอน ก็คือ มี UI และ Wallpaper Infinix x RoV แบบ Limited Edition และจากการทดสอบเล่นเกม RoV สลับกับเกมประเภท Racing ก็รู้สึกได้ว่าตัวเครื่องมีความร้อนไม่มาก แบตเตอรี่ค่อนข้างอึดพอตัว และมีค่า Framerate ที่น่าพอใจ ตอบสนองการสัมผัสได้ดีอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้เลย ถือว่าคุ้มค่ากับราคา ส่วน RAM ก็แนะนำให้ปรับเป็น 8GB+8GB เต็ม Max กันไปเลย

สำหรับการเล่นเกมต่อเนื่องยาว ๆ แบบชาร์จไปพร้อมกับการเล่นเกม ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความร้อนสูงหรือคิดว่าการชาร์จไปเล่นไป จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว เพราะ Infinix NOTE 30 5G มีระบบ Bypass Charge ที่ส่งไฟฟ้าจากพอร์ตชาร์จ USB-C ตรงเข้าวงจรของตัวเครื่องทันที โดยไม่ผ่านแบตเตอรี่ก่อน เมื่อเล่นเกมเสร็จแล้ว ออกจากเกม ปิดหน้าจอ วางเครื่องทิ้งไว้ ระบบจึงจะเริ่มชาร์จแบตเตอรี่ เพื่อป้องกันความร้อนที่สูงเกินไปส่งผลให้อายุแบตเตอรี่สั้นลง

ในส่วนของเสียงจากลำโพงตัวเครื่อง ถือว่าดีขึ้นมากแบบก้าวกระโดดจาก Infinix ทุกรุ่นที่ผ่านมา เพราะ Infinix NOTE 30 5G ได้รับการจูนเสียงโดยแบรนด์ดังอย่าง JBL ที่เชี่ยวชาญเรื่องระบบเสียงทั้งในสตูดิโอ ในบ้าน และกลางแจ้ง เสียงจึงดังกังวานและชัดใส ไม่มีแตกพร่า ไม่แหลมจัดจ้านจนบาดหู ดีเยี่ยมทั้งการเปิดเพลง ชมภาพยนตร์ และเล่นเกมทั่วไป ได้มิติเสียงที่ดี

Infinix NOTE 30 5G วางจำหน่ายแล้วบน Shopee, Lazada, TikTok Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยมีราคาเปิดตัวดังนี้

• 8GB + 128GB 7,499 บาท
• 8GB + 256GB 7,999 บาท

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นส่วนลดเพิ่มเติมหรือ Flash Sale ในทุกช่องทางออนไลน์เป็นระยะ ๆ สามารถติดตามโปรโมชั่นได้บน Facebook Page ของ Infinix Mobile ประเทศไทย

สเปก Infinix NOTE 30 5G

• ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6080 สถาปัตยกรรม 6nm
• รองรับ 5G ทั้งสองซิมการ์ดพร้อมกันได้
• น้ำหนัก 204.7g และดีไซน์บาง 8.45mm
• มี 2 สีให้เลือก คือ Magic Black กับ Interstellar Blue
• จอแสดงผลชนิด IPS LTPS รีเฟรชเรต 120Hz สว่าง 580nits ขอบเขตสีกว้าง DCI-P3
• จอแสดงผลความละเอียด FHD+ (1080 x 2460 Pixel) ขนาด 6.78"
• ระบบปฏิบัติการ XOS 13 ครอบทับ Android 13
• RAM 8GB ที่ปรับขยายได้เพิ่มอีก 8GB รวมเป็น 16GB
• ROM มีให้เลือกทั้ง 128GB และ 256GB
• กล้องหลัก 108MP ขนาดใหญ่ 1/1.67'' พร้อม 6 ชิ้นเลนส์และระบบโฟกัส PDAF พร้อมกล้อง 2MP กับ AI CAM และไฟ Quad LED Flash
• กล้องเซลฟี่ 16MP
• ระบบเสียง dts มีลำโพงคู่ จูนเสียงโดยแบรนด์ JBL รองรับ Hi-Res Audio
• กันน้ำระดับ IP53
• Slot รองรับซิมการ์ดคู่ขนาด Nano SIM พร้อม microSD
• รองรับ NFC และสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
• แบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ชาร์จไว 45W รองรับ Bypass Charge / Reverse Charge / PD 3.0

จุดเด่น Infinix NOTE 30 5G และผลการทดสอบใช้งาน

ทดสอบใช้งานบนเครือข่าย dtac 5G ใช้งานครบถ้วนทั้งเล่นเกม RoV, เล่นเกมแข่งรถ, ชมภาพยนตร์บน Netflix, ชมคลิปวิดีโอบน YouTube, เล่นโซเชียลทั้ง TikTok-Facebook-Threads-Twitter-Line และฟังเพลงออนไลน์ เพื่อทดสอบเสียงเพลงระดับ Hi-Res Audio จากลำโพงที่การันตีว่าจูนเสียงโดย JBL

