บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านระดับโลกภายใต้แบรนด์ “Hisense” (ไฮเซ่นส์) ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดทีวีขนาดใหญ่ 100 นิ้ว ประกาศเปิดตัว “Hisense UX Series – RGB-MiniLED TV” ทีวีเรือธงรุ่นแรกในไทยที่ใช้เทคโนโลยีจอภาพใหม่ล่าสุดของโลก “RGB-MiniLED TV” โดยแบรนด์ Hisense เป็นหนึ่งในผู้นำแถวหน้าในการพัฒนาและขับเคลื่อนเทคโนโลยีดังกล่าว พร้อมยกระดับให้เหนือกว่าด้วยการประสานพลังนวัตกรรมจอภาพแบบใหม่เข้ากับระบบประมวลผลอัจฉริยะ Hi-View AI Engine X เพื่อมอบมาตรฐานใหม่ด้านคุณภาพภาพและเสียง ควบคู่ไปกับดีไซน์อันหรูหรา ยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงภายในบ้านทั้งการรับชมภาพยนตร์หรือการเล่นเกมให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มองหาความเหนือระดับในทุกมิติ
มิส.คลาร่า ชาง (Clara Chang) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า Hisense ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในหลายตลาดสำคัญทั่วโลก โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา Hisense เป็นแบรนด์ทีวีที่ครองอันดับ 1 ในกลุ่มตลาดทีวีขนาดใหญ่ 100 นิ้ว ด้วยส่วนแบ่งสูงถึง 47% ของโลก และมียอดส่งออกทีวีรวมทุกขนาดคิดเป็นอันดับ 2 ของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนศักยภาพด้านเทคโนโลยีการแสดงผลและคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ได้การยอมรับในระดับสากล และยังเป็นแรงผลักดันให้บริษัทเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมและขยายตลาดพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ปี 2568 Hisense ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายด้วยกลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมและฟังก์ชันที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภค ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพสินค้าในราคาที่คุ้มค่า และขยายฐานลูกค้าในตลาดพรีเมียม
“ล่าสุดบริษัทฯ เดินหน้ากลยุทธ์ขยายตลาดทีวีพรีเมียมในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัว Hisense UX Series – RGB-MiniLED TV รุ่นเรือธงที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการแสดงผลล้ำสมัย คุณภาพเสียงเหนือระดับ และดีไซน์หรูหรา เพื่อให้สอดรับกับแคมเปญ ‘Own the Moment’ ที่เรามุ่งยกระดับบทบาทจากผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าสู่แบรนด์ที่ผสานเทคโนโลยีเข้ากับอารมณ์และไลฟ์สไตล์ สร้างคุณค่าและประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ติดตามวิวัฒนาการของเทคโนโลยีทีวีอย่างต่อเนื่อง สนใจนวัตกรรมที่ก้าวล้ำและแตกต่างเพื่อสะท้อนเอกลักษณ์และตัวตน, ผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและภาพลักษณ์ รวมถึงกลุ่มคนที่มองหาความสะดวกสบายและความทนทานต่อการใช้งาน การเปิดตัวครั้งนี้ไม่เพียงตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย แต่ยังสะท้อนศักยภาพการเติบโตของตลาดทีวีระดับบนที่ต้องการทั้งคุณภาพ เทคโนโลยีทันสมัย และความคุ้มค่าในระยะยาว พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Hisense ในการยกระดับนวัตกรรม เสริมความแข็งแกร่งในตลาดทีวีพรีเมียมในประเทศไทย และสร้างมาตรฐานใหม่ของการรับชมที่เหนือระดับ สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตยอดขายและวิสัยทัศน์ในการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนต่อผู้บริโภค”