• มีเทคโนโลยี Clever 5G เวอร์ชั่นใหม่ 2.0 ที่ทำให้สามารถใช้ 5G ได้พร้อมกันทั้งสองซิมการ์ด และมีความชาญฉลาดในการเกาะช่องสัญญาณ 5G/4G ตามความเหมาะสมในการใช้งาน ทำให้ได้ประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน 5G/4G พร้อมกับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนาน แตกต่างจากสมาร์ตโฟนทั่วไปที่แบตเตอรี่ลดลงเร็วเมื่อมีการเชื่อมต่อ 5G ตลอดเวลา ไม่ว่าจะใช้งานมากหรือน้อย หรือวางเครื่องไว้เฉย ๆ
• ชิป Dimensity 6080 5G อันทรงพลัง แต่ราคาประหยัดและประหยัดพลังงานด้วยเช่นกัน มีประสิทธิภาพในการรันเกมได้ราบรื่น ลื่นไหล ภาพสวยงาม ตัวเครื่องไม่ร้อนเกินไปเมื่อเล่นต่อเนื่องเป็นเวลานาน แบตเตอรี่ไม่ลดลงเร็วเกินไป ค่าเฟรมเรตที่น่าพอใจ เชื่อมต่อ 5G ได้ดีไม่หลุด
• วัสดุ และดีไซน์ตัวเครื่อง สวยงามมีเอกลักษณ์ อวดโฉมได้อย่างน่าภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ
• จอ Infinix NOTE 30 5G ได้รับการรับรองจาก TÜVRheinland ว่าดีต่อสายตา สบายตาเมื่อจ้องมองนานต่อเนื่อง ลดการปล่อยแสงสีฟ้าได้จริง 
• จอตอบสนองการสัมผัสในขณะเล่นเกมได้ดีเยี่ยมกว่า Infinix ทุกรุ่นที่ผ่านมาจริง ๆ รวมทั้งมีการปรับปรุงในด้านความสว่าง, รีเฟรชเรตสูง, ขนาดใหญ่เหมาะมือและน้ำหนักกำลังดี, ให้สีสันที่สวยงามสดใส, คมชัด ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นการปรับปรุงที่ดีขึ้นจากประสบการณ์ที่ได้รีวิว Infinix มาหลายรุ่นในตลอดสองปีที่ผ่านมา
• ชาร์จเร็วจริง จาก 1% ไปถึง 75% ภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงกว่า แต่จะต้องใช้งานร่วมกับที่ชาร์จที่แถมมาในกล่องเท่านั้น หากชาร์จด้วยที่ชาร์จจากผู้ผลิตรายอื่นที่ไม่รองรับ PD 3.0 จะชาร์จช้ากว่านี้ค่อนข้างมาก และมั่นใจได้ว่าที่ชาร์จของ Infinix มีความปลอดภัยจริง ความร้อนน้อย และถนอมแบตเตอรี่
• การชาร์จไฟแบบ Bypass ทำให้ถนอมแบตเตอรี่ได้อีกทางหนึ่ง เพราะไฟจะส่งตรงเข้าเมนบอร์ดโดยไม่ผ่านแบตเตอรี่ก่อน ทำให้แบตเตอรี่แทบจะไม่มีความร้อนในขณะชาร์จไปพร้อมกับใช้งานหนักไปด้วยในเวลาเดียวกัน แต่ต้องเปิดใช้งานการชาร์จ Bypass Mode ใน X Arena ก่อน
• เสียงที่ดีขึ้นจริง จากลำโพงของตัวเครื่องที่จูนเสียงโดย JBL เทียบกับ Infinix ทุกรุ่นที่ผ่านมา ท้าให้ทุกคนต้องพิสูจน์ด้วยหูของตัวเอง ทั้งในขณะเล่นเกม, ชมภาพยนตร์, และเปิดเพลง

ยลโฉม Infinix NOTE 30 5G

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง

คะแนนการรีวิว

• 9/10 - ดีไซน์, วัสดุ, งานประกอบ, ขนาด และน้ำหนัก
• 9/10 - ชาร์จไว, อายุการใช้งานแบตเตอรี่ และเทคโนโลยีถนอมแบตเตอรี่
• 9/10 - ประสิทธิภาพในการประมวลภาพ, ความร้อน และการประหยัดพลังงาน
• 8/10 - กล้องหลัก และเทคโนโลยี HDR / AI Camera
• 4/10 - กล้องเซลฟี่
• 9/10 - การแสดงผลและการสัมผัสจอภาพ
• 9/10 -  ระบบเสียงจากลำโพงและหูฟัง
• 7/10 - ฟีเจอร์ของ Software ในภาพรวม
• 7/10 - ราคาและความคุ้มค่า