สำหรับ “Hisense UX Series – RGB-MiniLED TV” มาพร้อมเทคโนโลยีการแสดงผลล้ำสมัยเพื่อยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงภายในบ้านอย่างเหนือชั้น โดยจุดเด่นสำคัญคือ เทคโนโลยี RGB-MiniLED ซึ่ง Hisense เป็นผู้นำในการพัฒนาและผลักดันให้ก้าวสู่มาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม ด้วยการต่อยอดจากวิวัฒนาการของจอ LCD และ MiniLED สู่การใช้หลอดไฟสีแดง เขียว และน้ำเงินเป็นแหล่งกำเนิดแสงโดยตรง ทำให้ถ่ายทอดสีสันได้สดใส บริสุทธิ์ และแม่นยำ สามารถครอบคลุมช่วงสีกว้างถึง 95% ของมาตรฐาน BT.2020 มาพร้อมเทคโนโลยีถนอมสายตา ช่วยลดการปล่อยแสงสีฟ้าจากหน้าจอ จึงลดความเสี่ยงต่อดวงตาและทำให้ผู้ใช้งานเพลิดเพลินกับความบันเทิงได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ 3D Dimming + Colour Control และ 3D Colour Master PRO ที่ช่วยถ่ายทอดสีสันได้อย่างเป็นธรรมชาติและสมจริง ซึ่งได้การรับรองจาก Pantone และ Pantone SkinTone อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Anti-Reflection PRO ที่ช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้ผู้ชมสามารถเพลิดเพลินกับภาพที่คมชัดและรายละเอียดครบถ้วน แม้รับชมในสภาพแวดล้อมที่มีแสงจ้า
ด้านสมรรถนะการประมวลผล Hi-View AI Engine X ทำงานด้วยปัญญาประดิษฐ์แบบเรียลไทม์ ปรับคุณภาพภาพให้เหมาะสมกับทุกคอนเทนต์ผ่านฟีเจอร์ขั้นสูง พร้อมตอบโจทย์เกมเมอร์ด้วย 165Hz Game Mode Ultra ที่รองรับการแสดงผลภาพเคลื่อนไหวลื่นไหลแบบไร้สะดุด ขณะที่ระบบเสียง 6.2.2 CineStage X Surround ซึ่งพัฒนาร่วมกับ Devialet รองรับ Dolby Atmos และ DTS Virtual:X เสริมด้วย Built-in Subwoofer และ Room Fitting Tuning เพื่อสร้างมิติของเสียงรอบทิศทางโอบล้อมราวกับอยู่ในโรงภาพยนตร์ อีกทั้งยังมาพร้อมทางเลือกจอยักษ์ขนาด 116 นิ้ว และ 100 นิ้ว ที่ผสานดีไซน์หรูหราและทันสมัย ตอกย้ำการเป็นมาตรฐานใหม่ของทีวีระดับพรีเมียมที่รวมความสมบูรณ์แบบทั้งภาพ เสียง และดีไซน์ไว้ในเครื่องเดียว
นอกจากนี้ Hisense” (ไฮเซ่นส์) ในฐานะผู้นำอันดับ 1 ทีวีขนาดใหญ่ 100 นิ้ว ยังพร้อมเดินหน้าในกลุ่ม เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านระดับโลกอีกมากมาย อาทิ
• เครื่องปรับอากาศ Fresh Air Series (VA) มาพร้อมระบบหมุนเวียนอากาศ โดยสามารถดึงอากาศจากภายนอกผ่านแผ่นกรอง HEPA Filter คุณภาพสูง ช่วยยับยั้งฝุ่นและเชื้อโรค จากนั้นจึงปล่อยอากาศที่บริสุทธิ์ ช่วยเพิ่มออกซิเจน สร้างสมดุลของอากาศภายในห้องให้ดีขึ้น เสริมด้วยเทคโนโลยี HI-NANO ปล่อยออกซิเจนไอออนลบ ช่วยยับยั้งฝุ่น PM2.5 และแบคทีเรียในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควบคุมง่ายผ่านแอป ConnectLife ได้ทุกที่ทุกเวลา
• เครื่องซักอบ Hisense Roman Holiday Series รุ่น WD105R5 ดีไซน์เรโทรไม่ซ้ำใคร เสริมเสน่ห์ให้พื้นที่ในบ้าน พร้อมนวัตกรรมการซักสุดล้ำ One Touch AI Wash เมื่อกดปุ่มค้างไว้ 3 วินาที ช่วยคำนวณการซักอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยขจัดคราบฝังลึก ดูแลผ้าให้สะอาดถูกสุขอนามัย
• ตู้เย็น MULTI-DOORS รุ่น RQ667N4TWUC1 โดดเด่นด้วยนวัตกรรม Vacuum Pure Fresh ช่วยคงความสด ลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย พร้อมดีไซน์หรู ความจุขนาดใหญ่ รองรับการจัดเก็บทั้งช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็งได้อย่างเป็นระเบียบ ระบบควบคุมความชื้นและอุณหภูมิทำงานร่วมกับการกระจายความเย็นรวดเร็ว และดีไซน์ Flat Built-in บานพับพิเศษที่ติดตั้งได้แนบสนิทโดยไม่ต้องเว้นช่องว่าง
• โปรเจคเตอร์เลเซอร์ระดับพรีเมียม รุ่น C2-Ultra มาพร้อมเทคโนโลยีเลเซอร์ 3 สี (Triple Laser) ให้ขอบเขตสีกว้างระดับโรงภาพยนตร์ REC.2020 ความคมชัด 4K รองรับทั้ง Dolby Vision และ IMAX Enhanced เสียงทรงพลังจาก JBL พร้อมวูฟเฟอร์ในตัว ดีไซน์หมุนได้ 360 องศา ฉายได้แม้บนเพดาน ใช้งานง่ายด้วยระบบ Smart Vidaa OS สั่งงานด้วยเสียง และรองรับการฉายภาพขนาดใหญ่สูงสุด 300 นิ้ว เติมเต็มประสบการณ์ความบันเทิงในบ้านอย่างเหนือระดับ
ผู้สนใจสามารถสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับ คมชัดทุกเฉดสีกับ “Hisense UX Series – RGB-MiniLED TV” ได้แล้ววันนี้ที่ Hisense Flagship Store ชั้น 2 ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ โปรโมชั่นพิเศษช่วงพรีออเดอร์ระหว่างวันที่ 5-30 กันยายน 2568 สำหรับข้อเสนอแรก คือ Privilege Promotion เมื่อซื้อ Hisense UX Series – RGB-MiniLED TV ขนาด 116 นิ้ว รับทันที Privilege Collection ซึ่งประกอบด้วย Nintendo Switch 2 และเครื่องใช้ไฟฟ้า Hisense รุ่นพรีเมียม บริการ Elite Care รับประกัน 5 ปี พร้อมจัดส่งและติดตั้งฟรี และทางเลือก Smart Investment ที่สามารถผ่อนชำระสูงสุด 18 เดือน หรือรับส่วนลดพิเศษ 12% โดยราคาสำหรับการสั่งจองอยู่ที่ 799,999 บาท นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันอื่น ๆ อีกมากมาย สามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นได้ทางเฟซบุ๊ก Hisense Thailand และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://hisense.co.th
ข้อมูลทางเทคนิค
“Hisense UX Series – RGB-MiniLED TV” ทีวีเรือธงรุ่นล่าสุดจาก “Hisense” (ไฮเซ่นส์) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย RGB-MiniLED โดยแบรนด์ Hisense เป็นหนึ่งในผู้นำแถวหน้าในการพัฒนาและขับเคลื่อนเทคโนโลยีดังกล่าว ผสานพลังกับชิปประมวลผลอัจฉริยะ Hi-View AI Engine X เพื่อยกระดับมาตรฐานใหม่ของคุณภาพภาพและเสียงอย่างแท้จริง โดดเด่นด้วยความคมชัด สีสันสมจริง และรายละเอียดที่แม่นยำทุกมิติ พร้อมเปิดตัวด้วยหน้าจอขนาดใหญ่พิเศษ 116 นิ้ว และ 100 นิ้ว ดีไซน์หรูหรา ทันสมัย เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มองหาประสบการณ์ความบันเทิงเหนือระดับ ไม่ว่าจะเป็นการรับชมภาพยนตร์ คอนเทนต์คุณภาพสูง หรือการเล่นเกมที่เต็มอรรถรส
ไฮไลท์เทคโนโลยี RGB-MiniLED
- • RGB Backlight Source: ใช้หลอดไฟ LED ขนาดเล็กจำนวนมหาศาลที่แต่ละดวงจะแยกสีแดง เขียว น้ำเงิน โดยตรง สร้างสีสันที่บริสุทธิ์และแม่นยำตั้งแต่ต้นทาง
- • 3D Colour Control: เทคโนโลยีจัดการสีแบบสามมิติ ควบคุมสีได้ละเอียดสมจริง ใกล้เคียงกับต้นฉบับที่สุด
- • ขอบเขตสีครอบคลุม ~95% ตามมาตรฐาน BT.2020 รองรับมาตรฐานสีที่กว้างที่สุดในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ถ่ายทอดโทนสีได้เต็มอรรถรส ระดับเดียวกับโรงภาพยนตร์เลเซอร์
- • ความสว่างสูงสุด 8,000 nits ช่วยให้ภาพคมชัด โปร่งใส และเห็นรายละเอียดครบถ้วน ทั้งในฉากที่มืดและสว่างจัด
- • Low Blue Light Hardware เลือกใช้แสงสีน้ำเงินคลื่นยาวที่ปลอดภัยกว่า ลดความเมื่อยล้าดวงตาและช่วยดูแลสุขภาพการมองเห็น
- • ประหยัดพลังงานมากกว่าทีวีทั่วไปถึง 20% มอบประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่าควบคู่กับความยั่งยืน
เทคโนโลยีเสริมภาพ (Picture Quality)
- • Hi-View AI Engine X ชิปประมวลผลภาพอัจฉริยะรุ่นแรกที่ควบคุมทั้งแสงและสีได้พร้อมกัน เพื่อคุณภาพภาพที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
- • AI Depth เพิ่มมิติและชั้นรายละเอียดของภาพ ทำให้ภาพดูมีความลึกและสมจริง
- • AI Dynamic Tone Mapping Pro ปรับโทนสีอย่างชาญฉลาด แสดงรายละเอียดครบทุกเฉดสีทั้งสว่างและมืด
- • AI Scenario วิเคราะห์และจดจำได้ถึง 26 ฉาก เช่น กีฬา เกม หรือภาพยนตร์ พร้อมปรับภาพอัตโนมัติให้เหมาะกับคอนเทนต์
- • AI Natural Face ถ่ายทอดสีผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ภาพบุคคลดูสมจริงและสวยงาม
- • Pantone Validated & Pantone SkinTone Validated รับรองความเที่ยงตรงของสีและโทนผิวตามมาตรฐานสากล
- • ระบบ HDR ครบวงจร รองรับ Dolby Vision IQ, HDR10+ และ AI HDR Upscaler เพื่อภาพคมชัดระดับโรงภาพยนตร์
- • โหมดการรับชมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น IMAX Enhanced, Filmmaker Mode, AI Sports Mode หรือ 165Hz Game Mode Ultra ทุกโหมดถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในแต่ละรูปแบบการใช้งาน
ประสบการณ์การรับชม (Immersive Experience)
- • จอใหญ่เต็มอรรถรส มอบประสบการณ์เสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ด้วยหน้าจอขนาดพิเศษ 100 นิ้ว และ 116 นิ้ว ที่ให้ภาพเต็มตาและสมจริงกว่าที่เคย
- • Anti-Reflection PRO เทคโนโลยีลดการสะท้อนแสงได้ไม่เกิน 2.2% ทำให้ภาพคมชัดและสีสันสดใส แม้รับชมในห้องที่มีแสงสว่างมาก
- • Immersive Gaming รองรับรีเฟรชเรตสูงสุดถึง 288Hz พร้อม AMD FreeSync Premium Pro, Dolby Gaming และค่าหน่วงต่ำ (Low Latency) เพื่อการเล่นเกมที่ลื่นไหล ตอบสนองทันใจ และสมจริงในทุกจังหวะ
คุณภาพเสียง (Audio)
- • ระบบ 6.2.2 CineStage X Surround มอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางเต็มอารมณ์
- • ร่วมพัฒนากับ Devialet ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงระดับโลก
- • รองรับเทคโนโลยี Dolby Atmos, DTS Virtual:X, WiSA SoundSend และ eARC
- • ฟีเจอร์ AI Scenario Sound Optimiser และ AI Clear Voice ปรับเสียงพูดและเอฟเฟกต์ให้คมชัด เหมาะกับทุกคอนเทนต์
ความชาญฉลาดและการเชื่อมต่อ (Smart & Connectivity)
- • ระบบปฏิบัติการ VIDAA U9 ใช้งานง่ายและตอบสนองเร็ว
- • รองรับการสั่งงานด้วยเสียง Hands-Free Voice Control, Alexa Built-in, และ VIDAA Voice
- • การเชื่อมต่อครบครันทั้ง Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3, HDMI 2.1 (3 ช่อง), USB-C, USB 2.0/3.0
- • ฟีเจอร์อัจฉริยะ เช่น Smart Home Ready, Parental Control, Share to TV
การออกแบบและความยั่งยืน (Design & ESG)
- • Infinity Vision Design ดีไซน์ไร้ขอบ ให้ความหรูหราและทันสมัย
- • Solar Powered Remote รีโมทที่ชาร์จพลังงานด้วยแสงอาทิตย์
- • Green Packaging บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบต่อโลก
- • Energy Saving Mode & Switch-off Timer ช่วยประหยัดพลังงานในทุกการใช้งาน
COMMENTS